มันเป็นวันชื่นคืนสุขของ ไอน์ทรัคท์ แฟร้งค์เฟิร์ต หลังการคว้าแชมป์ยูโรปาลีกซีซั่น 2021-2022 ซึ่งเป็นความสำเร็จบนเวทียุโรปครั้งที่สองของสโมสร นับตั้งแต่การคว้าแชมป์ ยูฟ่า คัพ ในฤดูกาล 1979-1980

แฟร้งค์เฟิร์ต เริ่มต้นและปิดฉากอย่างสมบูรณ์แบบหลังไม่แพ้ใครตลอด 13 เกมที่ลงเล่นบนเวทียูโรปาลีกซีซั่นนี้ โดยทำสถิติชนะ 3 เสมอ 3 ในการลงเล่นรอบแบ่งกลุ่มกับ โอลิมเปียกอส, เฟเนร์บาห์เช่ และ รอยัล อันท์เวิร์ป มันอาจเป็นเรื่องปกติเมื่อพิจารณาจากคู่แข่งของพวกเขา

แต่ทีมอินทรีแดง-ดำ พิสูจน์ให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมในการลงเล่นรอบน็อกเอาท์ด้วยการโค่นทีมที่แข็งแกร่งกว่าอย่าง เรอัล เบติส, บาร์เซโลน่า และ เวสต์แฮม จนกระทั่งทะยานเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ก่อนจะดวลเป้าชนะ เรนเจอร์ส ของสกอตแลนด์ 5-4 หลังเสมอกันใน 120 นาที 1-1

'เราลงเล่น 13 เกมในยุโรปและเราไม่แพ้แม้แต่ครั้งเดียว' โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ เทรนเนอร์ชาวออสเตรียนกล่าว 'เราดำเนินการไปทีละขั้นตอนและท้ายที่สุดเราได้รับรางวัลตอบแทน ดังนั้นผมจึงไม่สามารถสรรหาคำพูดใดๆที่จะสาธยายสิ่งที่เด็กๆทำในวันนี้และในฤดูกาลนี้ และพวกเขาไม่ได้ทำให้ผมผิดหวังบ่อยนัก'

'มันเป็นเกมสุดท้ายของฤดูกาล เป็นเกมที่เข้มข้นและทุกคนบีบคั้นทุกอย่างที่พวกเขามี ถือเป็นคำชมที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักเตะ'

การคว้าแชมป์ยูโรปาลีกส่งผลให้ แฟร้งค์เฟิร์ต จะกลับไปเล่นบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 1959-1960 ซึ่งพวกเขาไปไกลถึงรอบชิงชนะเลิศ ก่อจะปราชัยต่อ เรอัล มาดริด โคตรทีมยุคนั้นด้วยสกอร์ 3-7 

ทีมอินทรีแดง-ดำต้องใช้เวลานานกว่า 62 ปีเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้อีกครั้ง นับเป็นช่วงเวลายาวนานสุดของสโมสรที่ลงเล่นรายการ ยูโรเปี้ยน คัพ ต่อเนื่องมาจนถึงแชมเปี้ยนส์ลีกในปัจจุบัน

ความดีความชอบเกือบทั้งหมดจึงตกเป็นของ กลาสเนอร์ เทรนเนอร์วัย 47 ปี ที่สร้างชื่อจนเป็นที่รู้จักของวงการลูกหนังในการปลุกปั้น แอลเอเอสเค ลินซ์ สโมสรของออสเตรีย 

กลาสเนอร์ นำ แอลเอเอสเค ลินซ์ เลื่อนชั้นขึ้นสู่ ออสเตรีย บุนเดสลีกา ตั้งแต่ซีซั่น 2017-2018 ก่อนนำต้นสังกัดคว้าตั๋วเล่นฟุตบอลยุโรปตั้งแต่ฤดูกาลแรก ก่อนนำ แอลเอเอสเค ลินซ์ คว้ารองแชมป์ในฤดูกาล 2018-2019 เป็นรองเฉพาะ ซัลซ์บวร์ก ยักษ์ใหญ่ร่วมลีกเท่านั้น

จากผลงานดังกล่าวส่งผลให้ โวล์ฟสบวร์ก ดึง กลาสเนอร์ ไปรับตำแหน่งเทรนเนอร์ในช่วงซัมเมอร์ปีนั้น เขานำทีมหมาป่าจบฤดูกาลอันดับ 7 แต่พลาดท่าตกรอบเพลย์ออฟ ยูโรปาลีก เท่านั้น ก่อนนำต้นสังกัดคว้าตั๋วเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกซีซั่นต่อมา 

ทว่า กลาสเนอร์ ตัดสินใจอำลา โวล์ฟสบวร์ก ย้ายมารับตำแหน่งเทรนเนอร์ของ แฟร้งค์เฟิร์ต ด้วยการเซ็นสัญญา 3 ปี รับงานดูแลทีมอินทรีแดง-ดำต่อจาก อาดี้ ฮึทเทอร์ ที่ย้ายไปทำงานกับ มึนเช่นกลัดบัค

แม้ แฟร้งค์เฟิร์ต จะทำผลงานลุ่มๆดอนๆบนเวทีบุนเดสลีกาจนกระทั่งจบฤดูกาลที่ผ่านมาอันดับ 11 ก็ตาม แต่ทีมอินทรีแดง-ดำกลับแล่นฉิวบนเวทียุโรปจนกระทั่งคว้าแชมป์ยูโรปาลีกพร้อมตั๋วลุยแชมเปี้ยนส์ลีกซีซั่นหน้าสำเร็จ

'ผมคิดเกี่ยวกับแชมเปี้ยนส์ลีกซีซั่นหน้าหรือไม่? ไม่, ผมไม่เคยพูดถึงอนาคต เพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในเดือนหน้า ผมบอกนักเตะว่าเรามีการเดินทางที่ยอดเยี่ยม และการเดินทางนั้นไม่ควรจบในเซบีย่า แต่พรุ่งนี้เราจะกลับบ้านพร้อมโทรฟี่แชมป์' กลาสเนอร์ กล่าว

เซบาสเตียน โรเดอ มิดฟิลด์กัปตันทีมอินทรีแดง-ดำ กล่าวว่า 'ทีมนี้น่าทึ่งมาก เราทุกคนสมควรได้รับมัน ตอนนี้เราอยู่เหนือดวงจันทร์เพื่อฉลองกับแฟนๆในตอนนี้ มันเป็นเส้นทางที่ยากลำบากและมีความเสี่ยงมากมายสำหรับเรา การสนับสนุนในวันนี้ไม่น่าเชื่อเหมือนที่เคยเป็นมาตลอดฤดูกาล มันเป็นการเดินทางที่น่าเหลือเชื่อสำหรับพวกเราทุกคน เราสมควรได้รับมันจริงๆ'

เควิน ทรัปป์ นายทวารวัย 31 ปีเป็นอีกหนึ่งฮีโร่ของแฟนๆทีมอินทรีแดง-ดำเช่นกัน หลังช่วยเซฟลูกยิงของ ไรอัน เคนท์ ในช่วงท้ายของการต่อเวลาพิเศษ รวมถึงการเซฟจุดโทษของ อารอน แรมซี่ย์ จนกระทั่งต้นสังกัดดวลเป้าชนะคู่แข่งด้วยสกอร์ 5-4

'มันรู้สึกน่าเหลือเชื่อ ผมยังคงพยายามกลั้นหายใจ สำหรับเรา สำหรับแฟร้งค์เฟิร์ต สำหรับเยอรมนีทั้งหมด ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องวิเศษมาก การได้ตอบแทนแฟนๆของเราด้วยวิธีนี้เป็นสิ่งพิเศษ'

'เราเชื่อว่าเราทำได้ แต่คุณเห็นว่าเราต้องเจาะลึกเพื่อชัยชนะครั้งนี้ เราไม่เคยยอมแพ้ เราเชื่อมั่นเสมอ มันเป็นประสบการณ์ที่เข้มข้นสุดในชีวิตของเราสำหรับพวกเราหลายคน และเราต้องใช้เวลาในการฟื้นฟู'

'นี่ไม่ใช่ค่ำคืนของผม มันเป็นค่ำคืนของทุกคน มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับนักเตะเพียงคนเดียว มันขึ้นอยู่กับทั้งทีม ฤดูกาลในลีกนั้นน่าผิดหวังเพราะเราไม่ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลยุโรป ตอนนี้ความอิ่มเอมใจนั้นยิ่งใหญ่มากเมื่อเราตั้งตารอเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก มันยากที่จะหาคำอธิบาย'

มาร์ติน ฮินเทอเร็กเกอร์ กองหลังรองกัปตันทีมวัย 29 ปี กล่าวเสริมว่า 'เกมเป็นสิ่งที่มันเป็น การชนะจุดโทษเป็นจุดจบที่เหมาะสม มันบ้ามาก มันไม่น่าเชื่อที่เราทำสำเร็จในวันนี้ การเดินทางยังคงดำเนินต่อไปในแชมเปี้ยนส์ลีก แต่ชัยชนะครั้งนี้เป็นเรื่องที่น่าสนุกในตอนนี้'

อังส์การ์ คเนาฟ์ วิงแบ็กวัย 20 ปีที่ย้ายจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาเล่นกับ แฟร้งค์เฟิร์ต ด้วยสัญญายืมตัวในซีซั่นนี้กล่าวว่า 'ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะพูดอะไร ผมเกือบหัวใจวายระหว่างการยิงจุดโทษ ผมแค่มีความสุขกับสิ่งที่พวกเราทำ และตอนนี้เราแค่ต้องการฉลองกับแฟนๆ เรารู้ว่า (เควิน ทรัปป์) จะช่วยเซฟและ (แฟนๆ) ก็รู้เช่นเดียวกัน เราทำสำเร็จ มันน่าเหลือเชื่อ!'

ส่วน โดนาทา ฮอปเฟ่น ซีอีโอ ของ เดเอฟแอล ร่วมกล่าวชื่นชมความสำเร็จของ ไอน์ทรัคท์ แฟร้งค์เฟิร์ต เช่นเดียวกัน

'ช่างเป็นค่ำคืนที่วิเศษจริงๆ และเป็นความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ขอแสดงความยินดีกับ ไอน์ทรัคท์ แฟร้งค์เฟิร์ต ที่คว้าแชมป์ยูโรปาลีก!'

'ตลอดแคมเปญในยุโรปนี้ เทรนเนอร์ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ และทีมของเขาสร้างจินตนาการไม่เพียงแต่แฟนๆ ไอนทรัคท์ เท่านั้น แต่ยังมีผู้คนมากมายนอกเยอรมนี โดยได้รับแรงสนับสนุนจากแฟนๆอย่างโดดเด่น'

'ไอน์ทรัคท์ แฟร้งค์เฟิร์ต ได้ทำหน้าที่รับรองที่เร่าร้อนสำหรับบุนเดสลีกา ชัยชนะของพวกเขาในรอบชิงชนะเลิศเหนือ เรนเจอร์ส เอฟซี เป็นความสำเร็จที่ยอดเยี่ยม และมันเป็นช่วงเวลาพิเศษสำหรับฉันที่ได้รับเกียรติให้สัมผัสประสบการณ์ค่ำคืนแห่งอารมณ์ในเซบีย่า'

'ขอแสดงความยินดีกับทั้งสโมสร ทั้งเทรนเนอร์และสตาฟฟ์โค้ช, นักเตะ, ฝ่ายบริหาร และพนักงานทุกคน สำหรับการคว้าแชมป์ยุโรปเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1980!'