ชนะมากสุด

เกิดขึ้นในแมตช์ที่แมนฯ ยูไนเต็ดไล่ยำอิปสวิช 9-0 เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 1995 ผีแดงได้ถอนแค้นทบต้นทบดอกหลังพลิกพ่ายมา 2-3 ในนัดแรกของฤดูกาล 

"คิงโคล" กด 5 ประตูในเกมผีแดงหลอนม้าขาว

แอนดี้ โคล กระหน่ำคนเดียว 5 ประตู กลายเป็นสถิติชนะขาดลอยมากที่สุดในเกมฟุตบอลลีกรอบ 103 ปี ก่อนหน้านี้ในยุคโบราณเมื่อปี 1892 ผีแดงก็เคยไล่บดขยี้วูล์ฟส์ 10-1 

ประตูรวมมากสุด

ในฤดูกาล 2007-08 พอร์ทสมัธแลกหมัดเร้ดดิ้งชนิดเลือดสาดก่อนจบที่ชัยชนะ 7-4 ของเจ้าถิ่น และสกอร์จะยิ่งมโหฬารกว่านี้หาก เดวิด เจมส์ ไม่เซฟจุดโทษ นิคกี้ ชอรี่ย์

พอร์ทสมัธกับเร้ดดิ้งยิงกันสบั้นหั่นแหลก

20 นาทีสุดท้ายมี 6 ประตูเกิดขึ้น ก่อนจบที่มีถึง 9 คนทำประตูได้ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในนัดเดียวเท่ากับวันที่ อาร์เซน่อล ชนะ สเปอร์ส 5-4 ในฤดูกาล 2004-05 ที่เรียงคิวกันยิงแบบไม่ซ้ำหน้า

7 ประตูของปอมปีย์ในวันนั้นได้จาก เบนจานี่ เอ็มมารูวารี (3 ประตู), เฮอร์มัน ฮไรดาร์สสัน, นิโก้ ครานชาร์, อีวาร์ อิงกิมาร์สสัน และ ซัลลี่ย์ มุนตารี่ ส่วน 4 ประตูของเร้ดดิ้งเป็นผลงานของ สตีเฟ่น ฮันท์, เดฟ คิตสัน, เชน ลอง และ โซล แคมป์เบลล์

เสมอสกอร์มากสุด

เกมนัดที่ 1,500 ของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กับแมนฯ ยูไนเต็ด และเป็นเกมสุดท้ายก่อนวางมือในปี 2013 จบลงในสกอร์สุดเหลือเชื่อเสมอ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 5-5 ที่เดอะ ฮอร์ธอร์นส์ 

โรเมลู ลูกากู ซัดแฮตทริกใส่ผีในนัดอำลาป๋า

ผีแดงนำก่อน 3-0 แต่แบ็กกี้ส์กลับมาได้หน้าตาเฉยจากการยิง 3 ประตูใน 5 นาทีสุดท้าย ทว่าจบเกม ทีมของ เฟอร์กี้ ที่คว้าแชมป์ได้ก่อนหน้านี้ก็ทิ้งห่างแมนฯ ซิตี้ถึง 11 คะแนน และได้รับเสียงปรบมือกึกก้องจากแฟนบอลทั้งสองทีม

โรเมลู ลูกากู ที่เวสต์บรอมวิชยืมมาจากเชลซียิงแฮตทริกได้ในเกมนั้นทั้งที่ลงเป็นสำรองในครึ่งหลัง 

ชนะนอกบ้านมากสุด

เป็นแมนฯ ยูไนเต็ดที่ทำสถิติอีกครั้งหลังซัลโว น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ถึง 8-1 ในฤดูกาลประวัติศาสตร์ 1998-99 ที่คว้า 3 แชมป์อย่างยิ่งใหญ่

ผีแดงเป็นเจ้าของสถิติชนะนอกรังมากสุด

โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ทำสถิติด้วยเช่นกันกับการลงสำรองแล้วยิงได้ถึง 4 ประตู 

พลิกกลับมามีแต้มหลังโดนนำมากสุด

ชีค ติโอเต้ (ผู้ล่วงลับ) เคยพาสาลิกาตีเสมอปืนโต 4-4 แม้โดนนำ 4-0

นิวคาสเซิ่ลสวมวิญญาณนักสู้ไล่ตีเสมออาร์เซน่อล 4-4 อย่างไม่น่าเชื่อทั้งที่ปืนใหญ่นำห่างถึง 4-0 ซึ่งคนที่ยิงประตูให้สาลิกากลับมาเก็บหนึ่งแต้มได้สำเร็จก็คือ ชีค ตีโอเต้ กองกลางไอวอรี่โคสต์ที่เพิ่งเสียชีวิตก่อนวัยอันควรไปเมื่อปีที่ผ่านมา

เหนียวแน่นสุด

ตำแหน่งนี้ต้องยกให้อาร์เซน่อลชุดแชมป์ไร้พ่ายในฤดูกาล 2003-04 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่ อาร์แซน เวนเกอร์ พาทีมได้แชมป์ลีกจนกระทั่งปัจจุบัน

ปืนใหญ่ฤดูกาลนั้นมีทีมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรก็ว่าได้ ทุกตำแหน่งลงตัวหมดไม่ว่าจะเป็น เธียร์รี่ อองรี กับ เดนนิส เบิร์กแคมป์ ในแดนหน้า 

อาร์เซน่อลชุดไร้พ่ายเหนียวแน่นสุดๆ

ตรงกลางเป็มคู่มิดฟิลด์แชมป์โลกทั้ง ปาทริค วิเอร่า กับ จิลแบร์โต้ ซิลวา ขนาบข้างด้วย โรแบร์ ปิแรส และ เฟร็ดดี้ ลุงเบิร์ก ส่วนแนวรับมี โลร็องต์, โซล แคมป์เบลล์, โคโล่ ตูเร่ และ แอชลี่ย์ โคล เป็นกำแพงอันเหนียวแน่น และมีมือกาวจอมเก๋า เยนส์ เลห์มัน ยืนหยัดเป็นคนสุดท้าย 

ปืนใหญ่จบฤดูกาลด้วยการชนะ 26 นัด เสมอ 12 นัด และไม่แพ้ใครเลยซึ่งหนึ่งในวันที่พวกเขารอดตัวหวุดหวิดคือแมตช์ รุด ฟาน นิสเตลรอย พลาดจุดโทษก่อนโดนแข้งอาร์เซน่อลรุมทึ้งนั่นเอง 

วันที่ผีหยุดสถิติปืน

ต่อเนื่องจากฤดูกาลไร้พ่าย อาร์เซน่อล เดินหน้าเหนียวแน่นในฤดูกาลถัดมา แต่สถิติเหนียวแน่นไม่แพ้ใคร 49 นัดของพวกเขาหยุดลงที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในวันที่ 24 ต.ค. 2004

รุด ฟาน นิสเตลรอย พาผีแดงหยุดสถิติปืนโต

รุด ฟาน นิสเตลรอย กับ เวย์น รูนี่ย์ ช่วยกันยิงคนละประตูพาผีแดงเก็บชัย 2-0 ในเกมที่ดุเดือดเลือดสาดที่สุดอีกนัดของคู่นี้ เลยเถิดไปจนถึงเหตุการณ์ในห้องแต่งตัวที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน โดน เชส ฟาเบรกาส ปาพิซซ่าเข้าใส่อย่างจัง 

คนแรก

แมนฯ ยูไนเต็ดเกี่ยวข้องกับสถิตินี้อีกครั้ง แต่ไม่ใช่ในเรื่องดีเพราะตกเป็นเหยื่อของ ไบรอัน ดีน หัวหอกเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่จารึกชื่อตัวเองในฐานะคนทำประตูแรกของ "พรีเมียร์ลีก" ในฤดูกาล 1992-93 ที่เปิดตัวสู่สายตาชาวโลกหลังรีแบรนด์ตัวเองใหม่จากชื่อเดิม "ดิวิชั่น 1"

ไบรอัน ดีน ทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีกด้วยการโขกผีแดง

ยิงตัวเอง

ตลอด 10,000 นัดที่ผ่านมา มีการสกัดบอลเข้าประตูตัวเองมากถึง 888 ประตู ริชาร์ด ดัน อดีตแนวรับแมนฯ ซิตี้ เจอฝันร้ายมากกว่าใครเพื่อนด้วยการยิงทีมตัวเองถึง 10 ครั้ง

ขณะที่ มาร์ติน สเคอร์เทล อดีตกองหลังลิเวอร์พูลเป็นเจ้าของทำเข้าประตูตัวเองสูงสุดในหนึ่งฤดูกาลที่ 4 ครั้ง เกิดขึ้นในฤดูกาล 2013-14 ที่หงส์แดงเกือบคว้าแชมป์ได้นั่นเอง