ยูโร 2020 ครั้งที่ผ่านมา มีเพียงแค่ปุสกัส อารีน่า ของฮังการี เท่านั้น ซึ่งรัฐบาลต้องการทำให้เห็นว่าพวกเขาสามารถรับมือกับไวรัสชิ้นนี้ได้ เพราะเวลานั้นคนในประเทศรับวัคซีนไปแล้วเกือบจะครบทุกภาคส่วน จึงจัดการอนุญาต 100 เปอร์เซนต์ ให้ผู้ชมเข้าไปในสนามได้เต็มความจุ 67,000 คน
สิ่งที่เกิดขึ้นในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว ทำให้ในลีกยุโรปเริ่มที่จะอนุญาตให้แฟนบอลเข้าสนามได้ บางลีกก็เต็มความจุ กระทั่งมาถึงไทยลีก 2021/2022 ก่อนที่จะเปิดซีซั่นใหม่ต้องยอมรับว่าแรงกระเพื่อมมีจุดเริ่มต้นมาจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
เพราะกรมควบคุมโรคของจังหวัดบุรีรัมย์ อนุมัติให้สโมสรเปิดสนาม ช้าง อารีนา สามารถมีแฟนบอลเข้าไปชมเกมได้ 25 เปอร์เซ็นต์ เพื่อเป็นการนำร่องจังหวัดอื่นๆ และนั่นกลายเป็นกุญแจสำคัญ ที่หลายสโมสรเริ่มเดินเครื่องคุยกับ ศบค. ของจังหวัดตัวเอง
เช่นเดียวกับ หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่ทำในเรื่องนี้ และทางจังหวัดอนุญาติ 25 เปอร์เซ็นต์ ในเกมที่พบกับ สมุทรปราการซิตี้ จนกลายเป็น 50 เปอร์เซ็นต์ และ 75 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ เท่ากับว่าตอนนี้แฟนบอลสามารถเข้าสนามในฝั่งทีมเหย้า 4,000 คน ส่วนทีมเยือนได้ 500 คน จากความจุทั้งหมด 6,000 คน
แม้จะเป็นจังหวัดเล็กๆ ในภาคอีสาน แต่เวลาที่มีการแข่งขันไทยลีกในบ้านตลอด 16 เกมที่ผ่านมา แฟนบอล "พญาไก่ชน" ให้การซัพพอร์ต เข้ามาเชียร์ทีมรักอย่างเต็มเปี่ยม ซึ่งถือว่าเป็นส่วนช่วยให้ผลงานของทีมขับเคลื่อนออกมาดี โดยเฉพาะแมตช์ที่พวกเขาเอาชนะทีมใหญ่ๆ ได้
ไม่ว่าจะเป็น ไล่อัด บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แชมป์เก่าซีซั่นก่อน 3-1, อัด ชลบุรี เอฟซี 3-2, บดขยี้ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 1-0 ตลอดจนแบ่งแต้มจาก เมืองทอง ยูไนเต็ด 0-0 และยิ่งกระแสนัดรองสุดท้ายในบ้านตัวเอง ที่จะต้องวัดกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งต้องการชัยชนะเพื่อตำแหน่งแชมป์สมัยที่ 7
ก่อนเกม 1 วัน บัตรทีมเหย้าจำนวน 4,000 ใบ ขายหมดเกลี้ยง ส่วนอีก 500 ใบ ที่เป็นของทีมเยือนก็หมดเหมือนกัน ซึ่งใครชมเกมวันนั้นคงต้องยอมรับเลยว่าเป็นแมตช์ที่โคตรมันส์ แม้สุดท้ายผลอาจจะไม่เป็นใจทาง "พญาไก่ชน" เพราะแพ้ไป 0-3
ลึกๆ แล้วอาจจะไม่อยากเห็น "ปราสาทสายฟ้า" มาฉลองที่สนามตัวเอง แต่ต้องชื่นชมว่าแฟนบอลของ หนองบัว พิชญ เอฟซี ก็ใส่เสียงเชียร์แบบเต็มที่ และให้เกียรติคู่แข่งทุกทีม
แถมยังมีแฟนบอลสาวๆที่น่ารัก แทบทุกสัปดาห์ที่ลงเล่นในบ้านต้องคอยติดตามทางเพจของสโมสร ว่าจะมีสาวสวยคนไหนผ่านเข้ามาในเฟรมบ้าง เรียกว่าเป็นกระแสของทาง “พญาไก่ชน” ที่มาดีเหลือเกินในขวบปีแรก
แม้เกมนั้นจะแพ้ไป 0-3 ทำให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์สมัยที่ 7 ไปครอง ทว่าเป็นเกมที่พวกเขาสู้ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ ก่อนจะส่งท้ายนัดที่ 15 ในบ้านตัวเอง เสมอ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 1-1
เท่ากับผลงานในเล้าไก่ปีแรกของพวกเขา ชนะ 9 เสมอ 2 แพ้ 4 ปิดฉากด้วยการฟาดไป 29 แต้ม นับว่าเป็นสิ่งที่น่าพอใจ และผ่านการประเมินจากแฟนบอล รวมทั้งเกจิทุกๆสำนัก
มารอดูกันว่าซีซั่น 2022/2023 การเดินทางของ "โค้ชวัง "ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล และลูกทีมจะสามารถผลิตฟอร์มออกมาได้ยอดเยี่ยมมากเพียงใด
ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้กับทีมท้องถิ่นที่มีฐานแฟนคลับชัดเจน ให้เติบโตยิ่งใหญ่มากขึ้นไปกว่านี้ในปีต่อๆ ไป
