"มาเน่" แดงหรือไม่
เป็นความพ่ายแพ้ที่สาหัสที่สุดในอาชีพของ เจอร์เก้น คล็อปป์ (ความห่าง 5 ประตูเท่ากับตอนคุมไมนซ์ แล้วโดน แวร์เดอร์ เบรเมน ยิง 6-1) และเป็นครั้งแรกในรอบ 80 ปีที่ แมนฯ ซิตี้ ยิง ลิเวอร์พูล ได้ถึง 5 ประตูในเกมเดียว
มาเน่ ที่เพิ่งรับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกประจำเดือนสิงหาคมโดนใบแดงไล่ออกในนาที 37 หลังกระโดดยกขาสูงเล่นบอลแต่พลาดเป้าเข้าใบหน้า เอแอร์ซอน นายทวารเรือใบจนเล่นต่อไม่ไหว (อาการล่าสุดโอเคแล้ว กระดูกบริเวณใบหน้าไม่แตก)
ผู้ตัดสิน จอห์น มอสส์ ชูใบแดงไล่ออกทันที และทำให้โมเมนตัมของเกมเข้าทางแมนฯ ซิตี้ ที่นำอยู่แล้ว 1-0 ก่อนได้อีก 4 ประตูเก็บชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
มีความเห็นของอดีตนักฟุตบอลหลายคนที่ออกมาพูดถึงจังหวะนี้ ไปเหตุผลของกลุ่มที่ "ไม่เห็นด้วย" กันก่อน
"ตัดสินงี่เง่ามากที่ไล่ มาเน่ ออก ทั้งสองต่างวิ่งมาด้วยความเร็วสูง เขา (มาเน่) เพียงต้องการเล่นบอลเหมือนอย่างกองหน้าทั่วไปทำ"...แกรี่ ลินิเกอร์ อดีตหัวหอกทีมชาติอังกฤษในรายการแมตช์ ออฟ เดอะ เดย์ที่เขารับหน้าที่พิธีกร
"ผมมองว่ามันไม่ใช่ใบแดง ตาเขาจ้องที่บอล จังหวะนั้นเขาต้องเล่น เพราะถ้าเขาถึงบอลก่อนจะเป็นโอกาสทอง ผมเสียใจที่ต้องว่า จอห์น มอสส์ คุณเป็นคนทำลายเกมนี้"...แกรี เนวิลล์ อดีตแบ็กขวาแมนฯ ยูไนเต็ด
"ไม่ควรใบแดง มาเน่ยกเท้าขึ้นมาเพื่อเล่นบอล ตาของเขาจ้องมองที่บอลเพียงอย่างเดียว จังหวะแบบนี้แค่ใบเหลืองก็พอแล้ว"...มาร์ค แคลตเท่นเบิร์ก อดีตผู้ตัดสินพรีเมียร์ลีก
"กีฬาที่มีการปะทะกันในตอนนี้มีความอ่อนไหวในการตีความมากกว่าใช้เซนส์พื้นฐาน จังหวะนี้ไม่ควรแดง"...สแตน คอลลีมอร์ อดีตกองหน้าลิเวอร์พูล
เด็กหงส์บอกแดง แต่เด็กผีบอกไม่แดง
ขณะที่กลุ่ม "เห็นด้วย" ก็มีหลายคนเช่นกัน
"ต้องใบแดง จริงอยู่ว่าเขา (มาเน่) มองที่บอล แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ได้ทำให้คู่แข่งอยู่ในอันตราย เขาไม่ควรทำแบบนั้น ตอนแรกผมคิดว่าไม่ใช่ แต่พอดูรีเพลย์เห็นสตั๊ดเข้าที่หน้าเท่านั้นแหละ"...เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลังลิเวอร์พูล
"เอแดร์ซอน กล้าหาญมากในการออกมา และไม่ต้องสงสัยว่า มาเน่ ต้องแดง"...เดวิด เจมส์ อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษ
"เป็นการปะทะกัน แต่ยกเท้าสูงและอันตรายแบบนั้นต้องแดงสำหรับผม "....เทรเวอร์ ซินแคลร์ อดีตปีกทีมชาติอังกฤษ
แต่ละคนต่างมีมุมมองของตัวเอง เหมือนตีความกฎหมายไปคนละอย่างทั้งที่ใช้ฉบับเดียวกัน
กฎที่ระบุถึงการทำฟาวล์รุนแรงของผู้เล่น
เพื่อให้ได้ความขัดเจนมากขึ้น ต้องไปดูกฎที่เขียนไว้โดย "Ifab" ( The International Football Association Board) ซึ่งเป็นองค์กรที่ควบคุมเกี่ยวกับกฎต่างๆ ในเกมฟุตบอล
มีข้อหนึ่งบอกไว้ชัดเจนว่า "การที่เข้าไปปะทะคู่แข่งที่ทำให้เกิดอันตราย หรือการเล่นรุนแรงเกินรับได้ ถือว่าเป็นการฟาวล์รุนแรงทั้งหมด"
กฎ กติกา มีการเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรเอาไว้ ความต่างจึงอยู่ที่การนำไปใช้งานจริงของผู้ถือกฎ
ผู้ตัดสินบางคนเคร่งมาก กฎว่าไงก็ต้องตามนั้น มองความปลอดภัยของผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามเป็นสำคัญ ไม่สนใจว่าเจตนาหรือไม่
ขณะที่บางคนก็ใช้ดุลยพินิจต่างออกไปในเหตุการณ์เดียวกัน มาเน่ อาจไม่โดนไล่ก็ได้ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ จอห์น มอสส์
กฎว่าไว้ก็ส่วนนึง การใช้จริงที่ต้องตัดสินใจเฉพาะหน้า มีดุลยพินิจเข้ามาเกี่ยวข้องก็อีกเรื่อง
เหมือนเวลาขับมอเตอร์ไซค์แล้วไม่สวมหมวกกันน็อก เจอพี่ตำรวจเฮี้ยบๆ ก็โดนใบสั่งแน่นอน แต่บางคนใจดีหน่อยก็อาจแค่ตักเตือน คราวหน้าอย่าให้เจออีกนะ (ไม่อยากพูดถึงทางออกที่ 3 ที่คุยกันได้ง่ายๆ แค่...)
ผลลัพธ์ต่างกันทั้งที่ความผิดเดียวกัน แล้วประสาอะไรกับการตัดสินใจในสนามกับช่วงเวลาเพียงเสี้ยววินาทีที่ต้องชี้ขาด