ปรีวิว บียาร์เรอัล vs ลิเวอร์พูล พร้อมวิวาทะจากกุนซือและนักเตะ
สภาพความพร้อมและคาดการณ์ 11 ตัวจริง
ลิเวอร์พูล ตุน 2 ประตูมาได้จากเกมแรกที่แอนฟิลด์ ทำให้ในคืนนี้ค่อนข้างวางแท็กติกได้ง่าย เจอร์เก้น คล็อปป์ พักตัวหลักมาถึง 5 ตำแหน่งในคืนวันเสาร์ที่อัด นิวคาสเซิ่ล ทำให้สภาพทีมค่อนข้างสด มีเพียงแค่ เคอร์ติส โจนส์ กับ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ เท่านั้นที่ต้องรอเช็คความฟิตอีกที ด้าน บียาร์เรอัล เจ้าบ้านยังคงขาดตัวหลักอย่าง อัลเบร์โต้ โมเรโน่, เคราร์ด โมเรโน่, ฟร็องซิส โกเกอแล็ง และ เยเรมี่ ปิโน่ แต่ว่าสามารถรอทดสอบความฟิตได้เกือบทุกราย อูไน เอเมรี่ เน้นเกมนี้มากกว่าในลีกเยอะ เพราะสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาพักตัวหลักไปถึง 8 ตำแหน่งจนแพ้ อลาเบส ไป 1-2 ซึ่งคาดว่ากุนซือแฝดคนละฝาของ โลกิ น่าจะจัดทัพมาสู้ในระบบ 4-2-3-1 ซึ่งในรายของ เคราร์ด โมเรโน่ อาจพร้อมกลับมาประจำการเกมรุกร่วมกับ อาร์เนาต์ ดันยูม่า โดยคาดการณ์ 11 ตัวจริงมีดังนี้ เกโรนิโม รุลลี่ - ฮวน ฟอยธ์, ราอูล อัลบิโอล, เปา ตอร์เรส, เปร์วิส เอสตูปินญัน - เอเตียน กาปู, ดานี่ ปาเรโฆ่ - ซามูเอล ชุควูเอเซ่, โจวานี่ โล เซลโซ่, อาร์เนาต์ ดันยูม่า - เคราร์ด โมเรโน่ ทางด้าน เจอร์เก้น คล็อปป์ น่าตะจัดเต็มในระบบ 4-3-3 ของถนัด จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ติอาโก้ อัลคันทาร่า และ ฟาบินโญ่ จะยืนร่วมกันในแผงมิดฟิลด์ ส่วน 3 ตัวรุกวาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และ หลุยส์ ดิอาซ พร้อมมี ดีโอโก้ โชต้า, นาบี เกอิต้า, เจมส์ มิลเนอร์, อเล็กซ์ ออกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, โจ โกเมซ, คอนสแตนตินอส ซิมิกาส และ ดิว็อค โอริกี้ เป็นตัวสอดแทรก 11 ตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนามมีดังนี้ อลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เวอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน - ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ติอาโก้ อัลกันตาร่า - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, หลุยส์ ดิอาซ, ซาดิโอ มาเน่ เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
ลิเวอร์พูล มีเกมรับที่แข็งแกร่งมากในฤดูกาลนี้ พวกเขารักษาคลีนชีตไปได้ถึง 31 จาก 56 นัดรวมทุกรายการ มากที่สุดสำหรับทีมจาก 5 ลีกใหญ่ยุโรป อย่างไรก็ดี บียาร์เรอัล ผลงานในบ้านฤดูกาลนี้ก็แกร่งไม่น้อย เพราะไม่แพ้ใครในบ้านมา 12 เกมแล้ว ส่วนหงส์แดงเองก็ใช่ย่อย ไม่แพ้ใครมา 12 นัดรวมทุกรายการแล้วเช่นกัน นักเตะเด่นที่น่าจับตา
นักเตะเด่นที่น่าจับตามองของ บียาร์เรอัล คือ ดานจูม่า ปีกจอมซัลโวที่ยิงไปแล้ว 6 ประตู 1 แอสซิสต์ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ปีนี้ ส่วนหงส์แดงผมยกให้เป็นทาง หลุยส์ ดิอาซ ที่แม้ว่าจะยิงไม่เยอะเท่า แต่บทบาทในสนามของเขานั้นถือว่าสร้างอิมแพคท์ต่อเกมบุกเยอะมากในช่วงหลัง วิวาทะของสองกุนซือ
อูไน เอเมรี่ ให้สัมภาษณ์ถึงเกมนี้ว่า "ผมเข้าใจดีว่ามันเป็นงานที่ยาก แต่เราจะสู้อย่างเต็มที่ในเกมนี้ เราจำเป็นต้องเล่นด้วยฟอร์มที่สมบูรณ์แบบ เราต้องเค้นฟอร์มที่ยอดเยี่ยมที่สุดออกมา และบางทีมันอาจเป็นความสำเร็จในสิ่งที่ไม่มีใครเคยทำสำเร็จ นั่นก็คือการคัมแบ็กกลับมาได้ "เราจะพยายามค้นหาจุดอ่อนบางอย่างของพวกเขาให้ได้ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครเคยทำได้ในปีนี้" ขณะที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ยอมรับว่าสกอร์ที่ตุนไว้ในเกมแรกยังไม่ทำให้อุ่นใจ เพราะ บียาร์เรอัล เน้นเกมนี้มากเป็นพิเศษจริว ๆ "มันไม่ง่ายแน่ ๆ นี่เพิ่งจะผ่านครึ่งทางเท่านั้น วิธีที่ดีที่สุดคืออย่าไปสนใจสกอร์จากนัดแรก พวกเขาจะทุ่มเททุกอย่างที่พวกเขามี มันชัดเจนมาก ๆ เพราะ อูไน พักนักเตะไว้ถึง 8 คนในเกมลีก และสองคนที่เป็นตัวจริงก็ถูกเปลี่ยนตัวออกหลังผ่าน 45 นาที" "มันจะเป็นเกมที่ยาก แต่ไม่มีปัญหาเลยนะ เพราะว่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองฯ ไม่มีเกมไหนง่ายอยู่แล้ว เรามีเกมที่ดีในบ้านเราเอง และเราจะเล่นได้ดีกว่าที่นั่นเช่นกัน" วิวาทะของนักเตะ
โรแบร์ ปิแรส อดีตแข้งของเรือดำน้ำแสดงทรรศนะว่า เกมยังไม่จบ บียาร์เรอัล มีโอกาสพลิกเข้ารอบได้เช่นกัน "ผมเคยผ่านการเล่นถ้วยนี้รอบนี้มาแล้ว จึงรู้ดีว่าต่อให้คุณนำห่างคู่แข่งจากเกมแรกมากแค่ไหน ความจริงคือการแข่งขันมันยังไม่จบ โอกาสเข้ารอบ-ตกรอบมีสูงพอ ๆ กัน" "บียาร์เรอัล ที่ได้เล่นในบ้านตัวเองคืนนี้ พวกเขายังมีโอกาสพลิกสถานการณ์ผ่านเข้ารอบพอ ๆ กับที่ ลิเวอร์พูล จะบุกมาย้ำแค้น ทั้งคู่ยังคงอยู่ในการแข่งขัน สุดท้ายแล้วต่อให้ไม่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น นักเตะของ บียาร์เรอัล จะได้ประสบการณ์ล้ำค่าติดตัวกลับไปทุกคนแน่นอน" ปิดท้ายที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็คจอมแอสซิสต์ของหงส์แดง "นี่คือรอบรองชนะเลิศครั้งที่สามในรอบห้าปี ผมคิดว่าเราน่าจะไปที่นั่นได้อีกครั้ง แต่เราต้องทำให้แน่ใจว่าเราจะต้องชนะในเกมนี้ก่อน เกมยังเหลืออีกครึ่งหนึ่ง ไม่มีอะไรแน่นอน ดังนั้นเราต้องทำให้เหมือนเกมแรกนั่นคือยิงประตู แล้วปิดเกมให้ได้โดยเร็ว"