:::     :::

เสียงเปรียบเทียบที่เงียบหายของ เบน ไวท์

วันจันทร์ที่ 07 มีนาคม 2565 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
874
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
มีคำถามเกิดขึ้นมากมายในตอนที่ อาร์เซน่อล ทุบคลังเพื่อคว้าตัวกองหลังทีมชาติอังกฤษในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่กลายเป็นว่าตอนนี้เขากำลังสนุกกับฤดูกาลเปิดตัวอันยอดเยี่ยมที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

หลายคนพากันเลิกคิ้วกันมากมาย เมื่อ ปืนใหญ่ เซ็นสัญญา เบน ไวท์ มาจาก ไบรท์ตัน เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว

อันที่จริงมันคงไม่เป็นที่พูดถึงอะไรหาก เดอะ กันเนอร์ส ไม่หน้ามืดคว้าเซนเตอร์แบ็กทีมชาติอังกฤษมายังถิ่นเอมิเรตส์ ด้วยตัวเลขระดับ 50 ล้านปอนด์

ไวท์ เพิ่งจะเคยได้เล่นในพรีเมียร์ลีก เพียงแค่ปีเดียว ก่อนที่ อาร์เซน่อล จะทำให้เขากลายเป็นกองหลังชาวอังกฤษที่แพงที่สุดอันดับสองของโลก หลายคนจึงพากันตั้งคำถามถึงความคุ้มค่าดังกล่าว

"มันยากมากสำหรับผมที่จะเข้าใจว่าทำไม อาร์เซน่อล ถึงกล้าจ่ายเงิน 50 ล้านปอนด์ ให้กับผู้เล่นที่ยังไม่เคยพิสูจน์ตัวเองในเวทีระดับท็อป" วิลเลี่ยม กัลลาส อดีตกัปตันทีม อาร์เซน่อล กล่าว

"ในขณะเดียวกัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถใช้เงินราว 40 ล้านปอนด์ กับ ราฟาแอล วาราน ผู้ซึ่งคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก และแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มา 4 สมัย คุณช่วยอธิบายให้ผมฟังหน่อยสิว่าทำไมมันเป็นแบบนี้?"

"คุณไม่สามารถเปรียบเทียบ เบน ไวท์ กับ วาราน ได้เลย ผมต้องขอโทษด้วย มันเป็นไปไม่ได้"

"มันไม่ใช่เพราะเขาเป็นชาวฝรั่งเศสเหมือนกับผมหรอกนะ แต่เขามาจาก เรอัล มาดริด ไม่ใช่ ไบรท์ตัน"

กัลลาส ไม่ได้เป็นคนเดียวที่เปรียบเทียบดีลของ ไวท์ และ วาราน เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว แต่สื่อสังคมออนไลน์ก็เต็มไปด้วยความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่ อาร์เซน่อล ใช้จ่ายไปเมื่อเทียบกับ ยูไนเต็ด

แต่ที่เอมิเรตส์ ไม่ได้มีความสงสัยนั้นเลย เดอะ กันเนอร์ส เชื่อว่า ไวท์ นั้นคุ้มค่ากับเงินที่พวกเขาจ่ายไป

"เบน เป็นเป้าหมายหลักของเราในซัมเมอร์นี้" เอดู ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิกกล่าวในตอนข้อตกลงเสร็จสิ้น

"เราดีใจที่ เบน เซ็นสัญญากับเรา และเราหวังว่าเขาจะเติบโตไปพร้อมกับเรา"

ใครจะไปคิดว่า ไวท์ เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วตามความตั้งใจของ ปืนใหญ่ จากช่วงเวลาแค่ 8 เดือนนับตั้งแต่เขามายังถิ่นเอมิเรตส์

หลังออกสตาร์ทชีวิตด้วยความยากลำบากในลอนดอนเหนือ ซึ่งเราได้เห็นว่าเขาถูกวิจารณ์อย่างหนักหลังจากทีมแพ้ในเกมเปิดซีซั่นให้กับน้องใหม่อย่าง เบรนท์ฟอร์ด แต่จากนั้นเขาก็ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าทำไม อาร์เซน่อล ถึงกระตือรือร้นที่จะหลอกล่อให้เขาออกจาก ไบรท์ตัน

ดาวเตะวัย 24 ปี ลงเล่นในทุกรายการในซีซั่นนี้ (27 นัด) มากกว่าเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ

เขาได้พิสูจน์ตัวเองอย่างมั่นคงว่าเป็นชื่อแรกในทีมตัวจริงของ มิเกล อาร์เตต้า และการจับคู่ของเขากับ กาเบรียล มากัลเญส กลายเป็นหัวใจสำคัญในเกมรับที่ทำให้ ปืนใหญ่ มีลุ้นกลับไปโม่แข้งในรายการแชมเปี้ยนส์ลีก อีกครั้ง

"เขาพัฒนาขึ้นมากในหลายๆ อย่าง" อาร์เตต้า กล่าวเมื่อเดือนที่แล้ว

"ผมกำลังบอกคุณว่าคุณได้ดูเขาซ้อมในทุกๆ วันแล้วคุณจะทึ่ง ผมคิดว่าเขากำลังลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศทุกวันในการซ้อม"

"นั่นคือสิ่งที่เราต้องการจากผู้เล่นของเรา เพราะเมื่อพูดถึงการแข่งขัน นั่นคือเวลาที่คุณต้องพร้อม"

ไวท์ และ กาเบรียล ได้จับคู่กันครั้งแรกในเกมที่ อาร์เซน่อล เปิดบ้านพบ นอริช เมื่อวันที่ 11 กันยายน

เวลานั้น เดอะ กันเนอร์ส จมบ๊วยของตาราง โดยแพ้มาตลอด 3 นัดแรกในลีก แถมเสียไปถึง 9 ประตู

อย่างไรก็ตาม นับจากนั้นเป็นต้นมา พวกเขาก็เก็บได้ถึง 11 คลีนชีตจาก 22 เกม โดยมีเพียง แมนฯ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล เท่านั้นที่ทำได้ดีกว่าพวกเขา

ฟอร์มของ ไวท์ มีส่วนสำคัญต่อความแข็งแกร่งนั้น และวิธีที่เขากลบเสียงวิจารณ์ที่ได้รับจากนัดแพ้ เบรนท์ฟอร์ด ยังบอกอะไรมากมายเกี่ยวกับคาแรคเตอร์ของเขาด้วย

"เขามีบุคลิกที่ยิ่งใหญ่" อาร์เตต้า กล่าว

"เขามีความกล้าหาญทั้งในการเล่น การตัดสินใจที่จะก้าวไปข้างหน้า"

"เมื่อเขาไม่ได้รู้สึกดี 100 เปอร์เซ็น เขายังคงต้องซ้อมในทุกวัน และเขาก็ทำมันให้ดีที่สุด ในเส้นทางข้างหน้าอีกไกลเขาจะพาคุณไปยังสิ่งที่ยอดเยี่ยม"

"การที่ เบน มาถึงทุกวันนี้เพราะสิ่งที่เขาทำในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เบน ทำงานของเขาในทุกๆ วัน"

สถิติของ ไวท์ ในฤดูกาลนี้แสดงให้เห็นว่าเขามีความสำคัญต่อทีมอายุน้อยของ อาร์เตต้า มากเพียงใด

ไม่มีใครในทีม อาร์เซน่อล ที่ลงเล่นไปมากกว่าจำนวน 2,378 นาทีที่เขาลงสนามไปในทุกรายการ

ในเรื่องของเกมรับ เขารั้งอันดับหนึ่งของการชิงบอลกลับคืนมา (1.4 ครั้งต่อ 90 นาที), อันดับสองในการโหม่งเคลียร์บอล (2 ครั้งต่อ 90 นาที), อันดับสองในการดวลลูกกลางอากาศสำเร็จ (61.3%) และอันดับสามในการเคลียร์บอล (3.1 ครั้งต่อ 90 นาที)

อย่างไรก็ตาม การเล่นของ ไวท์ ไม่ได้จำกัดแค่เรื่องของเกมรับเท่านั้น อันที่จริงเหตุผลสำคัญอีกอย่างที่ อาร์เซน่อล กระตือรือร้นเซ็นสัญญากับเขาก็คือความสามารถในการขึ้นบอลจากแดนหลัง

เขามีค่าเฉลี่ยผ่านบอล 54 ครั้งต่อ 90 นาที โดยมีผู้เล่นแค่ 4 คนเท่านั้นที่ค่าเฉลี่ยดีกว่าเขา ขณะเดียวกัน ไวท์ ก็มีความแม่นยำในการผ่านบอล 84.2%

เรามักเห็น ไวท์ ทะลุขึ้นมาจากแนวรับ และทำให้ ปืนใหญ่ เปลี่ยนสถานการณ์จากรับเป็นรุก ซึ่งนั่นคือส่วนสำคัญในวิธีการเล่นของทีม มิเกล อาร์เตต้า

"เราซื้อ เบน เพราะเราเชื่อว่าเขาไม่ธรรมดา" อาร์เตต้า ยอมรับ

"เขามีความสามารถในการทะลุไลน์ และพาบอลไปเล่นในแนวทางที่พวกเราต้องการ"

"แต่อันดับแรกคือเขาต้องเล่นเกมรับ และผมคิดว่าเขาทำได้ดีมาก"

แน่นอนว่าอาจมีข้อผิดพลาดอยู่บ้างอย่างที่คุณคาดว่าจะเห็นจากการเล่นของเซนเตอร์แบ็กที่ไร้ประสบการณ์ในลีกสูงสุด

แต่จนถึงตอนนี้กับฤดูกาลเปิดตัวของ ไวท์ กับ อาร์เซน่อล ทีม ปืนใหญ่ กำลังกลับมาอยู่ในทิศทางที่ถูกต้องอีกครั้ง และเส้นทางการกลับไปเล่นฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีกถือว่าสดใสมาก

มันอาจมีคำถามมากมายตอนที่เขาถูกเซ็นสัญญาเข้ามา แต่เวลานี้คนที่สงสัยเหล่านั้นได้หุบปากกันไปหมดแล้ว

พาสต้า


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด