เอ็มบั๊ปเป้ ปฏิเสธย้ายไปร่วมทีม เรอัล มาดริด และเลือกต่อสัญญากับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ออกไปอีก 3 ปี
ทัพ "ราชันชุดขาว" พยายามในหลายครั้งเพื่อดึง เอ็มบั๊ปเป้ ไปร่วมทีมหลังให้ความสนใจเจ้าตัวตั้งแต่เด็กๆ รวมถึง 5 ปีที่แล้วก่อนย้ายออกจาก โมนาโก และล่าสุดในซัมเมอร์นี้
แต่สุดท้ายก็สมหวังเมื่อ เอ็มบั๊ปเป้ ตัดสินใจค้าแข้งในลีก เอิง ฝรั่งเศส ต่อไปจนถึงปี 2025 เป็นอย่างน้อย
เพราะอะไร เอ็มบั๊ปเป้ จึงกลับลำอยู่ เปแอสเช ต่อไปทั้งที่ เรอัล มาดริด คือความฝันตั้งแต่วัยเยาว์ของเจ้าตัว
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เจ้าตัวได้โอกาสเปิดโต๊ะแถลงข่าวถึงเหตุผลสำคัญที่ทำให้เลือกค้าแข้งใน ปาร์ค เดส์ แพร็งส์ ต่อไป
"มันคือการตัดสินใจที่ยากลำบาก และผมต้องการเวลาเพื่อตัดสินใจให้ถูกต้องอย่างดีที่สุด" เอ็มบั๊ปเป้ เปิดใจ
"ผมเป็นนักเตะ ผมเป็นส่วนหนึ่งของทีมนี้ และไม่คิดล้มเลิกบทบาทนี้ ผมไม่มีปัญหาในการรับมือกับความกดดัน เพราะผมอยู่กับความกดดันมาตั้งแต่อายุแค่ 14 ปี"
"ทุกคนรู้ดีว่าผมอยากย้ายไปเมื่อปีก่อน ผมเชื่อว่าตอนนั้นเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดทว่าตอนนี้บริบทมันแตกต่างออกไปแล้วทั้งในแง่มุมของกีฬาและเรื่องส่วนตัว นั่นทำให้ผมอยากอยู่ต่อ ผมไม่คิดว่าเรื่องราวของตัวเองจบลงไปแล้ว"
"ฝรั่งเศส คือประเทศที่ผมเติบโตขึ้นมา ผมอยู่ที่นี่มาตลอดและการย้ายออกไปคงไม่ถูกต้อง ผมรู้ว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องอยู่ในประเทศนี้ต่อไป ผมอาศัยอยู่ที่นี่มาตลอด ผมโตขึ้นมากับที่นี่ การย้ายออกไปจึงเป็นเรื่องที่ลำบากใจ"
"ผมตัดสินใจเมื่อสัปดาห์ที่แล้วโดยที่ไม่ได้บอกเพื่อนร่วมทีมของผมคนใดเลยเพราะสโมสรไม่ต้องการอย่างนั้น เราเก็บเอาไว้เป็นความลับเพื่อเซอร์ไพรส์แม้ว่าหลายคนอาจไม่เซอร์ไพรส์ก็ตาม"
เอ็มบั๊ปเป้ เล่าถึงการติดต่อกับ เรอัล มาดริด โดยเฉพาะกับท่านประธาน ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ที่มุ่งมั่นอย่างมากในการดึง เอ็มบั๊ปเป้ ไปเล่นที่ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ตามรอยซูเปอร์สตาร์หลายต่อหลายคน
"ผมอยากขอบคุณ เรอัล และ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ผมเข้าใจความผิดหวังของพวกเขาดี ผม และ เปเรซ มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกัน"
"ผมเข้าใจในเกียรติยศและความพิเศษกับการเป็นที่ต้องการของสโมสรอย่าง เรอัล มารดริด ผมหวังว่าพวกเขาจะเข้าใจข้อเท็จจริงที่ผมเลือกอยู่ในประเทศของตัวเองต่อไป"
"ความจริงคือผมคือคนฝรั่งเศส และในฐานะคนฝรั่งเศส ผมอยากอยู่ที่นี่ ได้พาฝรั่งเศสก้าวไปสู่ระดับสูงสุด และสโมสรรวมถึงลีกนี้ก้าวไปข้างหน้า"
"สำหรับเสียงวิจารณ์ในมาดริด ผมยอมรับนะและหวังว่าพวกเขาจะเข้าใจผม ผมรู้ว่าพวกเขาผิดหวัง ผมสวมเสื้อตัวนี้มาตั้งแต่อายุ 14 ปี ผมอยากขอบคุณพวกเขา"
"ผมเคารพ เรอัล มาดริด และ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ พวกเขาทำทุกอย่างเพื่อผมและต้องการให้ผมมีความสุข ผมจึงโทรไปหาเขาเป็นการส่วนตัว เรามีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกัน"
การปฏิเสธสโมสรระดับ เรอัล มาดริด ในครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของ เอ็มบั๊ปเป้ อย่างที่ทุกคนทราบ และในอนาคต หัวหอกความเร็วสูงก็ไม่ปิดโอกาสที่จะได้สวมชุดราชันชุดขาวตามฝันสักครั้ง
"ฝันกับ เรอัล มาดริด จบแล้วนะเหรอ? มันไม่เคยจบลง ไม่เลย คุณไม่มีวันรู้หรอกว่าในอนาคตมันจะเกิดอะไรขึ้น"
"สิ่งเดียวที่เกิดขึ้นในตอนนี้ก็คือผมต่อสัญญาไปอีก 3 ปี ผมต้องการโฟกัสกับปัจจุบันและต้องการเดินหน้ากับสโมสรต่อไป"
นั่นคือคำบอกเล่าในมุมของ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ที่ไม่ได้พูดถึงอีกหนึ่งปัจจัยที่หลายคนเชื่อว่าเป็นแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้เลือกค้าแข้งกับ เปแอสเช ต่อไป นั่นคือเรื่อง "เงิน"
กีเยม บาลาเก้ นักข่าวดังสายสเปนรายงานว่า สโมสรมหาเศรษฐีแห่งลีก เอิง จ่ายเงินกินเปล่าให้หัวหอกทีมชาติฝรั่งเศสมากถึง 150 ล้านยูโรสำหรับการตัดสินใจต่อสัญญาฉบับใหม่
นอกจากนี้ก็อัดค่าเหนื่อยมากถึงสัปดาห์ละ 1 ล้านยูโร แซงหน้าซูเปอร์สตาร์รุ่นพี่อย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ที่ได้สัปดาห์ละ 960,000 ยูโร รวมถึง เนย์มาร์ ที่ได้สัปดาห์ละ 606,000 ล้านยูโร
เท่านั้นไม่พอ สื่อทางสเปนที่เป็นเดือดเป็นร้อนไม่น้อยกับการที่ เรอัล มาดริด พลาดได้ตั๋ว เอ็มบั๊ปเป้ ก็รายงานว่า ปารีสฯ ยังมอบสิทธิพิเศษเอาใจ เอ็มบั๊ปเป้ เต็มที่ไม่ว่าจะเป็นการให้อำนาจมีส่วนในการเลือกนักเตะใหม่เข้าสู่ทีม รวมถึงการปลดหรือเลือกเฮดโค้ชคนใหม่
อำนาจและสิทธิ์พิเศษเพิ่มเติมที่แม้แต่กุนซือบางคนก็อาจทำไม่ได้ขนาดนี้ เป็นจริงหรือไม่ก็ยากจะพิสูจน์ได้เพราะเป็นการรายงานของสื่อแดนกระทิงอย่างเดียว แต่ในเรื่องตัวเลขเงินทองนั้นไม่น่าจะต่างไปจากที่สื่อรายงานกัน
นอกจากนี้ เอ็มบั๊ปเป้ ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่าไม่ใช่เพียง เรอัล มาดริด ที่เทียวไล้ เทียวขื่อตามจีบอยู่นาน แต่ ลิเวอร์พูง ยอดทีมจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็พยายามดึงตัวไปร่วมทีมเช่นกัน
"ไม่ได้มีเพียง เรอัล มาดริด กับ เปแอสเช หรอกนะ ผมได้คุยเพื่อย้ายไปร่วมงาน เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ ลิเวอร์พูล ด้วย เราเคยคุยกันนิดหน่อย แต่ไม่มากนะ แค่นิดหน่อยเท่านั้น"
"ผมเคยคุยกับลิเวอร์พูล เพราะเป็นสโมสรโปรดของคุณแม่ผม ท่านชื่นชอบ ลิเวอร์พูล ผมก็ไม่รู้นะว่าทำไม คุณต้องไปถามเธอเอง"
"ลิเวอร์พูล เป็นสโมสรที่ดี เป็นสโมสรใหญ่ เราเคยคุยกับพวกเขาตั้งแต่เมื่อ 5 ปีก่อนตอนที่ผมอยู่ โมนาโก แล้ว"
เป็นอันว่ามหากาพย์เกี่ยวกับอนาคตของ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ที่เคยยืดเยื้อได้บทสรุปหักมุมจนเอวเคล็ด
สิ่งที่น่าสนใจต่อจากนี้คือ เรอัล มาดริด จะหวนกลับมาไล่ล่า เอ็มบั๊ปเป้ อีกครั้งหรือไม่ในอนาคตหลังถูกปฏิเสธหลายครั้งโดยเฉพาะครั้งล่าสุดที่พวกเขาเหมือนถูกตบหน้าอย่างแรง
เป็นสิ่งที่น่าติดตามไม่แพ้ชีวิตค้าแข้งของ เอ็มบั๊ปเป้ ว่าจะสามารถนำพา เปแอสเช ไปสู่ระดับสูงสุดเป็นแชมป์ยุโรปได้จริงๆ หรือสุดท้ายแล้วก็หนีไม่พ้นคำที่แฟนบอลหลายคนปรามาสเอาไว้ว่าเพราะ "เงิน" ล้วนๆ
