Reds-volution เจาะขุมกำลังเชิงลึกหงส์แดงซีซั่นหน้า
หลังจากช้อปปิ้งนักเตะใหม่ไป 3 คน ได้แก่ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่, ดาร์วิน นูนเญซ และ คัลวิน แรมซี่ย์ สื่อต่างประเทศหลายสำนักล้วนคาดเดากันว่า ความเปลี่ยนแปลงในรั้วแอนฟิลด์ครั้งนี้มีเรื่ิองน่าจับตามองมาก ๆ ก็คือเรื่องของระบบการเล่น
เจอร์เก้น คล็อปป์ ถนัดกับการใช้ระบบ 4-2-3-1 ในตอนที่คุม ดอร์ทมุนด์ แต่มาใช้ 4-3-3 ตอนคุม ลิเวอร์พูล เพราะเขาไม่ได้มีกองหน้าตัวเป้าในสไตล์ที่เหมาะ จึงเลือกใช้ 4-3-3 มาตลอด ทว่า การมาถึงของ ดาร์วิน นูนเญซ อาจเป็นจุดที่ทำให้ คล็อปป์ ปัดฝุ่นระบบการเล่นที่เขาถนัดเอามาใช้อีกครั้งที่ ลิเวอร์พูล
จากขุมกำลังที่มีอยู่ ลิเวอร์พูล ได้ตัวรุกมาใหม่ 2 คน แต่ก็จะเสียไปอีก 2 คนเป็นที่แน่นอนแล้วนั่นก็คือ ดิว็อค โอริกี้ กับ ซาดิโอ มาเน่ นั่นจึงอาจเป็นคำตอบที่ว่าทำไมตลาดรอบนี้ ลิเวอร์พูล ถึงรีบจับจ่ายใช้สอยไวกว่าปกติ นั่นก็เพราะว่า คล็อปป์ ต้องการปรับจูนทีมให้ลงตัวโดยไว เพราะการเสียนักเตะคนสำคัญไป 2 คน มีผลต่อความสมดุลทีมค่อนข้างเยอะ
และอีกคนที่มีแววว่าจะย้ายออกก็คือ ทาคุมิ มินามิโนะ ตัวรุกสารพัดประโยชน์ชาวญี่ปุ่น ที่เป็นตัวเลือกลำดับท้าย ๆ ในแนวรุกมาโดยตลอด
คัลวิน แรมซี่ย์ แบ็คขวาวัย 18 ปีจากโคฟเบย์ หมู่บ้านบนชายฝั่งตะวันออกของสกอตแลนด์ ที่อยู่ทางตอนใต้ของ อเบอร์ดีน การมาถึงของดาวรุ่งคนนี้ชัดเจนว่าจะเข้ามาเป็นสำรองของ เทรนต์ 100% แต่จะอยู่ในฐ่นะตัวเลือกลำดับที่สองของทีมหรือไม่นั้น ต้องแย่งตำแหน่งกับ เนโก วิลเลี่ยมส์ อีกด่านนึง
ในขณะที่การมาถึงของ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ นั้นน่าสนใจ กองกลางตัวรุกวัย 19 ปีคนนี้จะเข้ามาเล่นในตำแหน่งกลางรุก เพราะนี่คือตำแหน่งธรรมชาติของเขา ซึ่งถ้าหาก คล็อปป์ ใช้ระบบ 4-2-3-1 จริง มีโอกาสสูงมากที่เราจะได้เห็นดาวรุ่งคนนี้ยืนในตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์คอยทำเกมอยู่ด้านหลังกองหน้าตัวเป้า
แบ็คโฟร์ไม่น่ามีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนแดนกลาง 2 คนน่าจะเป็น ติอาโก้ จับคู่กับ ฟาบินโญ่ ไม่ก็ เฮนโด้ คนใดคนหนึ่ง
มาว่ากันถึงตัวเลข 3 ในระบบ 4-2-3-1 กันดีกว่าครับ
ดาร์วิน นูเญซ นั้นสามารถเล่นปีกซ้ายได้ก็จริง แต่เชื่อได้เลยว่า คล็อปป์ เซ็นเขาเข้ามาเพื่อเล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าเสียมากกว่า การเล่นปีกซ้ายได้เป็นแค่ออปชั่นเสริมเท่านั้น
ปีกซ้ายตัวจริงของทีมคงหนีไม่พ้น หลุยส์ ดิอาซ นักเตะที่คสร้างความประทับใจได้อย่างไม่น่าเชื่อหลังจากย้ายมาจาก ปอร์โต้ ในเดือนมกราคม เขาเบียด มาเน่ จนดาวเตะเซเนกัลต้องขยับไปเล่นกองหน้าตัวกลาง ซึ่งในซีซั่นที่ผ่านมา มาเน่ ถูกดันไปเล่นกองหน้าตัวกลางถึง 18 นัด ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นเพราะโดน หลุยส์ ดิอาซ แย่งตำแหน่งปีกซ้ายไปนี่แหละครับ
หาก มินามิโนะ อยู่สู้ต่อ ดาวเตะชาวญี่ปุ่นจะเป็นตัวสำรองคนแรกในตำแหน่งปีกซ้าย ทาคุ เป็นนักเรียนต้นแบบในโรงเรียนแห่งความเก่งกาจของ คล็อปป์ แม้จะเป็นสำรอง แต่ ทาคุ ทำผลงานได้ดีเยี่ยมทุกครั้งเมื่อได้รับโอกาส เขาลงเล่นได้หลายตำแหน่ง ปีที่แล้วเล่นปีกซ้าย, ปีกขวา และเล่นกองกลางก็ได้ ขอแค่โค้ชบอกมาก็พอ
ดิโอโก้ โชต้า ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในปีกซ้าย แต่คาดกันว่าดาวเตะโปรตุกีสอาจเป็นตัวสำรองของ นูนเญซ ในตำแหน่งหน้าเป้าเสียมากกว่า และอีกออปชั่นที่น่าสนใจคือเขาอาจเล่นปีกขวาตัวจริง หาก ซาล่าห์ ปุบปับย้ายทีมแบบเซอร์ไพรส์ในตลาดรอบนี้
ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ จะยืนในตำแหน่งกลางรุก ซึ่งอาจเบียดแย่งตำแหน่งนี้กับ บ๊อบบี้ ฟิร์มิโน่ รวมถึง ฮาร์วีาย์ เอลเลียตต์ ที่ก็เล่นได้เช่นกัน
ปีกขวาเป็นของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แน่นอนหากยังไม่ย้ายทีม โดยตัวสำรองของเขาอาจเป็น ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ที่เล่นตำแหน่งนี้สมัยอยู่ แบล็คเบิร์น รวมถึง เคเ กอร์ดอน ดาวรุ่งฝีเท้าดีอีกคนที่ซีซั่นก่อนทำผลงานในบอลถ้วยได้โดดเด่นเช่นกัน
เจอร์เก้น คล็อปป์ มีตัวเลือกมากมายให้ใช้งาน โดยผู้เล่นในมือทั้งหมดอาจจะถูกเปลี่ยนเข้าและออกตามแท็กติก อาการบาดเจ็บ และคู่แข่งที่เจอ
ลิเวอร์พูล อาจมีอาวุธหลากหลายมากขึ้น ทั้งระบบ 4-3-3 ที่คุันเคยและเชื่อว่า 4-2-3-1 จะถูกนำมาใช้เป็นอีกออปชั่นในซีซั่นหน้า สามตัวรุกตำนานของทีมอย่าง มาเน่, ฟิร์มิโน่ และ ซาลาห์ กำลังใกล้จะแยกย้ายไปทุกที ทว่า วิวัฒนาการของ ลิเวอร์พูล ไม่ได้ยึดติดแค่ 3 คนนี้ คล็อปป์ วางแผนเอาไว้แล้วสำหรับ Reds-volution ที่กำลังก่อร่างสร้างตัว
และมันคือ Reds-volution ที่น่าจับตามองมากเลยทีเดียว