:::     :::

'ราชาแห่งยุโรป' ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย

วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม 2565 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
965
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ติโบต์ กูร์กตัวส์ โชว์ฟอร์มสุดยอด และประตูจาก วินิซิอุส จูเนียร์ ก็เพียงพอที่จะทำให้ ราชันชุดขาว เอาชนะ ลิเวอร์พูล ในรอบชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ลีก

จากความโกลาหลนอกสนามสต๊าด เดอ ฟร้องซ์ ทั้งแก๊สน้ำตา, ประตูที่ถูกปิดแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย และฝูนชนถือตั๋วยาวหลายไมล์ที่ยังเข้าสนามไม่ได้

แต่ข้างในยังคงเป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างที่มันควรจะเป็น

เรอัล มาดริด เป็นรอง ลิเวอร์พูล ทุกกระบวนท่าในนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อคืนวันเสาร์ อย่างน้อยก็ชัดเจนตรงสถิติ แต่พวกเขากลับทำประตูได้ และจากนั้นมันก็คือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่

เช่นเดียวกับช่วงต่อเวลาพิเศษของเกมที่พวกเขาพบกับ เชลซี และ แมนฯ ซิตี้ เมื่อ มาดริด ขึ้นนำ พวกเขาก็จะนำเหมือนเดิมไปจนจบ หงส์แดง อาจคึกคักตามสไตล์ของพวกเขา แต่ กูร์กตัวส์ ก็ยืนสง่างามอยู่หน้าประตูตัวเองอย่างแข็งแกร่ง

ราชาแห่งยุโรปสร้างสถิติใหม่ถ้วยการคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ เป็นสมัยที่ 14 ในกรุงปารีส มันมากกว่าทีมตามมาอันดับสองอย่าง เอซี มิลาน ที่ทำได้ 7 ครั้งเป็นสองเท่า ขณะที่ คาร์โล อันเชล็อตติ ก็คุมทีมคว้าแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 4 มากกว่าผู้จัดการทีมคนใดในโลก

เรอัล มาดริด คว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ถึง 5 ครั้งจาก 9 ฤดูกาล ซึ่งเป็นผลงานที่ไม่มีใครเทียบได้ นอกจากพวกเขาเองที่เคยกวาดแชมป์ตลอด 5 ครั้งแรกของรายการนี้ตั้งแต่ปี 1956 ถึง 1960

ราชันชุดขาว ครองความยิ่งใหญ่ในยุโรปมาตั้งแต่เริ่มแรกแล้ว และแม้กระทั่งตอนนี้ก็ได้ เมื่อนี่แทบจะเป็นปีที่ดีที่สุดของทีม ไม่มีใครหยุดพวกเขาได้

ปาฏิหาริย์ที่ทำให้ มาดริด มาถึงรอบชิงชนะเลิศ มันเริ่มต้น เมื่อ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ผู้รักษาประตู ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ไปพลาดท่าให้กับ คาริม เบนเซม่า ในกรอบ 6 หลาของตัวเอง เมื่อเดือนมีนาคม

แชมป์ลีก เอิง มีสกอร์รวมนำอยู่ 2-0 โดยเหลือไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แต่เมื่อ ดอนนารุมม่า ทำให้ มาดริด นับหนึ่งได้ จากนั้นก็คือประวัติศาสตร์ของพวกเขาที่ต่อไปยังลอนดอนถึงเมืองแมนเชสเตอร์ แล้วก็ปิดจ็อบที่ปารีส สุดท้ายก็กลับไปยังเมืองหลวงของสเปน และพลาซ่า เด ซิเบเลส ที่ซึ่งทีมจะไปฉลองแชมป์กับแฟนบอลหลายหมื่นคน

นอกจากนี้เหตุการณ์ของ ดอนนารุมม่า แล้ว มาดริด ก็ถือว่ามีปาฏิหาริย์ในเกมกับ เชลซี ด้วยเช่นกัน โดยที่พวกเขามีสกอร์ตามหลัง 0-3 ในนัดสอง พวกเขาต้องการทำเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ และแอสซิสต์ของ ลูก้า โมดริช ถึง โรดรีโก้ โกเอส ก็ทำให้เกมดำเนินไปถึงช่วงต่อเวลา

จากนั้นก็อีกนัดกับ แมนฯ ซิตี้ สองประตูหลังนาทีที่ 90 ของ โรดรีโก้ ทำให้เกมต้องยืดเยื้อไปถึงช่วงต่อเวลาอีกครั้ง

แต่ในนัดชิงชนะเลิศ พวกเขาไม่ต้องการ โรดรีโก้ หรือปาฏิหาริย์อื่นใด เว้นแต่ว่านั่นคือวิธีที่คุณต้องอธิบายถึงผลงานของ กูร์กตัวส์

กูร์กตัวส์ กลายเป็นคนที่มีบทบาทอย่างมากในทุกครั้งที่ เรอัล มาดริด ต้องการเขาที่กรุงปารีส โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหยุดความพยายามของ โมฮาดเหม็ด ซาลาห์ ในช่วงแรก รวมถึงการเซฟลูกยิงของ ซาดิโอ มาเน่ ด้วย

การหยุดลูกยิงนั้นของ มาเน่ ด้วยการพุ่งปัดบอลด้วยมือขวาข้างเดียวไปชนเสาเรียกได้ว่าเป็นการเซฟเพื่อแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีกเลยก็ว่าได้ ขณะที่ กูร์กตัวส์ ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ

มาดริด คิดว่าพวกเขาจะขึ้นนำก่อนตั้งแต่ช่วงก่อนหมดครึ่งแรก แต่ประตูนั้นก็กลายเป็นที่ถกเถียงถึงประเด็นการล้ำหน้า ซึ่งขึ้นอยู่กับว่า ฟาบินโญ่ ตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจที่จะเปลี่ยนทางบอลให้ไปเข้าเส้นทางของ เบนเซม่า

อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 59 มาดริด ก็มานำได้จริงๆ จาก วินิซิอุส ซึ่งไม่มีพลาดแน่ในระยะนั้นจากการผ่านบอลอันยอดเยี่ยมโดย เฟเด วัลเวร์เด้

หลังจากนั้นก็คือ กูร์กตัวส์ โชว์ โดยโอกาสที่ดีที่สุดของ ลิเวอร์พูล มาจาก ซาลาห์ แต่ผู้รักษาประตูรายนี้ก็ใช้แขนของเขาซูเปอร์เซฟความพยายามตีเสมอของดาวเตะอียิปต์

กูร์กตัวส์ ทำให้แน่ใจว่าหนนี้จะไม่ใช่การล้างแค้นสำหรับ ซาลาห์ อย่างแน่นอน

ผู้รักษาประตูทีมชาติเบลเยียมมีฤดูกาลที่ดี และในที่สุดเขาก็เติมเต็มฝันของตัวเองได้สำเร็จ หลังเคยผิดหวังมาแล้วในนัดชิงกับ แอต. มาดริด

กูร์กตัวส์ เซฟไป 9 ครั้ง สร้างสถิติใหม่สำหรับนัดชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ลีก นับตั้งแต่ที่มีการบันทึกสถิติ และด้วย 59 เซฟที่เขาทำไปนั้นเป็นตัวเลขที่มากกว่ามือกาวคนอื่นๆ ภายในซีซั่นเดียว

"ในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (ศุกร์) ผมพูดออกไปว่าตอนที่ มาดริด ลงเล่นรอบชิงชนะเลิศพวกเขาชนะ ผมอยู่ในฝั่งที่มีประวัติศาสตร์อันน่าพึงพอใจ"

"ผมเห็นข้อความทาง ทวิตเตอร์ ที่กล่าวถึงเรื่องราวของผมว่าวันนี้ผมจะถูกทำให้ต่ำต้อย แต่มันเป็นทิศทางตรงกันข้าม"

"วันนี้ผมต้องการชนะรอบชิงชนะเลิศเพื่ออาชีพของตนเอง สำหรับการทำงานหนักทุกๆ อย่างที่ใส่ลงไปพร้อมความเคารพในชื่อของผมซึ่งผมไม่ได้คิดว่าตนเองได้รับความเคารพมากพอ โดยเฉพาะในอังกฤษ ผมเห็นเสียงวิจารณ์มากมายแม้ว่าหลังจากฤดูกาลที่ยอดเยี่ยม"

ถ้าคุณเอาชนะพวกเขาไม่ได้ คุณก็ย้ายมาอยู่กับพวกเขาซะ กูร์กตัวส์ คงจะคิดแบบนี้หลังความพ่ายแพ้ในนัดชิงปี 2014 ระหว่าง แอต. มาดริด กับ เรอัล มาดริด

และมันก็ชัดเจนว่านั่นคือความคิดที่ถูกต้อง


พาสต้า


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด