เอดิน แทร์ซิช เคยนำ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ คว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล ซีซั่น 2020-2021 ในฐานะเทรนเนอร์รักษาการ แต่ตอนนี้โค้ชวัย 39 ปี ก้าวขึ้นมาเป็นนายใหญ่ทีมเสือเหลืองแบบเต็มตัวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา 

ดอร์ทมุนด์ ตัดสินใจแยกทางกับ มาร์โก โรเซ่อ หลังความล้มเหลวในฤดูกาลที่ผ่านมา แม้ว่าจะจบซีซั่นฐานะรองแชมป์บุุนเดสลีกาก็ตาม แต่ทีมเสือเหลืองเข้าป้ายอันดับ 3 ในแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีก หลุดมาเล่นรายการยูโรปาลีก ทว่าเส้นทางของพวกเขาสิ้นสุดลงเพียงรอบ 16 ทีมหลังการปราชัยต่อ เรนเจอร์ส ด้วยสกอร์รวม 4-6 

ก่อน เบเฟาเบ จะเลือกคนคุ้นเคยอย่าง แทร์ซิช กลับมาทำงานฐานะเทรนเนอร์อีกครั้ง

แทร์ซิช เริ่มทำงานกับ ดอร์ทมุนด์ ในช่วงปี 2010-2013 ในฐานะสเกาต์และผู้ช่วยโค้ชในอะคาเดมี่ ก่อนจะย้ายไปรับตำแหน่งผู้ช่วยโค้ชของ สลาเวน บิลิช ที่ เบซิคตัส ในช่วงปี 2013-2015 เขายังตาม บิลิช มาทำงานที่ เวสต์แฮม เมื่อปี 2015 ก่อนจะออกจากสโมสรหลังกุนซือชาวโครแอตถูกปลดออกจากตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายนปี 2017

จากนั้น แทร์ซิช กลับมาทำงานกับ ดอร์ทมุนด์ อีกครั้งในปี 2018 ในฐานะผู้ช่วยของ ลูเซียง ฟาฟร์ ก่อนก้าวขึ้นมากุมบังเหียนชั่วคราวในเดือนธันวาคมปี 2020 หลังทีมเสือเหลืองปลด ฟาฟร์ ออกจากตำแหน่ง ระหว่างนั้น แทร์ซิช คุมทีมลงสนาม 32 เกม ชนะ 20 เสมอ 4 แพ้ 8 ก่อนนำ เดเฟาเบ จบฤดูกาลนั้นด้วยการคว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล

อย่างไรก็ตาม ดอร์ทมุนด์ เลือก โรเซ่อ จาก มึนเช่นกลัดบัค มาเป็นเทรนเนอร์คนใหม่ในช่วงซัมเมอร์ปี 2021 พวกเขาจึงดัน แทร์ซิช ขึ้นมาทำงานฐานะผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค แต่ท้ายที่สุดทีมเสือเหลืองตัดสินใจผลักดัน แทร์ซิช ขึ้นมากุมบังเหียนเต็มตัวอีกครั้งหลังการแยกทางกับเทรนเนอร์วัย 45 ปี 

แทร์ซิช ซึ่งเคยนำทีมเสือเหลืองคว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล ก่อนหน้านี้ เขากลับมาพร้อมความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม โดยมี 5 เรื่องราวที่น่ารู้เกี่ยวกับนายใหญ่คนใหม่ของ เบเฟาเบ 

1.เขาเป็นนักศึกษาเกม

แทร์ซิช เกิดในปี 1982 ของเยอรมันตะวันตกจากครอบครอบผู้อพยพชาวยูโกสลาเวีย คุณพ่อมีเชื้อสายบอสเนียน คุณแม่มีเชื้อสายโครแอต และเขาถือสัญชาติโครเอเชีย 

เขาเติบโตในเมือง เมนเด้น ซึ่งใช้เวลาขับรถราว 30 นาทีจากบ้านถึง ดอร์ทมุนด์ เคยเล่นอาชีพฐานะกองหน้าในระดับดิวิชั่น 4 ของเยอรมนี โดยจบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาจาก รูห์ร ยูนิเวอร์ ซิตี้ ในเมืองโบคุ่ม ระหว่างนั้นเขาได้พบกับ โคร่า ภรรยาของเขา และ ฮันเนส โวล์ฟ เฮดโค้ชทีมชาติเยอรมนีชุดยู-19 คนปัจจุบัน 

ก่อน แทร์ซิช กับ โวล์ฟ จะมาทำงานด้วยกันที่ ดอร์ทมุนด์ หลังจากนั้น เขาใช้เวลาศึกษาและเรียนรู้รายละเอียดเกี่ยวกับการทำงานฐานะโค้ชตั้งแต่อายุยังน้อย 

'ผมเรียนเพื่อใบอนุญาต ยูฟ่า เอ ไลเซนซ์ ของผม และได้พบกับหัวหน้าสเกาต์ของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และอีก 2-3 เดือนถัดมา เขาก็โทรหาผมและเสนองานให้ผม' แทร์ซิช เผย 'ในปี 2010 ผมหยุดเล่นและเริ่มเป็นโค้ชกับ ดอร์ทมุนด์'

2.ทำงานกับ เจอร์เก้น คล็อปป์

แฟนๆ ดอร์ทมุนด์ ไม่จำเป็นต้องทบทวนความจำว่าปี 2010 เป็นช่วงเวลาดีๆของสโมสรภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่เข้ามาทำงานฐานะเทรนเนอร์ตั้งแต่ปี 2008 เขาค่อยๆสร้างทีมที่สามารถท้าทายเกียรติยศสูงสุดจนกระทั่งนำ เดเฟาเบ คว้าแชมป์บุนเดสลีกาสองสมัยติดในซีซั่น 2010-2011 และ 2011-2012 รวมถึงการคว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล ในฤดูกาล 2011-2012 และ เดเอฟแอล ซูเปอร์ คัพ อีกสองครั้งในปี 2013 กับ 2014

แทร์ซิช เริ่มบทบาทของเขาในฐานะสเกาต์พร้อมด้วยการช่วยเหลือของเพื่อนอย่าง โวล์ฟ ซึ่งย้ายมาทำงานฐานะเทรนเนอร์ของ สตุ๊ตการ์ท, ฮัมบูร์ก และ เกงค์ ในเวลาต่อมา หลังทำงานฐานะผู้ช่วยโค้ชทีมชุดยู-17, ยู-19 และ ยู-23 ของ เบเฟาเบ 

ขณะที่เขากำลังเรียนรู้การเทรดของเขาและระบุตัวผู้เล่นที่สามารถพัฒนาสู่ทีมชุดใหญ่ได้ แทร์ซิช ยังคอยเฝ้าดูการทำงานของ คล็อปป์ ร่วมกับ มาริโอ เกิตเซ่, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ สำหรับการผลักดัน เบเฟาเบ ก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับแนวหน้าของเยอรมนีและยุโรปอย่างไร 

3.ประสบการณ์บนเวทีพรีเมียร์ลีก

ดอร์ทมุนด์ ตั้ง แทร์ซิช เป็นโค้ชทีมชุดยู-16 ปี ในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกของหน้าร้อนปี 2013 ก่อนที่เขาจะแจ้งกับสโมสรว่าได้รับข้อเสนอที่ยากเกินกว่าจะปฏิเสธ หลังถูก บิลิช ทาบทามไปทำงานร่วมกันที่ เบซิคตัส

มันเกิดขึ้นเพราะมีโอกาสพบกันครั้งก่อน และกับคุณแม่ที่มาจาก โครเอเชีย ทำให้ แทร์ซิช รู้สึกว่าเหมือนอยู่บ้านเมื่อเขากลับมาถึงประเทศในระหว่างการทำภารกิจแมวมองของ ดอร์ทมุนด์ ระหว่างทานอาหารเย็น ตัวแทนที่พบกับเขาที่นั่นบอกว่าเขาจะแนะนำให้รู้จักกับน้องชายของเขา ซึ่งกลายเป็น สลาเวน บิลิช กุนซือทีมชาติโครเอเชียในขณะนั้น

'ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้จนกระทั่งได้อยู่ที่เกมใน สวีเดน และ 3 วันก่อนการแข่งขันศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปในปี 2012 และมีสายโทรศัพท์มาถึงผม'

'ผมไม่ได้รับ จากนั้นก็มีอีกสายหนึ่งโทรเข้ามา และไม่ได้รับ จากนั้นผมก็ได้รับข้อความ 'โปรดโทรกลับหาผมด้วย ขอแสดงความนับถือ สลาเวน บิลิช'

'ดังนั้นผมคิดว่าผมควรโทรกลับจะดีกว่า! ผมโทรกลับไป และนั่นคือเรื่องราวที่เราได้พบกันในปี 2012'

เมื่ออดีตกองหลัง คาร์ลสรูห์, เอฟเวอร์ตัน และ เวสต์แฮม ได้รับการแต่งตั้งเป็นเทรนเนอร์คนใหม่ของ เบซิคตัส ในปี 2013 บิลิช จึงเชื้อเชิญ แทร์ซิช ไปทำงานร่วมกับเขา

สองปีถัดมาทั้งคู่ยังทำงานร่วมกับที่ลอนดอนตอนที่ บิลิช ย้ายมารับตำแหน่งกุนซือของ เวสต์แฮม พวกเขานำทีมขุนค้อยคว้าอันดับ 7 กับ 11 ของพรีเมียร์ลีกในช่วงเวลาที่พวกเขาอยู่ที่นั่นในช่วงเดือนสิงหาคม 2015 จนถึงเดือนพฤศจิกายน 2017

'สำหรับคนที่อายุเท่าผมและมีภูมิหลังแบบผม มันไม่น่าเชื่อว่าจะมีประสบการณ์เหล่านี้' แทร์ซิช กล่าว 'เวลาที่ผมใช้ใน ตุรกี และ อังกฤษ นั้นมีค่ามากสำหรับผม'

4.ความสัมพันธ์กับนักเตะ

แทร์ซิช เข้ามารับงานคุมทีมชั่วคราวแทน ลูเซียง ฟาฟร์ ในช่วงกลางเดือนธันวาคมปี 2020 และช่วยฟื้นฟูทีมเสือเหลืองที่พยายามดิ้นรนเพื่อจุดประกายให้มีชีวิตอีกครั้ง ภายใต้การแนะนำของเขามีส่วนช่วย เบเฟาเบ คว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล และผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีกตามเป้าหมาย

ทั้งหมดนี้มาจากรูปแบบการบริหารจัดการของ แทร์ซิช ซึ่งเห็นว่าเขาได้รับสิ่งดีที่สุดจาก เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์, เจดอน ซานโช่ และแม้แต่กัปตันทีม มาร์โค รอยส์ รวมถึงความสามัคคีของนักเตะในห้องแต่งตัวเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักสำหรับการเปลี่ยนแปลงของพวกเขา

'เอดิน แทร์ซิช ทำได้ดีมาก เขารับช่วงดูแลทีมในเดือนธันวาคม ตอนที่มันตายไปครึ่งหนึ่ง และเขาทำให้มันมีชีวิต' ฮันส์-โยอาคิม วัตซ์เกอ ซีอีโอ ดอร์ทมุนด์ กล่าวถึงเทรนเนอร์วัย 39 ปี 

ส่วน จีโอ เรย์น่า กล่าวยกย่องการทำงานของ แทร์ซิช ว่า 'ปล่อยให้ผมเป็นอิสระในฐานะตัวรุก เราเล่นกันด้วยความเอาจริงเอาจัง พร้อมพลังใหม่และชีวิตใหม่'

5.หัวใจเต้นเพื่อดอร์ทมุนด์ 

เวลาของ ลูเซียง ฟาฟร์ สิ้นสุดลงหลังการปราชัยต่อ สตุ๊ตการ์ท 1-5 ส่งผลให้ ดอร์ทมุนด์ อยู่อันดับ 5 หลังผ่านเกมที่ 11 ของซีซั่น 2020-2021 ด้วยเกมที่เข้มข้นและรวดเร็วในฤดูกาลหลังการล็อกดาวน์ของโคโรน่าไวรัสในช่วงต้นปี แทร์ซิช ถูกขอให้ทำงานฐานะโค้ชรักษาการไปจนกระทั่งจบฤดูกาลดังกล่าว

มันแสดงถึงโอกาสที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งสำหรับโค้ชหนุ่มที่มีอายุเพียง 38 ปี ซึ่งชื่นชอบฟุตบอลที่เล่นเกมรุกด้วยความดุดัน นอกจากนี้ยังเป็นประสบการณ์ที่เหนือจริงสำหรับคนที่เป็นส่วนหนึ่งของสโมสร

'มันเป็นสถานการณ์ที่ไม่น่าเชื่อ' แทร์ซิช กล่าวตอนที่ก้าวขึ้นมาเป็นโค้ชรักษาการในเดือนธันวาคมปี 2020 'คนส่วนใหญ่รู้ว่าผมมาจากภูมิภาคนี้ ผมเกิดที่ห่างจากที่นี่ 30 กิโลเมตร และผมอยู่ในสนามครั้งแรกตอนอายุ 9 ขวบ หลังจากนั้นมันชัดเจนว่าหัวใจของผมเต้นเพื่อทีมใด'

'แต่ถึงอย่างนั้น ผมไม่เคยกล้าฝันว่าจะพบตัวเองอยู่ในตำแหน่งแบบนี้ที่สโมสร' 

หลังจาก มาร์โก โรเซ่อ นั่งเก้าอี้เทรนเนอร์ เบเฟาโบ เพียงฤดูกาลเดียว แทร์ซิช ก็กลับมาอยู่ในดินแดนแห่งความฝันอีกครั้ง และใครจะรู้ว่าเทรนเนอร์วัย 39 ปีนำนำ เดเฟาเบ ประสบความสำเร็จในซีซั่น 2022-2023 อย่างที่สโมสรคาดหวังหรือไม่