:::     :::

"ไม่พร้อมสู้...อยู่บ้านไป!"

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
"ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเราไม่ทำตามสิ่งที่โค้ชสั่งให้เราทำ หากมีใครที่ไม่พร้อมสำหรับการลงเล่นเกมนี้ อยู่บ้านไปเลยดีกว่า มันไม่สำคัญหรอกว่าคุณมีอายุเท่าไหร่ หากคุณกลัว ก็อยู่ข้างสนามหรืออยู่บ้านดีกว่า"

นั่นคือความเห็นที่ปล่อยออกมาไม่ยั้งของ กรานิต ชาคา ภายหลัง อาร์เซน่อล ปราชัยต่อ นิวคาสเซิ่ล ในนัดรองสุดท้ายของฤดูกาล เมื่อค่ำคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา

เป็นความพ่ายแพ้ที่ส่งผลกระทบยิ่งกว่านัดก่อนหน้ากับ สเปอร์ส เพราะส่งผลถึงโอกาสลุ้นจบท็อปโฟร์ที่แทบหลุดลอย และไม่ได้กุมชะตาตัวเองเอาไว้ในมืออีกแล้ว

หลังจบเกมที่พ่ายต่อไก่เดือยทอง อาร์เซน่อล ยังอยู่ในสถานการณ์ได้เปรียบขอเพียงชนะใน 2 นัดสุดท้ายก็จะคว้าตั๋วไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก แน่นอน 

แต่พวกเขาทำไม่ได้ และไม่ใกล้เคียงว่าจะทำได้ 

ในทางตรงกันข้ามกลับเป็น นิวคาสเซิ่ล ที่แสดงให้เห็นว่าเหมือนทีมที่กำลังลุ้นท็อปโฟร์มากกว่า ทัพสาลิกาลงเล่นอย่างมีเป้าหมาย และต้องการเอาชนะให้ได้

ทีมดังแห่งภาคอีสานเคยเป็นลูกไล่ให้ อาร์เซน่อล ตบเล่นตลอดในช่วงหลายปีหลัง สถิติเจอกัน 6 นัดล่าสุดในลีกก่อนเกมนี้ยืนยันชัดเจนจากการที่ "ปืนใหญ่" ชนะรวดและไม่เสียประตูเลย

แต่ครั้งนี้คือเรื่องราวที่ต่างออกไป นิวคาสเซิ่ล ไล่โขยกใส่ อาร์เซน่อล ตั้งแต่นาทีแรกจนถึงวินาทีสุดท้าย พวกเขาสมควรได้รับการชูมืออย่างไร้ข้อกัง และแม้แต่ มิเกล อาร์เตต้า ก็ก้มหน้ายอมรับ

"ผมผิดหวังอย่างที่สุดกับแนวทางการเล่นของเราตั้งเริ่มเกมจนถึงจบเกม นิวคาสเซิ่ล ทำได้ดีกว่า พวกเขาสมควรชนะชัดเจน มันเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากจริงๆ นิวคาสเซิ่ล เหนือกว่าเรา 100 เท่า ดีกว่าทุกอย่าง ส่วนเราไม่มีอะไรเลย" อาร์เตต้า กล่าว

จริงอยู่ว่าปัญหาบาดเจ็บส่งผลต่อทีมอย่างเลี่ยงไม่ได้ อาร์เซน่อล ไม่มี โธมัส ปาร์เตย์ กับ คีแรน เทียร์นีย์ ที่ปิดเทอมไปแล้ว ขณะที่ เบน ไวท์ กับ กาเบรียล มากัลเญส ก็ไม่ได้เต็มร้อยมากนักแต่ต้องถูกส่งลงคู่กันในตำแหน่งเซนเตอร์เพราะ ร็อบ โฮลดิ้ง ติดโทษแบน


โอเดการ์ด ปั้นเกมไม่ไหว

แต่ท้ายที่สุดแล้ว ปัญหาความพร้อมของนักเตะไม่ใช่ข้อแก้ตัว การเล่นในสนามต่างหากที่ อาร์เซน่อล แพ้ราบคาบ 

นิวคาสเซิ่ล ไม่จำเป็นต้องไล่เพรสซิ่งแดนบนเหมือนหลายทีมที่พยายามเล่นงานการเซตเกมขึ้นมาจากแนวรับของ อาร์เซน่อล แต่ทัพสาลิกาเลือกที่จะบดขยี้ตรงกลางให้แหลกซึ่งเป็นกลยุทธิ์เดียวที่ สเปอร์ส เพิ่งใช้ 

บรูโน่ กิมาไรส์, ฌอน ลองสตาฟฟ์ และ โชเอลินตอน งัดลูกหนัก ลูกขยัน ออกมาเล่นงานบรรดาตัวรุกดาวรุ่งของปืนใหญ่จนแทบต่อบอลทำเกมกันไม่ได้ ขณะที่คู่มิดฟิลด์ตัวกลาง กรานิต ชาคา และ โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ ทำได้เพียงแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปเรื่อยๆ ไม่สามารถคอนโทรลเกม

เมื่อจัดการแดนกลางได้ นิวคาสเซิ่ล ก็เพียงถ่ายบอลออกด้านข้างให้ มิเกล อัลมิรอน และ อัลล็อง แซงต์ มักซิแม็ง โจมตีแบ็กสองข้างของ อาร์เซน่อล ซึ่งได้ผลอย่างมากโดยเฉพาะฝั่งของ อัลล็อง แซงต์ มักซิแม็ง ที่เล่นงาน ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ จนเดี้ยงอีกรอบ

ความมุ่งมั่นตั้งใจ ดุดัน เอาจริงเอาจัง 

ความแข็งแกร่งของร่างกาย จังหวะเข้าปะทะ 

ความเข้าใจในเกม ทีมเวิร์ก บทบาทของแต่ละคน 

นิวคาสเซิ่ล ทำได้ดีกว่า อาร์เซน่อล ชัดเจน 

เมื่อบวกกับฟอร์มในเซนต์ เจมส์ ปาร์ค ช่วงหลังที่ชนะถึง 6 จาก 7 นัดล่าสุด นิวคาสเซิ่ล ทีมนี้จึงเหมื่อนคนละทีมที่ อาร์เซน่อล เคยผูกปีชนะไม่ยาก 

ตัวเลขสถิติอาจใกล้เคียงเช่น การครองบอล 51 % ต่อ 49 %, โอกาสยิง 16 ครั้งต่อ 11 ครั้ง, ผ่านบอลสำเร็จ 260 ครั้งต่อ 258 ครั้ง

แต่ประสิทธิภาพในการเล่นเป็น นิวคาสเซิ่ล ที่ชนะขาดลอย 


"โทมิ" โดนเผาจนเจ็บ

หากไม่นับอาการบาดเจ็บของ "โทมิ" ในท้ายครึ่งแรก อาร์เตต้า พยายามปรับเกมเร็วตั้งแต่นาที 53 ที่ถอด เอมิล สมิธ โรว์ ออกแล้วส่ง กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ลงเล่นแทน และจากนั้นอีก 3 นาทีก็ส่ง อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ ลงไปเป็นตัวรุกเพิ่มและถอดตัวรับ นูโน่ ตาวาเรส ออก

การยืนตำแหน่งของ อาร์เซน่อล ยิ่งดูสับสนมากกว่าเดิม เซดริก โซอาเรส พยายามเติมสูงจนเหมือนเป็นวิงแบ็กและทำให้ข้างหลังเหลือเพียง เบน ไวท์ กับ กาเบรียล มากัลเญส บีบให้ กรานิต ชาคา ต้องถอยลงมาช่วย และนั่นก็ยิ่งทำให้ตรงกลางที่เหลือเพีบง เอลเนนี่ งานหนักมากยิ่งขึ้น

ช่วง 17 นาทีสุดท้าย อาร์เตต้า เทหมดหน้าตักยอมเสี่ยงถอด กาเบรียล มากัลเญส ออกแล้วส่งตัวรุกเพิ่มอีกคนคือ นิโกล่าส์ เปเป้ พร้อมกับเซตเกมรับใหม่เป็นหลังสามคือ เซดริก, ไวท์ และ ชาคา 

ทว่าเกมของ อาร์เซน่อล ก็ไม่ดีขึ้น แถมการปรับทัพหลายต่อหลายครั้งก็ยิ่งเปิดพื้นที่ให้ นิวคาสเซิ่ล ได้โจมตี หากไม่ได้ อารอน แรมส์เดล ออกแรงช่วยเซฟไปหลายครั้ง อาร์เซน่อล จะแพ้ยับยิ่งกว่านี้

เช่นเดียวกับ คัลลั่ม วิลสัน ที่มีโอกาสเพียบแต่พลาดไปหมด ส่วนหนึ่งอาจเพราะเจ้าตัวเจ็บไปนานและเพิ่งกลับมาเป็นสำรองในเกมกับ แมนฯ ซิตี้ และเกมนี้ก็เป็นลงตัวจริงนัดแรกในรอบห้าเดือน จังหวะการเล่น ความแม่นยำ ยังไม่เข้าที่เข้าทางมากนัก

อาร์เซน่อล ไม่พร้อมสู้และไม่เล่นตามที่โค้ชสั่งอย่างที่ ชาคา เฉ่งเพื่อนร่วมทีมหลังเกม "แผนที่เราเตรียมเอาไว้มันต่างกับสิ่งที่ทำตลอด 90 นาทีโดยสิ้นเชิง"

เกมรับในสภาพไม่พร้อมทั้งการเล่นที่หละหลวมเสียประตู 9 นัดติด และความฟิตที่เห็นชัดว่าไม่เต็มร้อย ทำให้ตกอยู่ในสภาพหลังพิงฝา ยกการ์ดตั้งรับเกมรุกของ นิวคาสเซิ่ล ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง 

ขณะที่เกมรุกยิ่งน่าผิดหวัง จังหวะเล่นร่วมกันแทบนับครั้งได้ สมิธ โรว์ ได้โอกาสตัวจริงแต่เงียบสนิท ซาก้า, โอเดการ์ด และ เอ็นเคเทียห์ เจอเข้าถึงตัวเร็วก็เล่นลำบาก ยิ่งตัวสำรองอย่าง เปเป้ ยิ่งแล้วใหญ่ แค่เปิดบอลง่ายๆ ก็ทำเสีย 

ในหลายต่อหลายนัดที่แพ้ อาร์เตต้า สามารถหาเหตุผลมาปกป้องทีมได้เสมอ แต่ไม่ใช่กับครั้งนี้ 


กรานิต ชาคา สุดผิดหวังเพื่อนร่วมทีม

"ปกติผมจะออกมานั่งตรงนี้และพูดอะไรบางอย่างเพื่อปกป้องสิ่งที่เราทำ แต่วันนี้ไม่ได้จริงๆ เราต้องยอมรับว่าฟอร์มการเล่นไม่ใกล้เคียงกับระดับของแชมเปี้ยนส์ ลีก เลย" อาร์เตต้า กล่าว 

  ทีมที่จะเป็นแชมป์ หรือได้เล่นในการแข่งขันระดับระดับสูงต้องมีคุณภาพที่ดีกว่านี้ซึ่งเป็นสิ่งที่ อาร์เซน่อล ไม่มี นอกจากนี้ ความกล้าหาญ หัวจิตหัวใจนักสู้ คาแรกเตอร์ และประสบการณ์ก็เป็นสิ่งที่แข้งปืนใหญ่ชุดนี้ไม่มี หรืออาจมีแต่ยังไม่พอ 

อาร์เซน่อล มีโอกาสที่ดีกว่าหลายปีในช่วงหลังเพื่อลุ้นจบท็อปโฟร์กลับไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก อีกครั้ง แต่พวกเขาก็โยนโอกาสทิ้งไปดื้อๆ...ครั้งแล้วครั้งเล่า

แพ้ 3 นัดติดต่อ พาเลซ, ไบรท์ตัน และ เซาธ์แฮมป์ตัน แต่คู่แข่งก็มีสะดุดทำให้โอกาสยังอยู่ในมือ

แพ้ต่อ สเปอร์ส แต่ยังกุมชะตาตัวเองเพราะคะแนนยังนำ

แต่ครั้งล่าสุดคงเป็นครั้งสุดท้าย 

ต่อให้ในทางทฤษฎียังมีหวังกับการเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ให้ได้ในนัดสุดท้าย และลุ้นให้ นอริช ที่ตกชั้นไปแล้วชนะ สเปอร์ส 

แต่ในความเป็นจริง ทุกคนก็แทบยอมรับสภาพกันแล้ว 

อาร์เซน่อล ชุดนี้ยังไม่พร้อมสำหรับเวทีระดับแชมเปี้ยนส์ ลีก และควรนอนอยู่บ้านจริงๆ


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด