:::     :::

ความทรงจำปีศาจแดงกับ "กาก้า"

วันศุกร์ที่ 22 เมษายน 2565 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
1,422
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
วันนี้ (22 เมษายน)

ถือเป็นวันคล้ายวันเกิดของกาก้า อดีตจอมทัพทีมชาติบราซิล และแข้งดังของเอซี มิลาน ที่มีอายุครบ 40 ปี แน่นอนว่า หลายคนจดจำภาพของเขา ในฐานะนักเตะหน้าตาดี และมีความเป็นสง่า อย่างไรก็ตาม นี่คือแข้งที่มีพรสวรรค์ที่โดดเด่นเช่นเดียวกัน 


ปฏิเสธไม่ได้ว่า ช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมสุดในเส้นทางลูกหนังของกาก้า เกิดขึ้นในสมัยที่เข้าย้ายมาเล่นกับยักษ์ใหญ่ของลีกอิตาลี อย่างเอซี มิลาน โดยเขาผ่านการคว้าแชมป์รายการสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นศึก กัลโช่ เซเรีย อา, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และสโมสรโลก


ซึ่งที่ปีศาจแดงดำกาก้า สามารถคว้ารางวัลส่วนตัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างบัลลงดอร์ มาครองได้อีกด้วย ถือเป็นความสำเร็จที่ติดตัวเขาไปตลอดกาล ช่วงนี้ เราลองไปย้อนความทรงจำ สมัยที่เข้าย้ายมาแจ้งเกิดที่เอซี มิลาน กันหน่อยดีกว่า 

เอซี มิลาน คว้าตัวนักศึกษามาร่วมทีมหรือไง ?”


คาร์โล อันเชล็อตติ อดีตผู้จัดการทีมเอซี มิลาน ออกมาย้อนความหลัง ปนกับความขำ ถึงเด็กหนุ่มหน้าใสอย่างกาก้า ที่ย้ายจากประเทศบราซิล มาร่วมทีม "รอสโซเนรี่" เป็นครั้งแรก ในช่วงปี 2003 ถือเป็นการซื้อที่เปลี่ยนชะตาของสโมสรไปเหมือนกัน 


ช่วงเวลานั้น กุนซือชาวอิตาเลี่ยน ยังไม่รู้จักดาวรุ่งวัย 21 ปีรายนี้มากเท่าไรนัก ซึ่งมองว่า ด้วยรูปลักษณ์ที่หล่อเหล่า ทรงผมที่เรียบร้อย แว่นตาบนใบหน้า และบุคลิกภาพที่นุ่มนวล น่าจะไปเข้าไปอยู่ในมหาวิทยาลัยมากกว่าที่จะเป็นสนามฟุตบอล โดยเฉพาะลีกมหาโหด และเน้นเกมรับรัดกุมอย่างอิตาลี


"หลังจากนั้น กาก้า เดินทางมาฝึกซ้อมกับเราเป็นครั้งแรก" อันเชล็อตติ กล่าวต่อ "ผมยังพูดติดตลกกับเขาเลยว่า -นายบอกพ่อกับแม่หรือยังว่า วันนี้นายไม่ได้ไปโรงเรียน ? นายรู้ใช่มั้ยว่า นี่มันคือที่ของผู้ใหญ่ ไม่ใช่ที่ของเด็กที่จะมาวิ่งเล่น ?-“


สำหรับผม แอบคิดเล่นๆว่า ความจริงหน่วยรักษาความปลอดภัยน่าจะขอตรวจบัตรประจำตัว ก่อนจะปล่อยตัวเขาเข้ามาด้วยซ้ำ"หลังจากทักทายกันแบบน่ารักแล้ว ถึงเวลาที่ดาวรุ่งรายนี้ จะได้ลงไปฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมใหม่ 

ซึ่งประกอบไปด้วยบรรดานักเตะดาวดัง และนักเตะระดับโลกมากมาย ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ความคิดของอันเชล็อตติ เปลี่ยนแปลงไป โดยอันเช่ กล่าวว่า "เจนนาโร่ กัตตูโซ่ ปรี่เข้ามาเสียบเขาอย่างหนัก !!! แต่กาก้า ไม่เสียการครองบอลที่เท้าเลย กัตตูโซ่ ถึงกับสบถออกมาว่า -ไอ้บ้าเอ้ย !!!!-"


"จากนั้น กาก้า ซัดบอลกว่า 30 หลา ฝ่าด่านปราการหลังอย่างอเลสซานโดร เนสต้า ไปอีกคนอย่างสมบูรณ์แบบ นั่นคือการฝึกซ้อมครั้งแรกของเขา ซึ่งการฝึกซ้อมครั้งที่ 2, ครั้งที่ 3, ครั้งที่ 4 และครั้งที่ 5 ก็ยังเป็นเหมือนเดิมทุกครั้ง มันเหมือนการแสดงโชว์เลยล่ะ"


สำหรับมุมมองของผม กาก้า ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับซีเนอดีน ซีดาน หรอกนะ แต่มันก็ใกล้เคียงมากเลยล่ะ เขาถือว่าผู้เล่นที่ดีสุดเป็นอันดับ 2 เท่าที่ผมเคยกุมบังเหียนมา ทว่าเป็นนักเตะที่ฉลาดเป็นกรดที่สุด" อันเช่ ทิ้งท้าย

ขณะที่กาก้า ออกมากล่าวถึงสไตล์การเล่นส่วนตัวบ้างว่า ผ่านจากการฝึกซ้อมอย่างหนัก ทำให้เขากลายเป็นนักฟุตบอลที่สามารถเล่นได้ทั้งสองเท้า รวมถึงเป็นนักเตะที่สามารถวิ่งไปกับบอลด้วยความเร็วสูงได้ จนบรรดาคู่แข่งไล่ตามประกบไม่ทัน 


ผมทำงานหนัก เกี่ยวกับการสร้างสมดุลร่างกายกาก้า เริ่มเล่า 


ย้อนกลับไป ตอนที่ผมยังเป็นเด็ก ผมคิดว่าสมดุลของร่างกาย เป็นคุณลักษณะที่สำคัญของนักฟุตบอล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เวลาคุณวิ่งด้วยความเร็ว โดยทุกครั้งที่ผมจ่ายบอล หรือยิงประตู ผมจะทำด้วยเท้าเพียงข้างเดียว การทรงตัวจึงเป็นกุญแจสำคัญในการควบคุมร่างกาย


ทุกอย่างเกี่ยวกับการฝึกซ้อม ตอนที่ผมยังอายุน้อย ผมมักจะฝึกฝนการเล่นฟุตบอล ด้วยเท้าทั้งสองข้าง ผมชอบเตะบอลอัดกำแพง ทำซ้ำไปซ้ำมา คุณต้องพัฒนาทักษะให้ดีที่สุด และใช้จุดแข็งของตัวเอง ดังนั้น ผมจะฝึกการใช้เท้าขวามากกว่าเท้าซ้าย แม้ว่าผมจะถนัดทั้งสองเท้าก็ตาม


ผมเป็นนักเตะที่ค่อนข้างผ่อนคลายเวลาอยู่ในสนาม ที่บราซิล มันเป็นเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ และการทำในสิ่งที่แตกต่างออกไป เวลาที่คุณลงสนามแบบใจเย็น คุณจะเข้าใจสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะตอนที่ผมยังเป็นเด็ก ผมเคยลงเล่นด้วยความตื่นตระหนก กระนั้น ความสงบนิ่งจะมาพร้อมกับประสบการณ์


กาก้า ทิ้งท้ายถึงช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่สุดในการค้าแข้งว่าย้อนกลับไปปี 2007 ผมมีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมกับเอซี มิลาน ภายใต้การคุมทีมของคาร์โล อันเชล็อตติ ผมเล่นเป็นกองหน้าตัวต่ำ ซึ่งมันก็หมายความว่า ผมไม่ได้มีความรับผิดชอบในการเล่นเกมรับมากนัก


ดังนั้น พลังงาน และสมาธิของผม จึงไปอยู่ที่การยิงประตู และการแอสซิสต์ โดยถือว่าเป็นช่วงเวลาที่น่าเหลือเชื่อ ในเส้นทางลูกหนังของผมเลย


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด