ไม่กี่ฤดูกาลที่ผ่านมา อตาลันต้า ได้สร้างเทพนิยายด้วยการเป็นหนึ่งในสโมสรที่เล็กที่สุดในลีกสูงสุดอิตาลีที่ได้ไปวาดลวดลายในรายการใหญ่ของฟุตบอลยุโรปหลังจบท็อปโฟร์มา 2 ซีซั่นติดต่อกัน
กระนั้นฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีกของพวกเขาก็จะจบลงแล้วในฤดูกาลหน้า เนื่องจากทีมของ กัสเปรินี่ ยังคงรั้งเพียงอันดับ 8 ขณะที่เหลือการแข่งขันอีกแค่นัดเดียวเท่านั้น
แต่ในขณะที่สโมสรจากแบร์กาโม่กำลังถ่ายเลือดใหม่ อย่างน้อยพวกเขาก็สบายใจได้ เนื่องจากอะคาเดมี่ของ อตาลันต้า ยังคงผลิตแข้งพรสวรรค์ระดับท็อปออกมาได้อย่างต่อเนื่อง
หลังจากปั้นผู้เล่นอย่าง ฟร้องค์ เกสซีเย่, เดยัน คูลูเซฟสกี้ และ อาหมัด ดิยัลโล่ ขึ้นมาประดับวงการในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อตาลันต้า ก็ถูกยกให้เป็นหนึ่งในทีมที่มีระบบเยาวชนดีที่สุดทีมหนึ่งในวงการฟุตบอลอิตาลี
และดาวรุ่งรายล่าสุดที่แจ้งเกิดในถิ่นเกวิสส์ สเตเดี้ยม ก็คือ จอร์โจ้ สคัลวินี่
สคัลวินี่ ไม่เคยลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่มาก่อนเลยกระทั่งถึงเดือนตุลาคม ทว่านับจากนั้นเป็นต้นมา เขาก็พาตัวเองมาอยู่ในทีมของ กัสเปรินี่ และยึดตัวจริงได้ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคม
เซนเตอร์แบ็กรายนี้อ้างว่าตัวเองมี ติอาโก้ ซิลวา เป็นแรงบัลดาลใจ เขามีความโดดเด่นกว่าใครในกลุ่มผู้เล่นอายุเดียวกันนับตั้งแต่ย้ายจาก เบรสชา มายัง อตาลันต้า เมื่อวัย 12 ปี และตอนนี้ก็ได้เปลี่ยนสถานะตัวเองเป็นแข้งซีเนียร์ไปแล้ว
เขาอยู่ในสายตาของ กัสเปรินี่ ในช่วงปี 2020-21 เมื่อกลายเป็นหนึ่งในดาวเด่นของทีมเยาวชนที่ไปถึงรอบชิงชนะเลิศ ก่อนจะแพ้ให้กับ เอ็มโปลี
จาก 31 นัดที่ลงสนามทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่ลงเล่นมากที่สุดของบรรดาแข้งที่เกิดในปี 2003 หรือหลังจากนั้น และนั่นทำให้เขาได้รับรางวัลด้วยการมีชื่อบนม้านั่งสำรองของทีมชุดใหญ่ในบางครั้งของซีซั่นดังกล่าว
เขาได้รับโอกาสให้สร้างความประทับใจเพิ่มเติมในช่วงปรีซีซั่น และด้วยฟอร์มของเขาในเกมอุ่นเครื่องของ อตาลันต้า ก็โดดเด่นมากพอที่จะกล่อมให้สโมสรไม่จำเป็นต้องเซ็นสัญญากับกองหลังคนใหม่ในซัมเมอร์ปี 2021
"ในความเห็นของผม สคัลวินี่ อยู่ที่นี่ (ทีมชุดใหญ่) ในปีนี้ เขาให้ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมกับผม" กัสเปรินี่ กล่าวก่อนเริ่มฤดูกาล ก่อนที่จะมีการเปรียบเทียบไอ้หนูรายนี้กับ อเลสซานโดร บาสโตนี่ ของ อินเตอร์
"เขาอาจจะเป็น บาสโตนี่ คนใหม่ แต่ตอนนี้มันเป็นเรื่องของความรู้สึก ในบางตำแหน่ง อตาลันต้า สามารถใช้ผู้เล่นอะคาเดมี่จำนวนมากโดยไม่เปลืองทรัพยากรกับนักเตะจากที่อื่น"
ความแตกต่างจาก บาสโตนี่ ก็คือ สคัลวินี่ ถนัดเท้าขวา แต่ก็มีลักษณะที่เหมือนกันหลายอย่าง พวกเขาทั้งคู่เล่นได้หมดไม่ว่าจะเป็น 3 เซนเตอร์แบ็ก หรือแบ็กโฟร์ ขณะที่ความสูง 6 ฟุต 4 นิ้ว (1.94 เมตร) ของเขานั้นมีระดับร่างกายที่ใกล้เคียงกับดาวเตะทีมชาติอิตาลี
สคัลวินี่ ก็เหมือนกับ บาสโตนี่ ที่เด่นในการครองบอล และก็เคยลงเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์มาแล้วในช่วงที่ก้าวขึ้นมาใหม่ๆ
การประเดิมทีมชุดใหญ่นัดแรกของเขาเกิดขึ้นในเกมกับ อูดิเนเซ่ เมื่อเดือนตุลาคม และถึงแม้ มัตเตโอ โลวาโต้ จะถูกดึงมาจาก กายารี่ แบบยืมตัวในเดือนมกราคม สคัลวินี่ ก็ยังปักหลักในทีมชุดใหญ่ได้แบบไม่สะทกสะท้าน
"สำหรับผม มันทำให้ผมพอใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมนี้" เขากล่าวหลังจากได้ลงตัวจริงครั้งแรกกับ เวเนเซีย เมื่อเดือนตุลาคม
"เพื่อนร่วมทีมของผมช่วยผมได้มาก และคำแนะนำของพวกเขาทำให้งานของผมในสนามง่ายขึ้น"
https://twitter.com/Atalanta_BC/status/1516403714801737730
ตอนนี้ สคัลวินี่ ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ไปแล้ว 20 นัด ในขณะที่ฤดูกาลกำลังจะปิดตัวลง
นอกจากนี้ เขาก็ยังทำประตูแรกในอาชีพค้าแข้งในเกมกับ เวโรน่า เมื่อเดือนเมษายน โดยความตั้งใจของ อตาลันต้า ในตอนนี้ก็คือการเก็บเขาเอาไว้สำหรับอนาคต
สัญญาของ สคัลวินี่ ยังดำเนินไปถึงซัมเมอร์ ปี 2023 และก็มีทั้งทีมจากอิตาลี และทั่วยุโรปที่จับตาดูสถานการณ์ของกองหลังรายนี้ ซึ่งหลายคนก็เชื่อว่าเขาจะก้าวขึ้นไปเป็นแกนนำของทีมชาติอิตาลีอีกในไม่กี่ปีข้างหน้า
เขาเกือบจะได้ลิ้มรสการซ้อมกับทีมชาติอิตาลีชุดใหญ่มาแล้วในเดือนมกราคม เมื่อถูกเรียกตัวจาก มันชินี่ ก่อนเกมเพลย์ออฟฟุตบอลโลกที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ด้วยอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อเล็กน้อยทำให้ สคัลวินี่ ต้องถอนตัวออกมา
แต่นี่มันก็แค่การเริ่มต้นอนาคตอันสดใสของไอ้หนูรายนี้ทั้งในระดับสโมสร และทีมชาติ
พาสต้า
