:::     :::

ช่วงเวลาสุดพิเศษของฆัวกิน

วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน 2565 คอลัมน์ ลูกหนังนอกกรอบ โดย JOKE
898
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ฆัวกิน ซานเชซ แนวรุกวัย 40 ปีมีความสุขสุดๆกับความสำเร็จล่าสุดของเขากับ เรอัล เบติส หลังการคว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ ครั้งแรกในรอบ 17 ปี

'นี่เป็นวันสำคัญที่สุดในชีวิตผม, ห่างออกไปหนึ่งไมล์' ฆัวกิน ซานเชซ โรดรีเกซ กล่าวหลังการคว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ ร่วมกับ เรอัล เบติส หลังจากใช้เวลามากว่าครึ่งชีวิตในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ เขาเป็นนักเตะอายุมากสุดของ ลา ลีกา และยังเป็นผู้เล่น เอาท์ฟิลด์ แก่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งขันที่คว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ หลังการชูโทรฟี่ร่วมกับ เรอัล เบติส เป็นครั้งที่สองในรอบ 17 ปี 

ฆัวกิน เป็นชีวิตและจิตวิญญาณของ เรอัล เบติส นับตั้งแต่เข้าสู่อะคาเดมี่ของสโมสรในปี 1997 ขณะที่เพื่อนร่วมทีมปัจจุบันของเขาหลายคนยังไม่ลืมตาดูโลกด้วยซ้ำ ก่อนจะลงประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ในปี 2000 ในช่วงเวลาที่สโมสรต้องการและมีส่วนช่วยทีมเบตีโก้เลื่อนขึ้นขึ้นสู่เวทีลีกาหลังจบฤดูกาล 2000-2001

แม้จะใช้เวลาไม่นานนักในการสร้างชื่อเสียงจนเป็นที่รู้จักของวงการลูกหนังและกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญของ สเปน แต่ ฆัวกิน ยังคงจงรักภักดีต่อสโมสรโปรดในวัยเด็กของเขา พร้อมช่วยทีมเบตีโก้คว้าตั๋วไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกและร่วมคว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ ในซีซั่น 2004-2005 


ในช่วงซัมเมอร์ปี 2006 ฆัวกิน ย้ายจาก เรอัล เบติส มาค้าแข้งกับ บาเลนเซีย ด้วยค่าตัว 18 ล้านยูโร และกลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีเสน่ห์และความสามารถมากสุดของ ลา ลีกา เขามีส่วนร่วมคว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ อีกสมัยในฐานะ 'โลส เช' ซึ่งเขาเคยเฉลิมฉลองด้วยการโพสต์ท่าถ่ายรูปถือโทรฟี่แชมป์ขณะร่างกายเปลือยเปล่า

ฆัวกิน ย้ายมาเซ็นสัญญา 3 ปีกับ มาลาก้า ในช่วงหน้าร้อนปี 2011 ก่อนจะย้ายมาค้าแข้งกับ ฟิออเรนติน่า อีก 2 ปีถัดมาขณะที่อายุ 32 ปี จนกระทั่งลมพัดหวนให้เขากลับมาเล่นกับ เรอัล เบติส อีกครั้งในช่วงซัมเมอร์ปี 2015

'การกลับมาที่ เรอัล เบติส เป็นสิ่งที่ผมต้องการมากกว่าสิ่งใดในโลก' ฆัวกิน กล่าวถึงการกลับมาเซ็นสัญญากับทีมเบตีโก้ที่เพิ่งเลื่อนชั้นกลับสู่เวทีลีกาอีกครั้ง 'หัวใจของผมบอกให้ผมกลับไปที่ เรอัล เบติส บางคนไม่เข้าใจว่าทำไม แต่ตอนนี้พวกเขาจะเข้าใจแล้ว ผมหวังว่านี่จะเป็นวันแรกของวันที่มีความสุขมากมาย'

สิ่งที่ ฆัวกิน เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ไม่ผิด หลังเขาประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ ร่วมกับทีมเบตีโก้ในอีก 7 ปีถัดมา หลังการดวลเป้าชนะอีกหนึ่งทีมเก่า บาเลนเซีย ด้วยสกอร์ 5-4 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา 


ฆัวกิน กลายเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ของ เรอัล เบติส ที่ร่วมคว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ สองสมัยกับทีมเบร์ดีบลังโก้ ก่อนแนวรุกลายครามวัย 40 ปี ปลุกเร้าเพื่อนร่วมทีมให้ตื่นจากความฝันเพื่อมุ่งหน้าสู่เป้าหมายต่อไปนั่นคือการลุ้นแย่งตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีกในการลงเล่น 5 เกมสุดท้ายของฤดูกาลนี้ 

'เราได้เริ่มพยายามตื่นจากความฝันที่สวยงามนี้แล้ว เพราะในวันจันทร์นี้ เรามีอีกหนึ่งเป้าหมายคือการเอาชนะ เคตาเฟ่ เพื่อหลักดันสู่การเล่นในแชมเปี้ยนส์ลีก' ฆัวกิน กล่าวถึงเป้าหมายที่เหลือในซีซั่นนี้ 'นั่นจะเป็นไอซิ่งบนหน้าเค้กของฤดูกาลนี้'

'มันเป็นวันที่ยาวนาน วันแห่งอารมณ์มากมาย น้ำตาแห่งความปลื้มปีตี วนซ้ำในหัวคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่าตอนที่ ฆวน (มีรานด้า) ยิงจุดโทษเป็นคนสุดท้าย การฉลองร่วมกับคนของเรา และแน่นอนการชูโทรฟี่ โกปา ขึ้นบนท้องฟ้าเมืองเซบีย่าต่อหน้าชนชาวเบติสทั้งมวล นั่นจะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์และมันเป็นช่วงเวลาพิเศษและสวยงาม'

ย้อนกลับไปในศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 2002 ฆัวกิน เคยสังหารจุดโทษพลาดส่งผลให้ สเปน ดวลเป้าพ่าย เกาหลีใต้ 3-5 ตกรอบ 8 ทีมของศึก เวิลด์ คัพ ฉบับเอเชีย แม้แนวรุกวัย 40 ปียอมรับว่ายังหลอนกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้วก็ตาม แต่เขาพร้อมแบกรับความรับผิดชอบเสมอ


'ช่วงเวลาที่เกาหลีตามมาหลอนผมและนั่นไม่ใช่เรื่องโกหก มันเป็นความจริงในเกาหลีตอนที่ผมเดินไปที่จุดโทษ ผมมั่นใจว่าผมจะยิงมันเข้า แต่นั่นทำให้คุณต้องคิดมากเสมอ รวมถึงจุดโทษล่าสุดในเกมกับ ราโย ที่ผมพลาดไป แต่มีหลายครั้งที่ต้องแบกรับความรับผิดชอบ, ความกล้าหาญ พยายามเป็นมืออาชีพมากที่สุด และมีช่งหนึ่งที่พูดว่า 'เดี๋ยวผมจัดให้' แต่มันก็จริง มีอาการกลัวนิดหน่อย'

'ตอนแรกเจ้านายบอกให้ผมยิงเป็นคนที่สอง ผมบอกว่า 'ผมจะยิงสไตล์ปาเนนก้า' ผมสาบาน แต่เมื่อเห็นว่าผู้รักษาประตูใช้เวลานานกับลูกจุดโทษแรก ดังนั้นผมจึงพยายามทำให้เขาประหลาดใจ ผมพยายามจะดึงจังหวะหลอก ผมอดทนกับมันมาก ก่อนผมจะตัดสินใจยิงไปทาขวา โชคดีที่มันสูงพอ เขาปัดได้เล็กน้อย แต่มันไม่มีเวลาพอจะเอามันออกมา'

เมื่อถูกถามว่ามีเพื่อนเก่าจาก บาเลนเซีย โทรมาร่วมแสดงความยินดีกับเขาหรือไม่ ฆัวกิน เผยว่า 'ใช่, ใช่, พวกเขาร่วมแสดงความยินดีกับผม และพวกเขาภูมิใจกับนัดชิงชนะเลิศของ บาเลนเซีย ผมก็แสดงความยินดีกับพวกเขาด้วยเช่นกัน ผมอยู่ที่นั่นมา 5 ปี และผมยังเก็บความรักนั้นไว้และความเคารพต่อสโมสรและแฟนบอล พวกเขาเป็นคู่ต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม'


ฆัวกิน ยังกล่าวถึงอีกช่วงเวลาสำคัญหลังจบเกมที่เขาสวมกอดกับลูกสาวว่า 'ช่วงเวลากับลูกสาวของผมมันช่างสะเทือนอารมณ์, สวยงามมาก ผมอยากจะกอดพวกเขาเพราะพวกเขายังไม่เคยเห็นพ่อชูโทรฟี่แชมป์ น้ำตาพวกนั้น ลูกๆร้องไห้กับผม มันเป็นช่วงเวลาพิเศษมากที่ลูกสาวของคุณสวมกอดคุณและรู้สึกถึงอารมณ์นั้น ที่พวกเขาสามารถฉลองกับคุณเป็นสิ่งวิเศษที่สุดในโลก'

'โดยรวมแล้ว นับตั้งแต่ผมกลับมาที่ เซบีย่า ทุกอย่างดีมาก แต่ปีแรกนั้นซับซ้อนและพวกเขามีช่วงเวลาแย่ๆ เพราะพวกเขาเห็นว่าผมไม่มีความสุขเพราะเราไม่บรรลุเป้าหมาย อย่างไรก็ตามผมบอกพวกเขาว่า 'นี่เป็นช่วงยาวนาน เบติส เพิ่งเลื่อนชั้นกลับมา มันเป็นเส้นทางที่ยากลำบาก แต่ไม่ต้องกังวล ทีมจะอยู่ในที่ที่แฟนๆสมควรได้รับมัน' และผมโชคดีที่สามารถคว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ ให้พวกเขาได้เห็นพ่อของพวกเขาชูโทรฟี่แชมป์ในวันพิเศษแบบนี้และในเซบีย่า'

ฆัวกิน ยังเปิดเผยถึงสิ่งที่กษัตริย์ เฟลีเป้ แห่งสเปนทรงตรัสกับเขาขณะรับโทรฟี่แชมป์ โกปา เดล เรย์ ว่า 'พระองค์ทรงตรัสกับผมว่า 'ยินดีด้วย พวกคุณทุกคนสมควรได้รับมัน และสำหรับคุณ ยิ่งกว่านั้นอีก ฉันมีความสุขมากกับคุณ สนุกกับคนของคุณ' ผมภูมิใจและเป็นเกียรติสำหรับการเสด็จของพระองค์และผมรู้ว่าพระองค์มีรากฐานของ เบตีโก้ เนื่องจากคุณยายของพระองค์เป็นแฟนบอล เบติส แต่ด้วยความประหม่าและอารมณ์ ผมลืมพูดไปเลย'


แนวรุกวัย 40 ปีกล่าวถึงบรรยากาศการเฉลิมฉลองความสำเร็จบนสังเวียน 'เบนีโต้ บียามาริน' ว่า 'มันเป็นช่วงเวลาที่สวยงาม ทั้งสองสนาม, ถนน, ระเบียง ตอนที่ผมมาถึง เบติส หลายคนบอกกับผมว่า 'ฆัวกิน ตอนนี้คุณกำลังจะไป เบติส ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา จะเกิดอะไรขึ้น' ผมไม่รู้ว่ามันเป็นช่วงเวลาดีที่สุดหรือเปล่า แต่สิ่งที่ผมต้องการคือการกลับไป เบติส ผมฝันถึงมันหลายครั้ง และผมรู้ว่ามันจะไม่ง่ายเลย'

'แต่นี่คือรางวัลสำหรับงานประจำวันของพวกเราทุกคนที่รวมกันเป็นสโมสรทั้งในด้านกีฬาและสถาบัน'

'และไม่ใช่แค่นักเตะ, สตาฟฟ์เทรนเนอร์, นักกายภาพบำบัด, เจ้าหน้าที่อุปกรณ์, คนซักผ้า, แม่ครัว, พนักงานเสิร์ฟที่เรามี มันเป็นการผสมผสานของทุกอย่าง บรรยากาศที่ดียังสะท้อนให้เห็นในหลายๆเรื่องอีกด้วย'

ฆัวกิน ยังกล่าวถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเขากับ มานูเอล หลุยส์ เปเยกรีนี่ เทรนเนอร์ชาวชีเลโน่ว่า 'เมื่อผมพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะอยู่ต่ออีกหนึ่งปี คนแรกที่ผมจะคุยด้วยนอกจากครอบครัวผมคือ มานูเอล ผมบอกเขาว่า 'สิ่งนี้ขึ้นกับสโมสร ทุกอย่างเป็นไปตามนั้น บางทีในช่วงต้นฤดูกาล ผมอาจนึกถึงสิ่งหนึ่ง แต่ตอนนี้ผมมองเห็นความต้องการของตัวเองและตื่นเต้นที่จะดำเนินการต่อ และผมต้องการรู้ถึงความคิดเห็นของคุณ'


'มันสำคัญสำหรับผม และเขาบอกผมว่าสำหรับเขา มันเป็นการเสียสละที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นตัวจริงหรือแค่สำรอง และเขายังมีส่วนสนับสนุนในส่วนอื่นๆอีกมากมายและประตูเปิดกว้างถ้าต้องการอยู่ต่อ ซึ่งจะทำให้เขามีความสุข'

ฆัวกิน ยืนยันการค้าแข้งกับ เรอัล เบติส ต่อไปอีกหนึ่งปีต่อหน้าสาวกทีมเบตีโก้ระหว่างการฉลองความสำเร็จบนสังเวียน 'เบนีโต้ บียามาริน' เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา 

'มันน่ายินดีมากที่ได้เห็นความสุขของบรรดาเพื่อนร่วมทีมเมื่อคุณตัดสินใจที่จะเล่นต่ออีกหนึ่งปี มันเป็นแรงจูงใจ เรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจ ผมไม่รู้ว่าพวกเขาเตรียมอะไรมาทำให้เป็นทางการแล้ว ตราบใดที่พวกเขาไม่ส่งผมขึ้นจรวดแล้วส่งผมไปดวงจันทร์ ผมเซ็นมันแล้วปล่อยให้พวกเขาใส่ในสิ่งที่พวกเขาต้องการ'


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด