ปีนี่ ซาฮาวี่ เป็นอีกหนึ่งผู้คร่่ำหวอดในวงการตัวแทนนักฟุตบอล มีวาทศิลป์ในการเจรจาต่อรองไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า จอร์จ เมนเดส หรือ มิโน่ ไรโอล่า สองเอเยนต์ผู้ทรงอิทธิพลในวงการลูกหนังปัจจุบัน 

ซาฮาวี่ เอเยนต์เชื้อสายยิวเข้าสู่วงการลูกหนังในฐานะผู้สื่อข่าวฟุตบอลหลังออกจากมหาวิทยาลัย เขาทำงานกับหลายสำนักข่าวของอิสราเอลทั้ง ฮาดาช็อต ฮาสปอร์ต, เยด็อต อาห์โรน็อธ และ ฮาดาช็อต 

เขาเริ่มเจรจาทำข้อตกลงแรกด้วยการนำ อาวี โคเฮน กองหลังชาวอิสราเอลย้ายจาก มัคคาบี้ เทล อาวีฟ มาค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล ในปี 1979 

ขณะทำงานฐานะนักข่าว ซาฮาวี่ ได้สร้างเครือข่ายผู้ติดต่อมาตลอดช่วงทศวรรษที่ 1980 ก่อนจะลาออกจากงานข่าวในปี 1998 และเจรจาข้อตกลงครั้งที่สองของเขาในปีต่อมา 

นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเป็นตัวแทนนักฟุตบอลอาชีพของ ซาฮาวี่ และยังคงพัฒนาความสัมพันธ์ใกล้ชิดในโลกลูกหนังด้วยการจัดเกมกระชับมิตรในอิสราเอล เชื่อมสัมพันธ์กับผู้เล่นชั้นนำ ซึ่งรวมถึงการเชื้อเชิญ แกรม ซูเนสส์ และ เคนนี่ ดัลกลิช ไปพักผ่อนที่วิลล่าของเขาใน เอลัต เขาทำแม้กระทั่งขนส้มไปที่ เมลวู้ด สนามฝึกซ้อมของ ลิเวอร์พูล เพื่อนำมาเป็นของขวัญสำหรับนักเตะและสตาฟฟ์โค้ชทีมหงส์แดงในขณะนั้น

ซาฮาวี่ ช่วยดำเนินการในการเรื่องย้ายสังกัดของ อาวี โคเฮน มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ในปี 1979 ด้วยค่าตัว 2 แสนปอนด์ หลังการเดินทางไปอังกฤษเป็นประจำเพื่อดูฟุตบอล เขาเป็นคนแนะนำ โคเฮน ให้ ปีเตอร์ โรบินสัน เลขาธิการของทีมหงส์แดงในขณะนั้น ตอนที่ทั้งคู่พบกันที่สนามบินฮีทโธรว์ระหว่างเที่ยวบินดีเลย์เพราะหมอกลงจัด

อีกหนึ่งปีถัดมา ฮาซาวี่ มีส่วนช่วย แบร์รี่ ซิลค์แมน ย้ายจาก มัคคาบี้ เทล อาวีฟ มาเล่นกับ แมนฯซิตี้ ด้วยสัญญายืมตัว ก่อน ซิลค์แมน จะกลายเป็นเอเยนต์นักฟุตบอลหลังจากนั้น

ช่วงปี 1990 ซาฮาวี่ ยังเป็นคนเจรจานำอีกหนึ่งนักเตะอิสราเอล รอนนี่ โรเซนธาล ย้ายจาก สตองดาร์ ลีแอช มาเล่นกับ ลิเวอร์พูล ขณะที่ ดัลกลิช เป็นกุนซือทีมหงส์แดงขณะนั้น

ซาฮาวี่ ได้สร้างเครือข่ายที่กว้างขวางในลีกเมืองผู้ดี ไม่เพียงแต่ละมีมิตรภาพอันดีกับ ซูเนสส์ และ ดัลกลิช เท่านั้น ตัวแทนชาวอิสราเอลยังมีสายสัมพันธ์กับ เทอร์รี่ เวนาเบิ้ลส์, รอน แอตกินสัน และ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน รวมถึงผู้จัดการทีมและนักเตะในเจนเนอเรชั่นต่อไปด้วย

ในปี 1997 ซาฮาวี่ ได้เจรจานำ เอยาล เบอร์โกวิช มิดฟิลด์ชาวอิสราเอลจาก เซาธ์แฮมป์ตัน มาค้าแข้งกับ เวสต์แฮม หลังเคยผลักดัน เบอร์โกวิช ย้ายจาก มัคคาบี้ ไฮฟา มาเล่นกับทีมนักบุญที่มีเพื่อนของเขา ซูเนสส์ เป็นกุนซือด้วยสัญญายืมตัวในปี 1996 

ผลข้างเคียงในการนำ เบอร์โกวิช ย้ายมาค้าแข้งกับ เวสต์แฮม ทำให้ ซาฮาวี่ รู้จักกับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ก่อนจะเป็นผู้รับผิดชอบการเจรจาให้ ริโอ ย้ายไปค้าแข้งกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 18 ล้านปอนด์ในปี 2000 ก่อนจะโยกมาค้าแข้งกับ แมนฯยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์ในอีก 2 ปีต่อมา

ซาฮาวี่ เป็นเพื่อนกับ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่รู้จักกันครั้งแรกในช่วงปลายทศวรรษที่ 1980 และเมื่อเขามีส่วนสำคัญในการผลักดัน เฟอร์ดินานด์ ย้ายมาค้าแข้งกับ แมนฯยูไนเต็ด นับจากนั้น ซาฮาวี่ จะมีส่วนรับผิดชอบการย้ายสังกัดสำคัญๆที่เกี่ยวข้องกับทีมปีศาจแดงเกือบทุกครั้ง

ทั้งการขาย ยาป สตัม ไป ลาซิโอ ด้วยค่าตัว 16.5 ล้านปอนด์ การซื้อ ฮวน เซบาสเตียน เวรอน มาจากทีมอินทรีกรุงโรมด้วยค่าตัว 28.1 ล้านปอนด์ในปี 2001 ตอนที่ เวรอน เซ็นสัญญากับ ลาซิโอ ก็เกิดขึ้นช่วงที่ สเวน-โกรัน เอริคส์สัน เพื่อนของเขาเป็นกุนซือด้วย

ช่วงปี 2003 ซาฮาวี่ ยังมีบทบาทสำคัญในการซื้อกิจการสโมสร เชลซี ของ โรมัน อบราโมวิช และการหลั่งไหลของนักเตะเข้าสู่ 'สแตมฟอร์ด บริดจ์' ในเวลาต่อมา เนื่องจากเป็นหนึ่งในผู้ที่มิอิทธิพลต่อการตัดสินใจของ 'เสี่ยหมี' และคาดว่าจะได้รับเงินค่านายหน้ามากกว่า 5 ล้านปอนด์จากการใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อนักเตะรวมกัน 111 ล้านปอนด์ในช่วงซัมเมอร์นั้นของทีมสิงห์น้ำเงิน

ซาฮาวี่ รู้จักกับ อบราโมวิช ในกรุงมอสโกเมื่อปี 1998 จากการแนะนำของเพื่อนที่รู้จักทั้งสองฝ่าย จากนั้น ซาฮาวี่ เป็นคนเชื้อเชิญให้ 'เสี่ยหมี' ลงทุนซื้อกิจการ เชลซี หลังเอเยนต์ชาวยิวทราบจาก เทรเวอร์ เบิร์ช หัวหน้าฝ่ายบริหารของทีมสิงห์น้ำเงินว่าสโมสรกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่ มีหนี้สินท่วมหัวและไม่สามารถจ่ายค่าจ้างให้นักเตะ 

นั่นจึงเป็นที่มาของ เชลซี ยุคที่มีเจ้าของชื่อ อบราโมวิช ก่อน 'เสี่ยหมี' จำเป็นต้องหาทางปล่อยสโมสรหลังถูกรัฐบาลอังกฤษคว่ำบาตร ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจาก วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียสั่งกองทัพรุกรานประเทศยูเครน และ อบราโมวิช ถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในคนใกล้ชิดของผู้นำเมืองหมีขาว

ซาฮาวี่ ดำเนินการตามแนวทางของเขาทั้งหน้าฉากและหลังฉาก แน่นอนว่าเขาถูกหลายฝ่ายจ้องจับผิดโดยเฉพาะพรีเมียร์ลีกที่เคยตั้งคณะกรรมการอิสระสอบสวนเขาและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกรณีแอบติดต่อให้ แอชลี่ย์ โคล ย้ายมาค้าแข้งกับ เชลซี จนถูก อาร์เซน่อล ร้องเรียน หรือเคสที่พยายามจะผลักดัน ริโอ เฟอร์ดินานด์ ย้ายจาก แมนฯยูไนเต็ด มาค้าแข้งกับทีมสิงห์น้ำเงินในปี 2005

ในปี 2006 ซาฮาวี่ ยังมีส่วนช่วย อเล็กซานเดร กายดามัค นักธุรกิจเชื้อสายอิสราเอล-รัสเซียนซื้อกิจการสโมสร พอร์ทสมัธ จาก มิลาน มานดาริช 

จากนั้น ซาฮาวี่ ยังมีบทบาทสำคัญในการย้ายสังกัดด้วยมูลค่าสูงสุดในโลก หลังมีส่วนผลักดันให้ เนย์มาร์ ดา ซิลวา จูเนียร์ ย้ายจาก บาร์เซโลน่า มาค้าแข้งกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในช่วงซัมเมอร์ปี 2017 ด้วยค่าฉีกสัญญา 222 ล้านยูโร ในฐานะที่ปรึกษาของ เนย์มาร์ ซีเนียร์ บิดาของนักเตะ 

ผลงานชิ้นล่าสุดของ ซาฮาวี่ คือการผลักดัน ดาวิด อลาบา ย้ายจาก บาเยิร์น มิวนิค มาค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด แบบไม่มีค่าตัวในช่วงซัมเมอร์ปี 2021 พร้อมเสียงด่าไล่หลังจาก อูลี่ เฮอเนส อดีตประธานทีมเสือใต้ที่หัวร้อนจากการเรียกร้องผลประโยชน์เกินงามระหว่างการเจรจาเรื่องข้อตกลงใหม่ 

เฮอเนส ด่า ซาฮาวี่ ต่อหน้าสื่อมวลชนว่าเป็น 'ปิรันย่าจอมตะกละ' 

และ 'ปิรันย่าจอมตะกละ' กำลังจะสร้างปัญหาให้ทีมดังแคว้นบาวาเรียอีกครั้ง แต่นั่นเป็นงานของเขาในการเรียกร้องผลประโยชน์ให้นักเตะภายใต้การดูแลอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ 

เลวานดอฟสกี้ ทำผลงานยอดเยี่ยมนับตั้งแต่ย้ายมาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แบบไม่มีค่าตัวในช่วงซัมเมอร์ปี 2014 กองหน้าชาวโปลทำ 339 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการ 368 เกม ขณะที่สัญญาของดาวยิงวัย 33 ปี มีจนถึงช่วงซัมเมอร์ปี 2023 เท่านั้น

ฮาซาวี่ พยายามสร้างความกดดันต่อ บาเยิร์น มิวนิค ให้เร่งดำเนินการเรื่องข้อตกลงใหม่กับ เลวานดอฟสกี้ โดยตัวแทนของดาวยิงทีมชาติโปแลนด์กำลังใช้เวทมนตร์ของเขาผลักดันนักเตะในการดูแลย้ายไปค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า หรือ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในช่วงซัมเมอร์นี้ 

มันอาจเป็นความตั้งใจจริงของ ฮาซาวี่ ที่ต้องการทำให้เกิดการย้ายครั้งนี้ หรือตัวแทนชาวยิวเพียงต้องการใช้ บาร์ซ่า กับ เปแอสเช เป็นเครื่องมือบีบให้ทีมเสือใต้ตอบสนองความต้องการของพวกเขาโดยเฉพาะเรื่องระยะเวลาของสัญญาใหม่อย่างน้อย 3 ปี

ส่วนอนาคตของ เลวานดอฟสกี้ จะลงเอยด้วยการค้าแข้งในมิวนิคต่อหรือย้ายออกไปแสวงหาความท้าทายครั้งใหม่ในอาชีพค้าแข้งโปรดติดตามกันในช่วงซัมเมอร์นี้