:::     :::

หน่วง

วันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2561 คอลัมน์ ฉันดูบอลที่ร้านเหล้า โดย ดากานดา
2,500
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
"ครึ่งแรกเราเล่นสะเปะสะปะมาก นักเตะที่เราซื้อมา ความสามารถสูง แต่ไม่มีความรู้ใจกันเลย จบครึ่งแรกผมเลยต้องคุยกับเด็กว่า เองต้องเล่นเป็นทีมนะเว้ย"

คำพูดแรกที่ออกจากปาก จเด็จ มีลาภ หลังจบเกมที่คลองเตย แม้จะชนะอาคันตุกะที่มาจากเขตปกครองตัวเองอย่าง พัทยา ถึง 3-0 และถีบตัวเองขึ้นไปจ่าฝูงของตารางก็เถอะ

ใช่ ... เพราะความจริงมันเป็นอย่างที่ “มาสเซอร์” พูดนั่นแหละ

บนความคาดหวังหลังแม่ใหญ่แห่งการท่าเรือ “หว่านเม็ดเงิน” ในระดับสูงเกิน 100 ล้านบาท ดึงผู้เล่นมากฝีตีนอย่าง ดราแกน บอสโควิช, นูรูล ศรียานเก็ม, เควิน ดีรมรัมย์ รวมถึงคนอื่นๆเข้ามา เพื่อต่อยอดฝันของทีม การอยากเห็นฟุตบอลที่สวยงาม ดุดัน เร้าใจ คงไม่ใช่เรื่องแปลก


ทว่าสิ่งที่พบคือ “สิงห์เจ้าท่า” ในครึงเวลาหลักไม่สามารถ “เชื่อม” กันได้เลย ทีมเวิร์กที่เป็นหัวใจสำคัญของทีมโดนขโมยหายไปจาก แพท สเตเดียม ความสมารถเฉพาะตัวถูกนำมาใช้ต่อกรกับผู้มาเยือนแทน

ตรงข้ามกันกับ พัทยา ยูไนเต็ด ที่มาด้วยสภาพทีมที่เป็นรอง ทว่าในแง่แท็คติกพวกเขาทำได้อย่างสวยงาม การต่อบอลขึ้นเกม ความเข้าใจเกมทำได้มีชีวิตชีวากว่าเจ้าบ้าน สิ่งที่ขาดไปคงมีแค่ “จังหวะสุดท้าย” ที่ไม่สามารถเปลี่ยนให้บอลผ่านเข้าตาข่ายเท่านั้น

ฉันอดตั้งคำถามไม่ได้ว่า ลูเคียน อัลเมดา ดาวยิงหมายเลข 9 ที่ดึงเข้ามา สโมสรเลือกเอง หรือเอเย่นต์นำมาเสนอให้ เพราะบราซิเลียนวัย 26 ปีรายนี้แทบไม่ได้สร้างความต่างให้ทีมได้เลย พิง ล้ม จับบอลลั่นเป็นวา แถมยังเป็นกองหน้าการตลาด (ส่งออก) อีก

เมื่อรูปเกมดูดีกว่าแต่ทำไม่ได้ แล้วถูกลงโทษคงไม่แปลก การท่าเรือ ที่ยังหาโมเมนตัมต่อเกมสวยหรูในแดนหน้าไม่ได้ ออกนำไปก่อนจากความอำมหิตของ บอสโควิช ล้วนๆ

นี่คือคำตอบชั้นเกว่าเพราะเหตุใด “มาดามแป้ง” ถึงยอมเจียดเงินหลัก 20 ล้านบาท แลกมา

เข้าสู่ครึ่งหลัง เหมือน จเด็ด มีลาภ จะใช้ยาดีกับทีม ผู้เล่นในสนามเริ่มลงล็อกมากขึ้น รวมถึงจุดเปลี่ยนของทีมที่ไม่เสียประตูตีเสมอด้วย หลังทีมเยือนได้จุดโทษ มากกว่านั้น พัทยา ยังมาเหลือผู้เล่น 10 คนอีก ถึงตรงนี้เรียกว่าช้อยเก็บฉากได้คงไม่ผิด

การเปิดหน้าแลกแบบสภาพทีมเป็นรองทุกทาง ทำให้เกมรับมีช่องโหว่กว่าเดิม สุดท้ายท่าเรือเฆี่ยนไปอีก 2 แผล จบเกมที่ 3-0 ทีมทะยานเป็นจ่าฝูง ในวันที่เปิดตัวสโมสร

ทุกอย่างดูสวยหรูไปหมด นวลพรรณ ล่ำซำ ฉีกยิ้มแกมปริที่ได้กิน “ต้มยำโลมา” สมใจ เหมือนที่พูดไว้ก่อนแข่งขัน

แต่เมื่อหันกลับมามองรายทาง “ผลงาน” โดยรวมวันนี้ท่าเรือดีแล้วจริงๆหรือ

นูรูล ศรียานเก็ม จอมแอสซิสต์แห่งปีฤดูกาลก่อน แทบไม่มีลูกจ่ายสวยๆให้เห็น สถานการณ์ 1-1 ไม่สามารถเอาชนะ ศุภนันท์ บุรีรัตน์ ได้สักครั้ง คงมีหนเดียวที่เจ้าตัวเรียกใบแดงจาก จักพัน ไพรสุวรรณ ได้

เควิน ดีรมรัมย์ แบ็กราคา 40 ล้าน ถูกแบ็กขวาพัทยาฯ เจาะเป็นว่าเล่น

ดราแกน บอชโควิช หากไม่มีจังหวะปลิดชีพเสียบสามเหลี่ยมท้ายครึ่งแรก ก็ไม่มีผลงานระดับมาสเตอร์พีชสวยหรู

หากมองฟุตบอลแบบไม่คิดอะไร “แมวสีอะไรก็ได้แค่จับหนูได้” ก็ไม่ผิด ในเมื่อสกอร์บอร์ดในสนามหลังจบ 90 นาทีหักลบคำตอบทุกอย่าง และตารางคะแนนไม่เคยโกหก

ทว่าหากทีมยังเล่นด้วยฟอร์มเช่นนี้ในแมตช์อื่น และ “มาสเซอร์” ไม่สามารถจูนทีมให้สมดุล-ลงตัวโดยเร็ว คงยากที่จะทำผลงานได้ดังที่ท่านประธานสาววาดฝันไว้


ใช่ เพราะสโมสรเปลี่ยนแปลงเยอะ การทำให้สภาพทีมกลับมา “กลมกล่อม” ทุกตำแหน่งต้องใช้เวลา แต่โลกฟุตบอลบางครั้งไม่อาจหยุดรอ

จากความรู้สึก วันนี้เราชนะ เราดีใจ เราจิบเบียร์ใบหน้าเปื้อนยิ้ม ไปพร้อมกับแฟนบอลทั้ง 6,517 คนใน แพท สเตเดียม แต่มันยังเป็น “ยิ้มที่ไม่สุด” เมื่อเทียบเคียงกับศักยภาพทีมที่เป็นอยู่

ให้เวลา และหวังว่าก่อนบุก เอสซีจี เมืองทอง สัปดาห์หน้า ทีมจะลงล็อกและเล่นมีมิติมากกว่านี้

จากสาวก “สิงห์เจ้าท่า” คนหนึ่ง

 

       

 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด