:::     :::

ต้องชนะ ... เท่านั้น

วันศุกร์ที่ 15 เมษายน 2565 คอลัมน์ ผีตัวที่ 13 โดย โกสุ่ย
1,764
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ผ่านไปเกือบสัปดาห์หลังการปราชัย เอฟเวอร์ตัน ซึ่งสร้างความเดือดดาลให้แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่น้อย

ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ แต่หากพิจารณาจากผลงานของ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน แม้จะไปเยือนถึง กูดิสัน พาร์ค กระนั้นสาวกปิศาจแดงต่างคาดหวังว่าทีมจะได้ผลการแข่งขันที่ดีกลับออกมา

ทุกอย่างก็เป็นไปอย่างที่เห็นและรับทราบกันไปแล้วว่าลูกทีมของ ราล์ฟ รังนิก กลับออกมาในฐานะผู้แพ้ทำให้ 3 นัดหลังจากทุกรายการสะกดคำว่า 'ชนะ' ไม่เป็น หรือ 7 เกมหลังสุดคว้าชัยมาได้เพียงนัดเดียวเท่านั้น

สิ่งที่น่ากังวลมากกว่าการปราชัยนัดล่าสุดคือสปิริตภายในทีมที่กำลังถูกสั่นคลอนและมีปัญหาทุกครั้งในยามลงสนาม แม้บรรยากาศการซ้อมจะดูดีมีร้อยยิ้ม แต่นั่นก็คือการซ้อมเพราะแรงกดดันแตกต่างจากการลงสนามอย่างมาก

ปัญหาเหล่านี้เห็นได้ชัดเจนไม่ว่านักเตะแมนฯ ยูไนเต็ด ลงเล่นที่ไหน จะใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด หรือยามออกไปเยือน ตอนที่ทีมเจอแรงกดดัน เจอทางตันในการเล่นงานคู่แข่ง ท่าทางสีหน้าแสดงออกมาให้เห็นเลยว่าไม่นิ่งพอและมีความกังวลเกิดขึ้นในแววตา

อย่างที่ย้ำตลอดว่าปัญหาสำคัญคือ แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงที่ผ่านมาคือการจบสกอร์ แม้จะครองบอลมากกว่าคู่แข่งแต่จังหวะสุดท้ายกลับไร้ประสิทธิภาพ





ผลเสมอที่ไม่น่าเสมอ ผลการแข่งขันที่ต้องการกลับหลุดลอยไป และนั่นได้สั่งสมบ่มเพาะกลายเป็นปัญหาใหญ่เกาะกินนักเตะที่ตอนนี้หาทางแก้ได้ยากนัก

เกมต่อไปคือการเปิดบ้านรับมือ นอริช ทีมบ๊วยของตาราง แน่นอนว่าหากมองจากหน้ากระดาษ ปิศาจแดง เป็นต่อทุกด้าน แต่หากถามแฟนบอลตรงๆ ณ เวลานี้ หลายคนก็อาจจะลังเลตอบออกมาว่าแข้งผีแดงจะเอาชนะคู่แข่งได้หรือไม่

นั่นคือโจทย์สำคัญและเป็นปัญหารุมเร้า ราล์ฟ รังนิก มาโดยตลอด การเข้าทำที่ไม่ได้มีความหลากหลายหรือมีประสิทธิภาพมากพอส่งผลให้ผลงานออกมาอย่างที่เห็น

หลายทีมจับทางได้และปิดกั้นการขึ้นเกมรวมไปถึงจับตายตัวอันตรายไม่ให้เล่นแบบง่ายๆ หากทาง ปิศาจแดง อยากครองบอลก็ครองไป เพราะท้ายที่สุดหากไม่สามารถลำเลียงไปยังพื้นที่อันตรายก็ไร้ซึ่งพิษสง

สิ่งที่แฟนบอลอยากเห็นคือการกลับมาทำผลงานที่ดีอีกครั้ง และเกมวันเสาร์นี้ถือเป็นโอกาสอันดี แถมยังมีความสำคัญอย่างมาก เพราะผลการแข่งขันอาจจะกำหนดอะไรหลายๆ อย่างหลังจากนี้ให้เห็นได้อย่างชัดเจน

อย่าลืมว่าหมดโปรแกรมวันเสาร์ไป หลังจากนั้น รังนิก และลูกทีมต้องเจองานหนักกับการออกไปเยือน ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล ซึ่งหากยังคงทำผลงานออกทะเลก็มีโอกาสที่จะศพไม่สวยในสองเกมหลังจากนี้




ที่กล่าวว่าการเจอ นอริช เป็นโอกาสอันดี เพราะมองว่านี่จะเป็นเกมให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เรียกความมั่นใจกลับมา เรียกคืนสปิริตภายในทีมให้กลับมาหลอมรวมอีกครั้งก่อนเข้าสู่โปรแกรมโหดก็ถือเป็นจังหวะที่เหมาะสม แม้ว่าสปิริตดังกล่าวไม่ได้สร้างมาง่ายๆ เพราะมันมาจากผลการแข่งขันที่ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ ผีแดง ขาดหายไปในช่วงหลัง แต่หากเอาชนะ นอริช สิ่งต่างๆ ก็อาจจะดีขึ้นมาบ้าง

เมื่อทีมทำผลงานไม่ปะติดปะต่อบวกกับผลการแข่งขันไม่เข้าทาง เราจึงเห็นสภาพอย่างที่เกิดขึ้นกับ ยูไนเต็ด ในช่วงเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา

นับเป็นการบ้านและงานที่ รังนิก ต้องพยายามเคี่ยวเข็ญลูกทีมให้งัดศักยภาพและผลงานคืนมาให้ได้ แถมหลายฝ่ายมองว่าเกมวันเสาร์นี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีเพราะคู่แข่งอยู่อันดับท้ายตาราง แม้ เดอะ คานารี่ส์ พร้อมสู้เพื่อพลิกชะตาตนเอง แต่ทาง ผีแดง เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด

อันที่จริงจะว่าเป็นดาบสองคมก็ใช่อยู่ แม้ตามหน้ากระดาษจะเหนือกว่า นอริช หลายช่วงตัว แต่อย่าลืมว่า ยูไนเต็ด ก็ลูกผีลูกคนเอาแน่เอานอนไม่ได้ นอกจากจะต้องสู้กับทีมหนีตาย ฝั่ง ปิศาจแดง ยังต้องสู้กับแรงกดดันของตนเองที่ค่อยๆ กดทับและกลายมาเป็นปัจจัยด้านลบของทีมในช่วงที่ผ่านมา

กับโจทย์ที่ต้องชนะเท่านั้น มันคืองานที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องทำให้สำเร็จโดยไร้เงื่อนไข เพราะหากพวกเขายังคงมุ่งมั่นกับความหวังอันน้อยนิดในการติดโควตา แชมเปี้ยนส์ ลีก เกมวันเสาร์นี้ก็ต้องจบลงด้วยชัยชนะอันงดงามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แต่ ... ถ้าท้ายที่สุดยังคงจบลงแบบน่าผิดหวัง สิ่งที่น่าเป็นห่วงกว่าผลการแข่งขันคงเป็นสภาพจิตใจที่ยากจะฟื้นคืนของนักเตะเสียมากกว่า



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})