:::     :::

สองปี..ดีพอกลับสู่พรีเมียร์ลีก

วันพุธที่ 04 พฤษภาคม 2565 คอลัมน์ Football Therapy โดย บี้ เดอะสปา
1,129
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
สองปีหลังจากตกชั้นสู่แชมเปี้ยนชิพ บอร์นมัธ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าดีพอที่จะกลับสู่พรีเมียร์ลีก

ชัยชนะเหนือ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ เป็นการยืนยันการเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกอย่างเป็นทางการของ บอร์นมัธ เพียงฤดูกาลแรกที่ได้ร่วมงานกับ สกอตต์ พาร์คเกอร์

พูดชื่อสโมสร บอร์นมัธ ภาพจำของใครหลายๆ คน อาจยังติดอยู่กับ เอ็ดดี้ ฮาว กุนซือผู้เป็นตำนานแห่งถิ่น ดีน คอร์ท หรือชื่อตามสปอนเซอร์ ไวทาลิตี้ สเตเดี้ยม
ฮาว สร้างทีม บอร์นมัธ ให้แข็งแกร่งภายในหนึ่งทศวรรษที่คุมทัพ นับตั้งแต่เข้ามาคุมทีมช่วงปลายปี 2008 ภาระกิจแรกคือการหนีตกชั้นจากลีกทู หลังจากนั้นก็เลื่อนชั้นสู่ลีกวันในปี 2010 เลื่อนชั้นสู่แชมเปี้ยนชิพในปี 2013 และเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกในปี 2015 ยืนหยัดอยู่ในลีกสูงสุดยาวนานถึง 5 ฤดูกาล
ภาพจำของ บอร์นมัธ จึงติดอยู่กับ ฮาว เป็นธรรมดา
ฤดูกาล 2020-21 เจสัน ทินดอลล์ มือขวาของ ฮาว เข้ามารับงานต่อ และดูเหมือนว่าจะไปได้สวย กับการเกาะหัวตารางแชมเปี้ยนชิพเรื่อยมา จนกระทั่งเข้าสู่ศักราชใหม่ ผลงานเริ่มทรุด และเสี่ยงหลุดจากพื้นที่เพลย์ออฟ จึงมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
โจนาธาน วูดเกต ถูกมอบหมายให้คุมทีมชั่วคราวแทน ก่อนได้สัญญาคุมทีมไปจนจบฤดูกาล
วูดเกต ประคองทีมจบอันดับ 6 แต่ก็จอดป้ายรอบเพลย์ออฟ เพียงแค่รอบรองชนะเลิศเท่านั้น พลิกสถานการณ์กลับมาแพ้ เบรนท์ฟอร์ด ในเกมสอง
การเปลี่ยนแปลงในถิ่น ไวทาลิตี้ สเตเดี้ยม จึงเกิดขึ้นอีกครั้ง สกอตต์ พาร์คเกอร์ คือคนที่ถูกเลือก หลังจากกุนซือหนุ่มวัย 41 ปีเพิ่งตกชั้นกับ ฟูแล่ม มาหมาดๆ
ผลงานของ พาร์คเกอร์ กับ บอร์นมัธ เริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างน่าทึ่ง ไม่แพ้ใครตลอด 15 เกมแรก ชนะ 11 เสมอ 4 ครองจ่าฝูงอย่างเหนียวแน่น ตามด้วย ฟูแล่ม ที่เบียดบี้กันมาอย่างสูสี
แต่พอเข้าสู่เดือนพฤศจิกายน ผลงานของ เดอะ เชอร์รี่ส์ ก็เริ่มมีแผ่วให้เห็น จนเสียการเป็นผู้นำของตารางไป แต่ท้ายสุดแล้วก็ยังคงประคองตัวจบอันดับสอง กลายเป็นทีมที่สองที่รับประกันการเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2022-23 ต่อจาก ฟูแล่ม
นักเตะที่มีบทบาทสำคัญที่สุดต้องยกให้ โดมินิก โซลันกี ที่ยิงไป 30 ประตูในฤดูกาลนี้แล้ว เป็นการยิงในลีก 29 ประตู เป็นรองดาวซัลโวแชมเปี้ยนชิพ รองจาก อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ของ ฟูแล่ม ที่ยิงไป 43 ประตูเพียงคนเดียว
อีกคนที่มีผลงานน่าทึ่ง มาร์ค เทรเวอร์ส เด็กปั้นของสโมสร ที่ได้รับโอกาสเป็นมือหนึ่งของทีมเป็นซีซั่นแรก ลงเฝ้าเสาไปแล้ว 44 เกม กลายเป็นผู้รักษาประตูเบอร์หนึ่งของแชมเปี้ยนชิพ ที่เก็บคลีนชีตได้มากที่สุด 19 เกม
และยังมีสองเด็กปั้นของสโมสร เจดอน แอนโธนี่ ที่แจ้งเกิดตำแหน่งปีกซ้าย และ จอร์แดน เซมูร่า แบ็กซ้ายทีมชาติซิมบับเว ก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญในทีมตัวจริงของ พาร์คเกอร์ ด้วย
แนวทางการสร้างทีม บอร์นมัธ ของกุนซือ พาร์คเกอร์ ในฤดูกาลนี้ค่อนข้างชัดเจนตั้งแต่ช่วงตลาดซัมเมอร์ปีที่แล้ว มาจนถึงตลาดวินเทอร์ในเดือนมกราคม
การเซ็นสัญญากับนักเตะที่มีผลงานโดดเด่นในแชมเปี้ยนชิพอยู่แล้ว และเสริมด้วยการยืมตัวสำรองหรือดาวรุ่งจากทีมพรีเมียร์ลีก และน่าจะยึดถือแนวทางนี้ต่อไปสำหรับการลุยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้า
การลงทุนที่ไม่มาก แต่เห็นผลที่ชัดเจน แนวทางเดียวกับที่ ฮาว เคยสร้าง บอร์นมัธ เอาไว้
บางที บอร์นมัธ อาจเป็นโอกาสที่ดีสำหรับ พาร์คเกอร์ มากกว่าที่ ฟูแล่ม ที่เคยมีประสบการณ์ไม่น่าจดจำในฐานะโค้ช คือการตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกถึงสองครั้ง

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด