แฟนบอลเกือบเต็มความจุสนาม หวังแหกปากตะโกนสะใจ สุดท้ายทำได้แค่เงียบฉี่ พลุไฟ แสงสี เสียง เวทีที่เซ็ตฉากเตรียมไว้ ถูกม้วนเก็บไม่ได้ใช้งาน
ผลเสมอ เชียงราย ยูไนเต็ด 1-1 แม้โอกาสยังเปิดกว้างอีกถึง 2 เกม ที่ลูกทีม ‘ลุงเน’ ขออีกแค่ 2 แต้ม ก็จะคว้าโทรฟี่อยู่ดี แต่การอดเริงร่าสะใจในบ้านตัวเอง ก็ทำเสียอารมณ์ไปตาม ๆ กัน
ก่อนเกมจะเริ่มแฟน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รู้อยู่แล้วว่าแมตช์นี้ไม่ใช่เกมที่ง่าย จากสภาพทีมที่ขาด 2 กองหน้าตัวเป้าอย่าง ศุภชัย ใจเด็ด ที่บาดเจ็บปิดเทอมไป และ โจนาธาน โบลินกิ ที่ถูกแบน
มาซาทาดะ อิชิอิ ตัดสินใจใช้ อ่อง ธู ยืนคู่ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ในแดนหน้า โดยมี สุภโชค สารชาติ คอยซัพพอร์ตเกมรุก
แต่เมื่อไม่มีกองหน้าตัวเป้าจริงจัง บวกกับสรีสะทั้ง อ่อง ธู และ ศุภณัฏฐ์ ที่ไม่ได้สามารถยืนคล้ำชนกับแนวรับ “กว่างโซ้ง” ได้ ทำให้แนวรับเชียงราย ไม่ต้องเจองานที่ลำบากยากเย็นนัก
แม้โมเมนตั้มเกมจะเป็น บุรีรัมย์ ดาหน้าเข้าใส่ไม่ยั้ง แต่ประสิทธิภาพในพื้นที่สุดท้ายยังไม่เฉียบขาดพอ ตรงกันข้ามกับ เชียงราย ที่ตั้งรับ เล่นรอสวนกลับอย่างใจเย็น
อย่างไรก็ดีเริ่มครึ่งหลัง เกมกลับมาเป็นใจให้ บุรีรัมย์ จากจังหวะที่ ธนะศักดิ์ ศรีใส ไปดึง อ่อง ธู ล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินดูวีเออาร์แล้วเห็นว่า “เจ้าบี” ทำฟาล์วจริง จึงไม่รีรอชักใบแดงไล่ออก พร้อมมอบจุดโทษให้ บุรีรัมย์ และเป็น สุภโชค ที่ซัดให้เจ้าถิ่นออกนำ 1-0
ถึงตรงนี้ แชมป์อยู่ในมือ บุรีรัมย์ แล้ว ทั้งผลการแข่งขันที่นำ รูปเกมและตัวผู้เล่นที่เหนือกว่า แค่เล่นตามเกม ใช้ความได้เปรียบที่มีค่อย ๆ นวดเอาประตูที่ 2
แต่อย่างที่บอกไปว่าการขาด 2 ดาวยิงตัวหลักไป ทำให้บอลพื้นที่สุดท้ายไม่แจ่มว้าวเท่าที่ควร โอกาสเจ้าบ้าน 18 ครั้ง แต่กลับไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูเพิ่มได้
และต้องมาช็อกปากค้างในช่วงก่อนหมดเวลา 4 นาที หลังเสียฟรีคิกริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เกทเตอร์สัน กองหน้าที่ทั้งเกมไม่ได้โอกาสง้างตีนลุ้นประตูเลย ปั่นฟรีคิกด้วยอีขวาบอลลอยข้ามกำแพง พุ่งเสียบเสาไกลอย่างงามหยด
ตีเสมอแบบช็อกสาวก “ปราสาทสายฟ้า” ทั้งสนาม
เชียงราย สามารถยื้อผลเสมอไว้ได้จนจบเกม พังงานฉลองเจ้าบ้านลงอย่างราบคาบ ทั้งที่โอกาสจบสกอร์ตลอด 90 นาทีมีเพียง 3 ครั้ง
ส่วนหนึ่งต้องยกเครดิตให้ เชียงราย ด้วย ที่ทำการบ้านเกมรับมาอย่างดี เล่นอย่างอดทน รู้ว่าจะสู้อย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้ เอาเข้าจริงหากไม่นับจุดโทษที่เสียไป บุรีรัมย์ อาจเจาะพวกเขาไม่เข้าด้วยซ้ำ
บุรีรัมย์ เก็บเพิ่มเป็น 59 คะแนน ท่ามกลางความจ๋อยของแฟน ๆ และนักเตะ
จากแชมป์ที่ว่าแน่ ๆ นำคู่แข่งอย่าง บีจี ปทุมฯ 12 แต้ม ตอนนี้ถูกลดช่องว่างเหลือ 5 แต้ม กับอีก 2 เกมที่เหลือ
บุรีรัมย์ ไม่ชนะใครมาติดกัน 4 นัดแล้ว น่าสนใจว่าทีมจะแก้ไขโจทย์ปัญหานี้อย่างไร ในเกมที่ต้องออกไปเยือน หนองบัว พิชญ ในเกมสุดสัปดาห์นี้
ใช่ … แค่พวกเขาชนะคือจบ ฉลองได้ทันที แต่นาทีนี้ “ความไม่แน่นอน” ย่อมเกิดขึ้นได้
ยิ่งเกมที่จะถึงนี้ทีมจะยังไร้ โบลินกิ ที่ต้องใช้โทษแบนอีก 1 นัด ศุภชัย ใจเด็ด ที่เจ็บยาว ไหนจะเกมรับอย่าง นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ที่ลงไม่ได้อีก
จะได้ฉลองสุดสัปดาห์นี้ หรือจะม้วนเสื่อเลื่อนไปถึงเกมสุดท้าย
ทุกอย่างล้วนอยู่ที่ บุรีรัมย์ เอง
