นัดชิงในอังกฤษครั้งแรกของ ติอาโก้
ตลอดชีวิตนักฟุตบอลของ ติอาโก้ เขาลงเล่นเกมรอบชิงมาแล้วมากมายทั้งตอนอยู่กับ บาร์เซโลน่า หรือตอนที่อยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค แต่สำหรับ ลิเวอร์พูล เขาเฝ้ารอเกมนัดชิงอย่างใจจดใจจ่อมาตลอด เขาให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสโมสรว่า ทำไมเขาถึงมีอารมณ์ร่วมในวันนั้นมากขนาดนี้ "ผมคิดว่าพวกเราต่อสู้อย่างหนักเพื่อมาถึงช่วงเวลานั้น ช่วงเวลาที่จะได้ลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศกับสโมสรที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ แต่พอมารู้ว่ามีอาการบาดเจ็บ มันทำให้ผมรู้สึกแย่มาก ซึ่งการเคลื่อนไหวสุดท้ายตอนวอร์มมันทำให้ผมได้รับบาดเจ็บตรงเอ็นร้อยหวาย มันเป็นแค่เสี้ยววินาทีจริง ๆ" "ผมรู้สึกหงุดหงิดมาก ได้แต่พยายามทำใจเย็น ๆ นั่งดูเพื่อนเล่นและเอาใจเชียร์ทีมของเรา ผมพยายามทำตัวให้สงบ และโชคดีที่สุดท้ายเราชนะ แต่มันก็แน่นอนว่ามีความรู้สึกแบบหวานอมขมกลืนที่ไม่ได้ลงเล่นเกมนั้น ถึงอย่างไรผมก็มีความสุขกับทีมมาก ๆ นะ" "การชูถ้วยรางวัลคือช่วงเวลาที่พิเศษเสมอ แต่มันเป็นสถานการณ์ที่น่าผิดหวังสำหรับผมเช่นเดียวกัน ผมเศร้าใจเพราะในปีที่ผ่านมานั้นได้เจอกับเรื่องแย่ ๆ อย่างอาการบาดเจ็บมาเยอะ ดังนั้นผมจึงอยากลงสนามในรอบชิงเพื่อทำสิ่งที่พิเศษออกมาให้ทุกคนได้เห็น"
แม้จะพลาดโอกาสในรอบชิงเกมลีกคัพไป แต่สำหรับในเกมเอฟเอ คัพ รอบนี้ ดูเหมือนว่า ติอาโก้ จะมีโอกาสแก้ตัวและพร้อมลงสนามด้วยร่างกายและจิตใจที่หิวกระหายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ลิเวอร์พูล ไม่ได้แชมป์เอฟเอ คัพมาตั้งแต่ปี 2006 และนี่จะถือเป็นนัดชิงชนะเลิศครั้งแรกของพวกเขาตั้งแต่ปี 2012 หลังจากในคราวนั้นแพ้ให้กับ เชลซี 2-1 จากประตูของ รามิเรส และ ดร็อกบา ติอาโก้ ตื่นเต้นกับโอกาสนี้มาก ซึ่งในเกมนี้จะเป็นนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ครั้งที่ 150 ในประวัติศาสตร์ การลงเล่นในเวมบลีย์มีคุณค่าสำหรับนักฟุตบอลทุกคนเสมอ ซึ่งแม้แต่ ติอาโก้ เองก็มีอารมณ์ร่วมเช่นกัน "ผมมาจากประเทศอื่น แต่รู้ดีว่าสำหรับสนามเวมบลีย์นั้นทรงคุณค่าและเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์มากมาย ฟุตบอลเอฟเอ คัพ มีการแข่งขันอันน่าทึ่งและเก่าแก่ที่สุดในโลก ดังนั้นสำหรับผมจึงตื่นเต้นมากที่จะได้เล่น นี่ไม่ใช่แค่การแข่งขันธรรมดา แต่เป็นนัดชิงชนะเลิศที่มีแชมป์รออยู่ ผมคิดว่าเราพร้อมสำหรับสิ่งนี้แล้ว" เมื่อถูกถามว่ากังวลไหมที่ ลิเวอร์พูล ไม่ได้แชมป์ถ้วยนี้มานานมากแล้ว ติอาโก้ ตอบว่า "มันไม่สำคัญหรอกว่าเราจะไม่ได้แชมป์มาเป็นเวลานานแค่ไหน มันเกี่ยวกับเกียรติยศที่เราสามารถชนะได้ในคืนนี้ เราเพิ่มความท้าทายใหม่นี้ไว้ในกระเป๋าเป้ของเรา และเตรียมตัวสำหรับการออกเดินทางไปหามัน" "เวมบลีย์ ยังคงเป็นสนามกีฬาที่น่าตื่นตาตื่นใจเสมอ ผมเคยมาเล่นที่นี่แล้วดังนั้นจึงรู้เลยว่ามันพิเศษมาก ยิ่งในเกมนี้เป็นนัดชิง ยิ่งเต็มไปด้วยความพิเศษมากขึ้นไปอีก ผมรู้ว่าเวมบลีย์จะถูกใช้สำหรับช่วงเวลาพิเศษเท่านั้น และตอนนี้ผมก็อยากมีช่วงเวลาที่พิเศษกับสนามแห่งนี้เช่นกัน" ติอาโก้ ทิ้งท้าย เกมนัดนี้ค่อนข้างมีความหมายกับ ลิเวอร์พูล มากพอสมควร เพราะหากชนะได้จะทำให้พวกเขาเป็นดับเบิ้ลแชมป์ในประเทศทันที อีกทั้งการคว้าแชมป์จะช่วยทำให้มีพลังเพิ่มขึ้นสำหรับการตามล่า แมนฯ ซิตี้ ในพรีเมียร์ลีกด้วยเช่นเดียวกัน ติอาโก้ คว้าแชมป์บอลถ้วยในประเทศมาแล้ว 5 ครั้ง นั่นคือถ้วยโกา เดอ เรย์ 1 และเดเอฟเบ โพคาล อีก 4 ดังนั้นหากเขาได้แชมป์เอฟเอ คัพ กับ ลิเวอร์พูล อีกฝบ จะทำให้เขาคว้าแชมป์บอลถ้วยใบใหญ่ได้ครบ 3 ลีกยุโรปทันที เกมวันนี้จึงสำคัญกับ ติอาโก้ มากเกมนึง มันคือเกมนัดชิงที่เขาเฝ้ารอและขอแก้มือจากที่พลาดโอกาสไปในเกมลีกคัพ ซึ่งดาวเตะชาวสเปนจะทำสำเร็จไหม ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ เราจะได้รู้กัน