เส้นชัยที่ไปไม่เคยถึง
ใช่ ... ฟุตซอลไทยยืนอยู่บนจุดนั้น (ถึงไม่ใช่ก็ใกล้เคียง) กับตัวเลขอันดับ 17 ของโลก ทิ้งห่างจากระดับอาเซียนอยู่ 1-2 ก้าว ยืนตระหง่านเป็น 1 ใน 3 บนห่วงโซ่วงการโต๊ะเล็กเอเชีย
ถึงกระนั้นแชมป์ระดับเอเชียยังเป็น “ฝันร้าย” ที่คอยหลอนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน 14 ครั้งที่ผ่านมา ทีมชาติไทยยังไม่เคยคว้าโทรฟี่มาเชยชมได้สักหน
ผลงานดีที่สุดคือเข้าชิงสองหน ในปี 2008 ที่เราเป็นเจ้าภาพ ทว่าก็เจอฤทธิ์ของพ่อมดตะวันออกกลางอย่าง วาฮิด ซัมซาอี จนแพ้อิหร่านไป 0-4 ก่อนที่ 4 ปีถัดมา ทัพโต๊ะเล็กไทยจะกรุยทางเข้าชิงชนะเลิศอีกหน การตบอิหร่าน ทีมอันดับ 1 ของเอเชียลงได้ สร้างความมั่นใจให้ว่า “เด็กนรก” ชุดนี้จะทวงคืนวันดีดีให้กับทีม
ทว่าคู่ต่อสู้นัดชิงเป็นทีมอันดับ 2 เอเชียอย่าง ญี่ปุ่น และได้สร้างแผลให้อีกครั้ง สกอร์ 1-6 ที่เราพ่าย ส่งให้ทีมชาติไทยต้องร้องเพลง “ที่ 1 ไม่ไหว”
โฆเซ มาเรีย ปุลปิส, วิคเตอร์ เฮอร์มันส์, มิเกล โรดริโก ยังไม่สามารถทำให้แฟนบอลไทยฉีกยิ้มเต็มๆได้สักครั้ง จนวนลูปกลับมาที่ ปูลปิส อีกครั้งในขวบปีนี้
เป้าหมายของ อดิศักดิ์ เบญจศิริวรรณ พ่อใหญ่แห่งโต๊ะเล็กไทยวาดไว้ เราต้องกลับไปยังจุดเดิมที่เคยไปถึงในครั้งก่อนที่ ทาสเคนซ์ ให้ได้เป็นอย่างน้อย นั่นคือรอบรองชนะเลิศ ส่วนที่เหลือก็ปล่อยไปตามหัวใจ
และเป็นอีกครั้งที่ผลการจัลสลากเล่นตลกร้ายใส่ทีมชาติไทย การอยู่ร่วมกับ 3 ทีมจากตะวันออกกลาง ไม่ใช่งานที่ง่าย ทั้ง จอร์แดน, คีร์กิสถาน และ เลบานอน แม้ชื่อชั้น “ช้างศึก” จะเหนือกว่าทุกชาติในสายก็เถอะ
ครั้นเข้ารอบน็อกเอาต์ไป คู่ต่อกรจากตะวันออกกลางอย่าง อิหร่าน และ อิรัก ยังยืนรอเป็นขวากหนาม เรียกว่าหนนี้ไม่มีงานง่าย
แม้ผู้เล่นจะมาจาก ชลบุรี บลูเวฟ ถึง 8 คน เป็นแกนหลักที่เล่นด้วยกันมาหลายสมัย ทว่าการเข้ามาของปูลปิส ในแง่แท็คติกเองต้องทำความเข้าใจในรูปแบบใหม่
การไปเก็บตัวเตรียมความพร้อมถึงประเทศสเปน เพื่อจูนทีมให้แกร่ง ตอบเราได้ดีว่าครั้งนี้เป็นการมุ่งมั่นที่สุดครั้งหนึ่งในการไปสู่เป้าหมาย
...........................
ตัดฉากมาที่เรียลไทม์ ขณะที่ฉันละเลงตัวหนังสือถึงบรรทัดนี้ พบว่า ทีมชาติไทย พ่าย เลบานอน 2-5 ในนัดที่สอง
ส่งให้สถานการณ์นัดชี้ชะตา ช้างศึกโต๊ะเล็ก ต้องเอาชนะ คีร์กีซสถานให้ได้ชอยส์เดียวไม่มีตัวเลือกอื่น และมีโอกาสสูงที่จะเข้าเป็นอันดับสองของสาย หลังคู่ต่อสู้อย่าง เลบานอน จะไปพบกับ จอร์แดน ที่ตกรอบไปแล้วในเกมสุดท้าย
แน่นอนว่าการเข้ารอบเป็นอันดับ 2 ครั้งนี้มีโอกาสสูงลิ่วถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ที่จะไปชนกับ อิหร่าน ทีมอันดับ 5 ของโลก และ อันดับ 1 เอเชียในรอบน็อกเอาต์
เปิดสถิติที่ผ่านมาทีมชาติไทยอาจเคยเอาชนะ อิหร่าน มาได้ ทว่าเมื่อมองตามหน้าเสื่อ และฟอร์มปัจจุบันขณะในรูปแบบการเล่น และการแก้เกมของ ปูลปิส พูดแบบไม่สนหน้าอินทร์พรหม บอกได้เลยว่า "หนัก"
แต่นั่นคือสิ่งคาดการณ์ และยังไม่เกิดขึ้น เมื่อพลาดไปแล้ว ก็ต้องลุกขึ้นสู้อีกครั้ง
อิหร่าน ญี่ปุ่น เราเคยชนะพวกเขามาแล้ว เช่นเดียวกับล่าสุดที่งัดฟอร์มเจ๋ง เสมอ โปรตุเกส อันดับ 4 ฟุตบอลโลกปีล่าสุดได้ในการเก็บตัว ก่อนบินมาแข่งขันทัวว์นาเมนต์นี้
หาข้อผิดพลาดเกมที่ผ่านมา จูนให้ติด เรียกฟอร์มเก่ง และความมั่นใจ กลับมาเป็น “โต๊ะเล็กทีมชาติไทย” แบบเดิมให้ไว
ขยับเข้าไปใกล้เส้นชัยที่ยังไม่เคยไปถึงต่อ...