:::     :::

ฟ้าหลังฝนของ "เจ" ชนาธิป

วันอังคารที่ 19 เมษายน 2565 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
1,019
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
แต่ละก้าวของชีวิตคน เหมือนกับการเดินทางขึ้นยอดเขา ต้องผ่านอุปสรรคมากมาย ทั้งความสูงชัน ความเหนื่อยล้า หากถอดใจกลางคันก็ยากที่จะไปถึงจุดสุดยอด

ในการเป็นนักฟุตบอลของชายที่ชื่อ “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ เอาชนะปัญหามานับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการสู้กับเสียงดูถูกว่า “ตัวเล็กแบบนี้คงเป็นนักฟุตบอลไม่ได้” 

แต่เขาเอาชนะน้ำลาย และเดินหน้าสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ประสบความสำเร็จกับสโมสรต้นสังกัด ก้าวไปติดทีมชาติไทย มอบความสุขให้แฟนบอลไทย และได้ย้ายไปเล่นลีกระดับเอเชียอย่าง เจลีก ญี่ปุ่น

เขาต้องต่อสู้เพื่อเอาชนะใจโค้ช “มิไฮโล เปโตรวิช” และเพื่อนร่วมทีม ก่อนจะยึดตัวจริงชนิดที่ทีมขาดไม่ได้ในเวลาต่อมา 

จากนั้นเขาถูกยกให้เป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของ “คอนซาโดเล่ ซัปโปโร่” และกลายเป็นขวัญใจของชาวฮอกไกโด 


เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม เขาก้าวออกจากคอมฟอร์ดโซนไปเล่นให้ยอดทีมของลูกหนังแดนปลาดิบอย่าง “คาวาซากิ ฟรอนตาเล่” ด้วยค่าตัวสูงเป็นประวัติศาสตร์สโมสรและวงการฟุตบอลญี่ปุ่น 

แน่นอนด้วยมูลค่ามหาศาลทำให้เขาถูกคาดหวังว่าจะพา “ฟรอนตาเล่” ป้องกันแชมป์เจลีกให้ได้อีกครั้ง หลังจากฟาดแชมป์ลูกหนังลีกแดนซามูไรมา 2 ปี ติดต่อกัน 

แต่ชีวิตในถิ่น โทโดโรกิ สเตเดียม ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่คิด แม้จะมีประสบการณ์ค้าแข้งในเจลีกมากมาย แต่ที่นี่แตกต่างออกไป 


แท็คติคของ “เทรุ โอนิกิ” แยบยลซับซ้อน แถมการขาดหลายไปของตัวหลักหลายคนที่ย้ายไปเล่นในยุโรป ทำให้ทีมไม่ได้แกร่งเหมือนในอดีต 

นั่นทำให้ความคาดหวังต่างๆ ของแฟนบอลตกมาอยู่ที่ 2 บ่าของ “เจ” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แม้จะทำไปแล้ว 1 แอสซิสต์ในเจลีก แต่มันยังไม่เพียงพอ แถมฟอร์มการเล่นของ “ฟรอนตาเล่” เองยังไม่เสถียร ทำให้ฟอร์มของ “เจ” จึงแกว่งตามไปด้วย จนถูกดร็อปจากทีมตัวจริงไป 3 นัด 

แบ่งออกไปเป็น เจลีก 2 นัด ในเกมเสมอ จูบิโล่ อิวาตะ ไป 1-1 และ เอาชนะ คาชิว่า เรย์โซล ไป 1-0 และฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม สาย ไอ นัดแรกที่เสมอกับ อูลซาน ฮุนได จากเกาหลีใต้ ไป 1-1 


ทว่าเกมต่อมาในศึกชิงเจ้าสโมสรเอเชีย “เทรุ โอนิกิ” ตัดสินใจมอบโอกาสให้ “เจ” พิสูจน์” ฝีเท้าอีกครั้ง นับเป็นการกลับมาเล่นฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มในเกมเจอ กว่างโจว เอฟซี

ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีของ เจ ที่ได้กลับมาวาดลวดลายในรายการนี้อีกครั้งนับตั้งแต่เล่นให้ “เมืองทอง ยูไนเต็ด” เมื่อปี 2017

ซึ่ง “เจ” พาบิ๊กทีมจากแดนปลาดิบโชว์ฟอร์มโหดเอาชนะบิ๊กทีมจากแดนมังกรที่ขนผู้เล่นดาวรุ่งมาแข่งขันไป 8-0 


โดยตลอดเวลา 90 นาที ในสนามเขาเล่นได้อย่างมั่นใจและทำไป 1 ประตู เมื่อเลี้ยงฝ่าแนวรับ กว่างโจว แล้วสับไกยิงบอลตุงตาข่ายอย่างสุดสวย จังหวะดีใจพนมมือมองขึ้นไปบนฟ้าบ่งบอกเลยว่า “เจ” คลายความกดดันลงไปไม่น้อย

เมื่อเปิดเผยสถิติต่างๆ ออกมา ปรากฎว่า “เจ” จ่ายบอลแม่นยำถึง 85.7% และจ่ายบอลสำเร็จไป 66 ครั้ง สร้างสรรค์โอกาสทำประตู  2 ครั้ง และยิงไป 1 ประตู

หวังว่าประตูนี้จะเป็นประตูปลุกความมั่นใจให้ “เจ” คืนฟอร์มเทพ และกลับมายึดตัวจริงของ “ฟรอนตาเล่” ให้ได้


และฟ้าหลังฝนของ “เจ” ครั้งนี้จะสดใส และทำให้ชีวิตนักเตะอาชีพในคราบ “ฟรอนตาเล่” ซาบซ่านอีกหน

ตลอดชีวิต 28 ปี เขาเอาชนะ อุปสรรค มาได้ตลอดหวังว่าครั้งนี้เขาจะทำได้อีกครั้ง 

เป็นกำลังใจให้...ท้อเป็นถ่าน ผ่านเป็นหินครับ


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด