:::     :::

การกลับมาของทัพราชันสีน้ำเงิน

วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม 2565 คอลัมน์ เล่าเก่าก้าวใหม่ โดย Latino
2,031
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ชาลเก้ หนึ่งในสโมสรเก่าแก่สุดของเยอรมนีหวนคืนสู่เวทีบุนเดสลีกาอีกครั้งหลังตกชั้นไปเพียงฤดูกาลเดียว

ชาลเก้ 04 เป็นหนึ่งในสโมสรเก่าแก่และมีฐานแฟนบอลลำดับต้นๆของเยอรมนี เคยคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 7 สมัย และสอยแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล อีก 5 ครั้ง ก่อนเข้าสู่ยุคถดถอยจนกระทั่งเผชิญหายนะครั้งใหญ่ตกชั้นจากเวทีบุนเดสลีกาอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2021

แต่ทัพ 'ราชันสีน้ำเงิน' ใช้เวลาในลีกาสองของเมืองเบียร์เพียงฤดูกาลเดียว ก่อนหวนคืนสู่ลีกสูงสุดอีกครั้งเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังเกมเชือด ซังต์ เพาลี 3-2 

ชาลเก้ มีสมาชิกสโมสรราว 158,000 คน เป็นสโมสรใหญ่สุดอันดับ 2 ของเยอรมนีและอันดับ 3 ของโลกในแง่ของจำนวนสมาชิกสโมสร นอกจากฟุตบอลแล้วยังมีกีฬาอื่นๆที่สโมสรสนับสนุนทั้ง กรีฑา, บาสเกตบอล, แฮนด์บอล, ปิงปอง, กีฬาฤดูหนาว และ eSports

ตอนนี้ ชาลเก้ กำลังจะคืนสภาพจากยักษ์หลับตื่นขึ้นมาบนเวทีบุนเดสลีกาอีกครั้งในซีซั่น 2022-2023 


การตกชั้นจากเวทีบุนเดสลีกาของ ชาลเก้ เป็นช่วงเวลาที่เจ็บปวดสำหรับแฟนๆที่จงรักภักดีต่อสโมสร หลังเคยมีช่วงเวลาดีๆในเกมที่ เกลเซนเคียร์เช่น บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกอยู่ในความทรงจำของพวกเขา 

'เราจะต้องเศร้าเสียใจ และทำให้ความผิดหวังและความโกรธนี้หมดสลง' ปีเตอร์ คนาเบิ้ล ผู้ดูแลด้านกีฬาของ ชาลเก้ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021 กล่าว 'จากนั้น เราจะทำทุกอย่างเพื่อนำสโมสรกลับมาอยู่ในที่ที่เป็นของตัวเอง'

ขณะที่ เกรัลด์ อซาโมอาห์ ตำนานสโมสรในฐานะผู้จัดการทีมกล่าวถึงการตกชั้นครั้งที่ 4 ของสโมสรและเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ซีซั่น 1987-1988 ว่า 'เมื่อคุณอยู่ท้ายตารางด้วย 13 คะแนน ถ้ามีคนบอกว่าพวกเขาทุ่มสุดตัวแล้ว... ผมไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับคนๆนั้นดี'

ชาลเก้ เริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงด้วยการตั้ง รูเวน ชรูเดอร์ ซึ่งเคยทำงานกับ ไมนซ์ เป็นผู้อำนวยการกีฬาคนใหม่ในช่วงซัมเมอร์ที่่ผ่านมา เขาทำงานหนักเพื่อสร้างทีมใหม่ด้วยการปล่อยนักเตะออกจากสโมสรไม่น้อยกว่า 30 คนและดึงผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเพียงครึ่งหนึ่งของจำนวนนั้น 


นักเตะที่เคยมีประสบการณ์ค้าแข้งบนเวทีบุนเดสลีกาถูกดึงเข้ามาเสริมทัพ อาทิ มาร์ชิน คามินสกี้ อดีตกองหลัง สตุ๊ตการ์ท กับ แดนนี่ ลัตซ่า อดีตมิดฟิลด์ ไมนซ์ เป็นต้น ขณะที่ภารกิจการทำประตูทั้งหมดจะได้รับประกันจากการมาถึงของ ซีโมน เทร็อดเดอ อดีตกองหน้า ฮัมบูร์ก และ มาริอุส บุลเตอร์ จาก อูนิโอน เบอร์ลิน

แต่นี่คือ ชาลเก้, สโมสรที่เคยรับผิดชอบบรรดาแข้งทีมชาติเยอรมนีชุดแชมป์ฟุตบอลโลกอย่าง มานูเอล นอยเออร์, เมซุต โอซิล, เบเนดิคท์ โฮเวเดส และ ยูเลียน ดรักซ์เลอร์ พวกเขาจะสร้างผู้เล่นสายเลือดใหม่อย่าง ลีรอย ซาเน่, เลออน โกเร็ตซ์ก้า และ ธีโล เคห์เรอร์ เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขัน แต่ท้ายที่สุดสโมสรก็ต้องปล่อยนักเตะย้ายสังกัด

การสร้างทีมของ ชาลเก้ เป็นการผสมผสานระหว่างนักเตะประสบการณ์กับผู้เล่นสายเลือดใหม่ แมลิค เธียว กองหลังวัย 20 ปี ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในแนวรับของทีมราชันสีน้ำเงิน หลังเคยอยู่กับอะคาเดมี่ของ เลเวอร์คูเซ่น และ มึนเช่นกลัดบัค ก่อนหน้านี้ เช่นเดียวกับ เมห์เม็ต-ชาน อายดิน มิดฟิลด์วัย 20 ปี ที่ก้าวขึ้นมาจากทีมเยาวชนแจ้งเกิดกับทีมชุดใหญ่เต็มตัว 


ขณะที่ โรดรีโก้ ซาลาซ่าร์ มิดฟิลด์ชาวอุรุกวัยวัย 22 ปีเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่น่าจับตามองหลังย้ายมาจาก แฟร้งค์เฟิร์ต ด้วยสัญญายืมตัว หลังเคยทำผลงานได้ดีระหว่างการเล่นกับ ซังต์ เพาลี ในฤดูกาลที่แล้ว ไม่ต่างจาก ดาร์โก้ ชูร์ลีนอฟ แนวรุกชาวมาซิโดเนียวัย 21 ปีที่ย้ายมาจาก สตุ๊ตการ์ท ด้วยสัญญายืมตัว 

นอกจากนี้ เคริม ชาลาโนลู มิดฟิลด์ดาวรุ่งวัย 19 ปีที่ดึงมาจาก ฮอฟเฟนไฮม์ ในช่วงหน้าร้อนปี 2020 ก้าวขึ้นมามีบทบาทด้วยเช่นกัน

พวกเขาจะเป็นนักเตะที่แฟนๆบุนเดสลีกาจะไม่สงสัยในความสามารถและน่าจะได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมากขึ้นในอนาคตเมื่อ ชาลเก้ อยู่ในโหมดสร้างทีมที่มีโอกาสประสบความสำเร็จในอนาคต 

'แน่นอน ผมต้องการเลื่อนชั้น แต่เรามีแผน 3 ปี' อซาโมอาห์ กล่าวก่อนทีมราชันสีน้ำเงินจะหวนคืนเวทีบุนเดสลีกาอย่างเป็นทางการ 'ถ้าคุณบอกกับเราหลังการตกชั้น เราจะอยู่ในตำแหน่งนี้ของตาราง ณ จุดนี้ของฤดูกาล เราจะเซ็นสัญญาทันที'


การที่สโมสรตั้งเป้าไว้ต่ำกว่านั้นเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เนื่องจากการปรับโครงสร้างทีมครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้วหลังการตกชั้น ขณะที่แฟนบอลยังหนุนหลังทีมอย่างเหนียวแน่นไม่ต่างจากที่ผ่านมา 

'คุณสามารถสัมผัสมันได้จากการวอล์ม-อัพ เมื่อคุณออกจากห้องแต่งตัว และเห็นแฟนบอลจำนวนมากในชุดสีน้ำเงินและขาว' เทร็อดเดอ กล่าวหลังการปราชัยต่อคู่แข่งแย่งเลื่อนชั้นอย่าง เบรเมน 1-4 ในช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา 'ปฏิกิริยาของแฟนบอลต่อการแพ้ เบรเมน ทำให้ผมขนลุกซู่'

เทร็อดเดอ เคยลงเล่นบุนเดสลีกา 58 เกมกับ โคโลญจน์ และ สตุ๊ตการ์ท โดยยิงเพียง 10 ประตู แต่ในการลงเล่นลีกาสองมากกว่า 280 เกม เขาทำหนึ่งประตูทุกๆ 1.5 เกม และด้วยการทำประตูของกองหน้าวัย 34 ปีมีส่วนสำคัญต่อการเลื่อนชั้นคืนเวทีบุนเดสลีกาของทีมราชันสีน้ำเงินด้วย


กองหน้าวัย 34 ปี มอบช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมให้แฟนๆ ชาลเก้ ในซีซั่นนี้ ด้วยตัวเขาเอง หลังการทำ 29 ประตูจากการลงเล่นลีกาสอง 29 เกม การทำประตูของเขาในเกมชนะ อิงโกลสตัดท์ 3-0 ในช่วงเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ทำสถิติเทียบเท่า 153 ประตูของ ดีเตอร์ ชัตส์ชไนเดอร์ คนทำประตูสูงสุดตลอดกาลของลีกาสองเมืองเบียร์ ก่อนเขาจะใช้เวลาไม่นานนักสำหรับการสร้างสถิติใหม่ 

'เรานับจำนวนการทำประตูของ ซิโมน ในวันนี้ เขาทำได้เกือบทุกเกม' อายดิน กล่าวหลังจบเกมดังกล่าว 'ผมขอแสดงความยินดีกับเขาสำหรับการทำสถิติจากก้นบึ้งของหัวใจ เขาเป็นกองหน้าที่ยอดเยี่ยม ผมไม่เคยเห็นใครเยือกเย็นดุจน้ำแข็งต่อหน้าประตู เขาสมควรได้รับมัน'

'เขามอบความเป็นมืออาชีพให้คุณ, ความเป็นมนุษย์และความเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม เขาเป็นแพ็คเกจที่สมบูรณ์แบบ' ชรูเดอร์ กล่าวถึง เทร็อดเดอ 'ในลีกาสอง มันเป็นเรื่องพื้นฐานที่คุณมีกองหน้าที่มีออร่าบางอย่าง และการแสดงของเขาได้พิสูจน์แล้วว่าเขามีสิ่งนั้น' 


การทำประตูของ เทร็อดเดอ ทำให้ ชาลเก้ เป็นทีมที่มีศักยภาพมากสุดของเวทีลีกาสองเมืองเบียร์ แต่เขาไม่ได้ทำมันทั้งหมดด้วยตัวเอง แต่ บัลเตอร์ กองหน้าวัย 29 ปีก็ทำผลงานดีสุดในอาชีพของเขาด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะการทำแฮตทริคกับหนึ่งแอสซิสต์ในเกมบุกชนะ ดาร์มสตัดท์ 5-2 

นอกจากนี้ทีมราชันสีน้ำเงินยังมีผู้เล่นอีกอย่างน้อย 14 คนที่ช่วยกันทำประตู ซึ่งรวมถึง โค อิตาคุระ เซนเตอร์ทีมชาติญี่ปุ่นที่ย้ายมาจาก แมนฯซิตี้ ด้วยสัญญายืมตัว ขณะที่ เธียว กับ คามินสกี้ ช่วยทำคนละสองประตู 

ส่วนด้านหนึ่งที่มีส่วนต่อความสำเร็จคือ มาร์ติน ไฟรเซิ่ล ที่มีส่วนช่วยให้พวกเขาเสียประตูน้อยลง หลังนายทวารชาวออสเตรียนวัย 29 ปีย้ายมาจาก เดน ฮาก แบบไม่มีค่าตัวในช่วงหน้าร้อนปี 2021 ก่อนยึดตำแหน่งตัวจริงมาจาก ราล์ฟ แฟห์รมันน์ ผู้รักษาประตูวัย 33 ปี และ ไฟรเซิ่ล ยังนำทีมราชันสีน้ำเงินเก็บถึง 10 คลีนชีต


อีกแง่มุมหนึ่งที่โดดเด่นสุดในความสำเร็จคือการยุติความปั่นป่วนรอบๆ เฟลตินส์ อาเรน่า เนื่องจาก ดิมิตริออส กรัมโมซีส ซึ่งเป็นโค้ชคนที่ 5 ของสโมสรในช่วงฤดูกาล 2020-2021 หลังเข้ามารับตำแหน่งในช่วงเดือนมีนาคมไม่สามารถทำผลงานได้อย่างที่คาดหวัง 

ชาลเก้ สั่งปลด กรัมโมซิส ออกจากตำแหน่งในอีกหนึ่งปีถัดมา หลัง ชาลเก้ ไม่ชนะ 4 เกมติดต่อกันและส่อแววพลาดตั๋วเลื่อนชั้น ก่อนแต่งตั้ง ไมค์ บุสเก้นส์ อีกหนึ่งตำนานสโมสรเป็นบอสคนใหม่ นั่นคือการตัดสินใจที่ถูกต้อง 

บุสเก้นส์ วัย 54 ปี เริ่มต้นงานเทรนเนอร์กับทีมเยาวชนของ ชาลเก้ และเคยกุมบังเหียนทีมชุดใหญ่ในปี 2008 และ 2009 ก่อนจะย้ายไปทำงานกับ กรอยเธอร์ เฟือร์ธ และนำทีมเลื่อนชั้นสู่บุนเดสลีกาครั้งในประวัติศาสตร์สโมสรเมื่อปี 2012

เขากลับมาทำงานฐานะผู้ช่วยโค้ชของ ชาลเก้ ในปี 2019 ก่อนกลับมารับตำแหน่งรักษาการเฮดโค้ชเมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา หลังสโมสรสั่งปลด กรัมโมซิส ออกจากตำแหน่งเทรนเนอร์


'ทุกคนที่ ชาลเก้ เคารพเขา' นาลโด้ อดีตกองหลัง เบรเมน และ ชาลเก้ อธิบายเกี่ยวกับ บุสเก้นส์ 'เขาเล่นให้ ชาลเก้ เขาเป็นตำนาน สิ่งที่เขาทำได้ดีเป็นพิเศษคือสัมผัสส่วนตัวของเขากับนักเตะ เขาพูดคุยมากมายกับนักเตะ และทำให้ชัดเจนว่าเขาคาดหวังอะไรจากพวกเขา'

อย่างไรก็ตาม บุสเก้นส์ จะไม่กุมบังเหียนทีมราชันสีน้ำเงินลงเล่นบุนเดสลีกาซีซั่นหน้า จากการยืนยันของ ชรูเดอร์ 'ชัดเจนว่าเขาจะดำเนินการต่อตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ แต่ไม่ใช่ในฐานะหัวหน้าโค้ช อย่างไรก็ตามเขาจะอยู่เบื้องหลังกับ ชรูเดอร์ และ คนาเบิ้ล ที่กำลังตามหาคนที่จะเข้ามานำทางและเก็บพวกเขาไว้ในบุนเดสลีกาต่อไป'


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด