:::     :::

"มาเน่" แดงหรือไม่

วันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน 2560 คอลัมน์ สนามเด็กเล่น โดย เสือเตี้ย
4,694
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ปฏิเสธไม่ได้ว่าใบแดงของ ซาดิโอ มาเน่ ส่งผลต่อการแข่งขันที่เอติฮัด สเตเดี้ยม อย่างรุนแรงและเกินคาด เมื่อเจ้าถิ่นแมนฯ ซิตี้ไล่อัดลิเวอร์พูลกระเจิง 5-0

เป็นความพ่ายแพ้ที่สาหัสที่สุดในอาชีพของ เจอร์เก้น คล็อปป์ (ความห่าง 5 ประตูเท่ากับตอนคุมไมนซ์ แล้วโดน แวร์เดอร์ เบรเมน ยิง 6-1) และเป็นครั้งแรกในรอบ 80 ปีที่ แมนฯ ซิตี้ ยิง ลิเวอร์พูล ได้ถึง 5 ประตูในเกมเดียว

มาเน่ ที่เพิ่งรับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกประจำเดือนสิงหาคมโดนใบแดงไล่ออกในนาที 37 หลังกระโดดยกขาสูงเล่นบอลแต่พลาดเป้าเข้าใบหน้า เอแอร์ซอน นายทวารเรือใบจนเล่นต่อไม่ไหว (อาการล่าสุดโอเคแล้ว กระดูกบริเวณใบหน้าไม่แตก)

ผู้ตัดสิน จอห์น มอสส์ ชูใบแดงไล่ออกทันที และทำให้โมเมนตัมของเกมเข้าทางแมนฯ ซิตี้ ที่นำอยู่แล้ว 1-0 ก่อนได้อีก 4 ประตูเก็บชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด 

แน่นอนว่าใบแดงนี้นำมาซึ่งข้อถกเถียงพอสมควรเพราะมันคือจุดเปลี่ยนของเกมอย่างแท้จริง

มีความเห็นของอดีตนักฟุตบอลหลายคนที่ออกมาพูดถึงจังหวะนี้ ไปเหตุผลของกลุ่มที่ "ไม่เห็นด้วย" กันก่อน 

"ตัดสินงี่เง่ามากที่ไล่ มาเน่ ออก ทั้งสองต่างวิ่งมาด้วยความเร็วสูง เขา (มาเน่) เพียงต้องการเล่นบอลเหมือนอย่างกองหน้าทั่วไปทำ"...แกรี่ ลินิเกอร์ อดีตหัวหอกทีมชาติอังกฤษในรายการแมตช์ ออฟ เดอะ เดย์ที่เขารับหน้าที่พิธีกร

"ผมมองว่ามันไม่ใช่ใบแดง ตาเขาจ้องที่บอล จังหวะนั้นเขาต้องเล่น เพราะถ้าเขาถึงบอลก่อนจะเป็นโอกาสทอง ผมเสียใจที่ต้องว่า จอห์น มอสส์ คุณเป็นคนทำลายเกมนี้"...แกรี เนวิลล์ อดีตแบ็กขวาแมนฯ ยูไนเต็ด  

"ไม่ควรใบแดง มาเน่ยกเท้าขึ้นมาเพื่อเล่นบอล ตาของเขาจ้องมองที่บอลเพียงอย่างเดียว จังหวะแบบนี้แค่ใบเหลืองก็พอแล้ว"...มาร์ค แคลตเท่นเบิร์ก อดีตผู้ตัดสินพรีเมียร์ลีก

"กีฬาที่มีการปะทะกันในตอนนี้มีความอ่อนไหวในการตีความมากกว่าใช้เซนส์พื้นฐาน จังหวะนี้ไม่ควรแดง"...สแตน คอลลีมอร์ อดีตกองหน้าลิเวอร์พูล 


เด็กหงส์บอกแดง แต่เด็กผีบอกไม่แดง

ขณะที่กลุ่ม "เห็นด้วย" ก็มีหลายคนเช่นกัน

"ต้องใบแดง จริงอยู่ว่าเขา (มาเน่) มองที่บอล แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ได้ทำให้คู่แข่งอยู่ในอันตราย เขาไม่ควรทำแบบนั้น ตอนแรกผมคิดว่าไม่ใช่ แต่พอดูรีเพลย์เห็นสตั๊ดเข้าที่หน้าเท่านั้นแหละ"...เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลังลิเวอร์พูล

 "มันไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่าย แต่มันเป็นใบแดง เจตนาหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็น"...เกรแฮม โพลล์ อดีตผู้ตัดสินพรีเมียร์ลีก 

"เอแดร์ซอน กล้าหาญมากในการออกมา และไม่ต้องสงสัยว่า มาเน่ ต้องแดง"...เดวิด เจมส์ อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษ

"เป็นการปะทะกัน แต่ยกเท้าสูงและอันตรายแบบนั้นต้องแดงสำหรับผม "....เทรเวอร์ ซินแคลร์ อดีตปีกทีมชาติอังกฤษ

แต่ละคนต่างมีมุมมองของตัวเอง เหมือนตีความกฎหมายไปคนละอย่างทั้งที่ใช้ฉบับเดียวกัน


กฎที่ระบุถึงการทำฟาวล์รุนแรงของผู้เล่น

เพื่อให้ได้ความขัดเจนมากขึ้น ต้องไปดูกฎที่เขียนไว้โดย "Ifab" ( The International Football Association Board) ซึ่งเป็นองค์กรที่ควบคุมเกี่ยวกับกฎต่างๆ ในเกมฟุตบอล

มีข้อหนึ่งบอกไว้ชัดเจนว่า "การที่เข้าไปปะทะคู่แข่งที่ทำให้เกิดอันตราย หรือการเล่นรุนแรงเกินรับได้ ถือว่าเป็นการฟาวล์รุนแรงทั้งหมด" 

กฎ กติกา มีการเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรเอาไว้ ความต่างจึงอยู่ที่การนำไปใช้งานจริงของผู้ถือกฎ

ผู้ตัดสินบางคนเคร่งมาก กฎว่าไงก็ต้องตามนั้น มองความปลอดภัยของผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามเป็นสำคัญ ไม่สนใจว่าเจตนาหรือไม่ 

ขณะที่บางคนก็ใช้ดุลยพินิจต่างออกไปในเหตุการณ์เดียวกัน มาเน่ อาจไม่โดนไล่ก็ได้ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ จอห์น มอสส์  

กฎว่าไว้ก็ส่วนนึง การใช้จริงที่ต้องตัดสินใจเฉพาะหน้า มีดุลยพินิจเข้ามาเกี่ยวข้องก็อีกเรื่อง 

เหมือนเวลาขับมอเตอร์ไซค์แล้วไม่สวมหมวกกันน็อก เจอพี่ตำรวจเฮี้ยบๆ ก็โดนใบสั่งแน่นอน แต่บางคนใจดีหน่อยก็อาจแค่ตักเตือน คราวหน้าอย่าให้เจออีกนะ (ไม่อยากพูดถึงทางออกที่ 3 ที่คุยกันได้ง่ายๆ แค่...) 

ผลลัพธ์ต่างกันทั้งที่ความผิดเดียวกัน แล้วประสาอะไรกับการตัดสินใจในสนามกับช่วงเวลาเพียงเสี้ยววินาทีที่ต้องชี้ขาด 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด