สำหรับ “เจมส์ มิลเนอร์” ดาวเตะมากประสบการณ์ของลิเวอร์พูล แม้วัยจะล่วงเลยไปกว่า 36 ปีแล้ว เขายังคงเล่นเกมระดับสูงได้อย่างน่าชื่นชม พร้อมกับเป็นหนึ่งในฟันเฟือง ช่วยให้พลพรรค “หงส์แดง” ไล่เก็บเกี่ยวความสำเร็จ
เส้นทางลูกหนังของมิลเนอร์ ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย นี่คือลูกหม้อของทีมลีดส์ ยูไนเต็ด ก่อนจะย้ายมาเล่นกับทีมดังอย่างนิวคาสเซิ่ล, แอสตัน วิลล่า, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และปัจจุบันกับลิเวอร์พูล
เรื่องราวที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยทราบมาก่อนคือ มิลเนอร์ ฝากความประทับใจเอาไว้กับสโมสรที่ปลุกปั้นเขามาอย่างทัพ “ยูงทอง” เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เราลองไปย้อนความทรงจำกันหน่อย รวมถึงเคล็ดลับการดูแลตัวเอง ที่ช่วยให้เขายืนระยะได้ยาวนาน
“ผมไม่อาจรับเงินจากลีดส์ ยูไนเต็ด”
มิลเนอร์ เกิด และเติบโตที่เมืองลีดส์ เกิด พร้อมกับการเป็นแฟนบอลของสโมสรท้องถิ่นอย่างลีดส์ ยูไนเต็ด แน่นอนว่า เขาถือตั๋วปีของสโมสร ก่อนพัฒนาเป็นเด็กเก็บบอลที่สนามเอลแลนด์ โร้ด จนก้าวเข้าสู่อะคาเดมี่ และเล่นทีมชุดใหญ่ครั้งแรก ด้วยวัย 16 ปี
กระทั่งในปี 2004 มิลเนอร์ ต้องพบกับจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เมื่อพลพรรค “ยูงทอง” ต้องกระเด็นตกชั้นจากศึกพรีเมียร์ลีก พร้อมกับเจอพายุลูกโต กับปัญหาเรื่องการเงินที่ถาโถมเข้ามา ทำให้นักเตะตัวหลักหลายคน ต่างกระจัดกระจายย้ายทีมกันออกไป .... รวมถึงตัวเขาด้วย
“ถือเป็นช่วงเวลาที่แสนยากลำบาก ลีดส์ ยูไนเต็ด ต้องตกชั้น และมีปัญหาเรื่องการเงินเกิดขึ้นอย่างมากมาย” มิลเนอร์ เริ่มเล่า “ทั้งเรื่องหน้ากระดาษ ความยุ่งเหยิงนอกสนาม สิ่งเหล่านี้ ทำให้คุณต้องเติบโตอย่างรวดเร็ว ผ่านการเฝ้ามองนักเตะอาวุโสว่า พวกเขามีวิธีจัดการกับสิ่งต่างๆอย่างไร”
“ผมผ่านการเรียนรู้อย่างรวดเร็ว ช่วงระยะเวลา 2 ปี ผมต้องเล่นภายใต้ผู้จัดการทีมหลายคนมาก ทั้งระดับสูง และรองลงมา โดยช่วงเริ่มต้นฤดูกาลที่ 2 ของผมกับสโมสร ปีเตอร์ รีด ก้าวเข้ามาคุมทีม และผมก็ถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับทีมสวินดอน ทาวน์ ผมทำผลงานได้ค่อนข้างดี ก่อนที่ผมจะกลับไปที่ลีดส์ และได้ลงเล่นทุกเกม”
“กระทั่งปี 2004 ผมก้าวเข้าสู่ช่วงปรีซีซั่น พร้อมกับมีเรื่องการต่อสัญญาฉบับใหม่อยู่ในหัว ทันใดนั้นเอง ใครสักคนก็พูดขึ้นมาว่า -นายต้องย้ายไปนิวคาสเซิ่ล และต้องเข้ารับการตรวจร่างกายในวันพรุ่งนี้ !!-“
“สิ่งที่ผมคิดในหัวตอนนั้นคือ -ผมเนี่ยนะ !!- ถือเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง ที่ผมไม่ได้เล่นกับลีดส์ นานกว่านี้ ทว่าการได้ลงเล่นให้ทีมก็แสนพิเศษแล้วล่ะ ลีดส์ ติดค้างเงินผมเป็นจำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ผมขอไม่รับเงินจำนวนนั้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือสโมสร”
“ผลสุดท้าย พวกเขาได้ค่าตัวผมจากการย้ายทีม ซึ่งการย้ายออกไปของผม คือการทำเพื่อผลประโยชน์ที่ดีที่สุดของสโมสร เนื่องจากปัญหาการเงินทั้งหมดที่ต้องเจอ ผมคิดว่า นี่คือสิ่งที่ถูกต้องต่อสโมสรแล้ว” มิลเนอร์ เล่าถึงเหตุการณ์ครั้งนั้น
หลังจากนั้น เขาก็ก้าวมาคว้าแชมป์อย่างมากมาย ทั้งกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และลิเวอร์พูล
มิลเนอร์ ออกมากล่าวถึงเคล็ดลับการดูแลตัวเองด้วยว่า นี่คือเคล็ดลับที่ทำให้เขาสามารถเล่นฟุตบอลได้ถึงวัย 36 ปี ซึ่งอาจจะเป็นช่วงเวลาที่นักเตะหลายคน อาจเลือกแขวนสตั๊ด หรือเลือกย้ายไปเล่นลีกรองแล้ว
"ผมชอบไปเตรียมตัว 15 นาทีก่อนลงฝึกซ้อม” มิลเนอร์ เริ่มกล่าวถึงเคล็ดลับ “อาจมาในรูปแบบของการปั่นจักรยาน เพื่อช่วยในเรื่องของการไหลเวียนของเลือดที่บริเวณขา เราแบ่งกันเป็นกลุ่มเล็กๆ เพื่อจะทำการออกกำลังกาย และยืดกล้ามเนื้อ”
“เราจะทำการยืดแบบช้าๆ ผสมกับแบบไดนามิค เช่นการเตะขาให้สูงที่สุดเท่าที่เราสามารถทำได้ มันเป็นการอบอุ่นกล้ามเนื้อ มันเป็นเรื่องที่ดีนะ เพราะหมายความว่า ร่างกายของคุณจะไม่แข็งจนเกินไป"
“ผมมักอยู่ต่อหลังจากการฝึกซ้อม คอยหมั่นฝึกฝนเรื่องอื่นๆเสริมไป ไม่ว่าจะเป็นการจบสกอร์ และการยิงจุดโทษ เมื่อคุณยิงบอลไปกระทบก้นตาข่ายได้แล้ว มันจะเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมาก คุณจะรู้สึกว่า ตัวเองทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว”
“คุณอาจมีการฝึกซ้อมที่ดี หรือร้ายก็ได้ คุณอาจพ่ายมาในเกมวันเสาร์ จากนั้นคุณควรอยู่หลังการฝึกซ้อม และยิงบอลให้กระทบตาข่าย เพราะมันจะสร้างพลังเชิงบวกให้กับคุณได้ ซึ่งคุณสามารถนำสิ่งเหล่านี้ ไปใช้ในเกมต่อไป”
มิลเนอร์ ทิ้งท้ายว่า “ส่วนเรื่องอาหาร โปรตีน ถือเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยกล้ามเนื้อให้ฟื้นฟูขึ้นมา ดังนั้น ผมมักอัดโปรตีนทันทีหลังเสร็จสิ้นจากการฝึกซ้อมมันเป็นสิ่งสำคัญมาก ในการให้โปรตีน เข้าสู่ร่างกายของคุณอย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อการฟื้นฟูกล้ามเนื้อจะได้รวดเร็วตามไปด้วย”
“ผมมักกินอาหารที่มีโปรตีน, ไก่, สเต็ก หรือปลา รวมกับประเภทคาร์โบไฮเดรต ทั้งพาสต้า, ข้าว, เส้นก๋วยเตี๋ยว หรือว่าพวกมันฝรั่ง ผมพยายามกินผักบางชนิดเช่นเดียวกัน พร้อมกับพยายามสร้างความสมดุลในการกินอาหารของตัวเอง”
“ผมทำงานหนักในเรื่องการออกกำลังกายกล้ามเนื้อ มันช่วยผมในเรื่องของการแข่งขันในสนาม สำหรับผม การเล่นเวทไม่ได้หมายถึงการเล่นให้กล้ามเนื้อ หรือร่างกายใหญ่โตเพียงอย่างเดียว เพราะผมต้องการความปราดเปรียวในสนามเช่นเดียวกันด้วย”
“ผมชอบเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อแกนกลาง กล้ามเนื้อส่วนนี้อาจไม่ผ่านการใช้ในการฝึกซ้อมประจำวัน แต่คุณต้องทำให้มันแข็งแรงเข้าไว้” เจมส์ มิลเนอร์ ทิ้งท้าย
