:::     :::

ถึงเวลาเชียร์ "ช้างศึก ยู-19 ในเวอร์ชั่น "ซัลบา"

วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน 2565 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
824
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หลังทีมชาติไทย ยู 19 ชุดชิงแชมป์อาเซียน ภายใต้การคุมทีมของ ซัลบาดอร์ บาเลโร การ์เซีย มีคิวลงเตะระหว่างวันที่ 2 – 15 กรกฎาคม นี้ที่ประเทศอินโดนีเซีย พวกเขาได้ประกาศ 28 ขุนพลออกมาแล้ว

ประกอบด้วย ณรงศักดิ์ เนื่องวงษา, ธวัชชัย อินทร์ประโคน, เสกสรรค์ ราตรี, วินัย เอี่ยมโอด, ธนวัฒน์ ทรายเพชร, ภานุพงศ์ วงค์พิลา, ชนภัช บัวพันธ์, วาริส ชูทอง, วงศ์วรรธน์ เจริญทวีสุข, ชมพัฒน์ บุญเลิศ,บุคฆอรี เหล็มดี, พันธมิตร ประพันธ์, กษิดิศ กาฬสินธุ์, สงครามสมุทร น้ำผึ้ง, สิทธา บุญหล้า, ธนาวุฒิ โพธิ์ชัย, ณัฐกิตติ์ บุตรสิงห์, สิรเศรษฐ เอกประทุมชัย, ปฏิภาณชัย โพธิ์เทพ, เกริกพล อาบรัมย์, ศตวรรษ ลีลา, ธีร์กวิน จันทร์ศรี, คคนะ คำยก, นิพิฐพนธ์ วงศ์ปัญญา, โอลัคซอน เอ แทมบา, พรสวรรค์ แสนกล้า, นาธาน เจมส์ และ พลเอก มณีกร 

วันนี้เรามาลองเปิดประเด็นความน่าสนใจในการตามเชียร์แข้งวัยรุ่นกลุ่มนี้ ซึ่งกำลังจะได้ไปอาละวาดรายการที่สองในขวบปี 2022 ต่อจากทัวร์เมนต์ที่พวกเขาแบกอายุไปคว้ารองแชมป์ ยู 23 ชิงแชมป์อาเซียน ที่ประเทศกัมพูชา ในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา 


1. "ซัลบา"ฟูมฟักเด็กเหล่านี้มา 5 ปีเต็ม 

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 หลังจากสมาคมฟุตบอลได้ทำการเซ็นสัญญาจ้างทีมงานโค้ช ''เอคโคโน" เข้ามาบริหารงาน เพื่อต่อยอดการสร้างทีมชาติไทยให้แข็งแกร่งด้วย “ระบบ” โดยมอบหมายให้  “ซัลบา” มาคุมทีมรุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี   

และหนุ่มสแปนิชคนนี้ก็ทำงานหนักจริงๆ เนื่องจากเขาตระเวนไปดูการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนทุกที่ พยายามดึงนักเตะเข้ามาสร้างแนวทางการเล่น สร้างทัศนคติตั้งแต่เด็กๆ เพื่อถ่ายทอดให้เหมือนกับที่ เอคโคโน เคยทำมาแล้วกับทีมอย่าง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และ บาร์เซโลน่า 

จนผ่านมาแล้ว 5 ปี เด็กๆ ที่ ซัลบาดอร์ บาเลโร การ์เซีย ดูในทุกรายการไม่เว้นแม้แต่ กรมพละ ก็ได้เติบโตขึ้นมาพร้อมกัน มีแท็คติกการเล่นเกมรุกรับที่ชัดเจน นอกจากนี้ตลอด 5 ปีที่เขาอยู่กับผู้เล่นเหล่านี้ ยังกำชับแนวทางการเล่นตามรูปแบบไทยแลนด์เวย์เป็นพิเศษอีกด้วย 


2. มีดาวรุ่งน่าจับตามองมากมาย

แม้ยังไม่มีการตัดตัวเหลือ 23 คน ก่อนไปลุยรายการนี้ แต่นักเตะที่เรียกเข้ามา ล้วนแล้วน่าจับตามองกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น ชนภัช บัวพันธ์ ปราการหลังดาวรุ่ง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่เพิ่งไปคว้าเหรียญเงินซีเกมส์ ก่อนจะถูกยืมไปลุยลีกสูงสุดซีซั่นหน้ากับ ลำพูน วอริเออร์ 

หรือจะเป็น นาธาน เจมส์ แข้งเกมรับลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ซึ่งเพิ่งจะช่วยทีมเยาวชน ยู 18 ของเบิร์นลี่ย์ จบอันดับ 8 ในตารางลีกมาหมาดๆ ยังมี “ตะวัน” ณัฐกิตติ์ บุตรสิงห์ ที่เพิ่งไปร่วมศึกเวิลด์ทัวร์เฟสติวัลที่ประเทศบราซิล กับสโมสร บาเยิร์น มิวนิค 

ไม่เพียงเท่านั้น 2 ดาวรุ่งจาก อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ทั้ง คคนะ คำยก ตัวรุกคนสำคัญ และ ธีร์กวิน จันทร์ศรี กองหลังกัปตันทีม ที่ขอเลื่อนไปเรียนศาสตร์ลูกหนังที่ประเทศสเปน กับ แอตเลติโก มาดริด รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี เพื่อเข้าต้องการลงเล่นรายการชิงแชมป์อาเซียน ให้กับทีมชาติไทย โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีแข้งอนาคตไกลอีกมากมายที่คงจะต้องใช้พื้นที่คอลัมน์เยอะทีเดียวในการเพื่อสาธยายสรรพคุณของแต่ละคน


3. หวังประกาศศักดาในอาเซียน 

ย้อนกลับไปในเดือน กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซัลบาดอร์ บาเลโร การ์เซีย คุมทีม 19 ปี ไปลุยรายการชิงแชมป์อาเซียน ยู-23 โดยมี อนุศักดิ์ ใจเพชร กับ ธีระศักดิ์ เผยพิมาย เป็นแค่ 2 ดาวเตะที่อายุเกินเท่านั้น ปรากฏว่า ผลงานของพวกเขากลับทำได้ยอดเยี่ยม 

ทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวเราอาจจะได้เป็นเพียงแค่รองแชมป์ แต่ว่านักเตะของ “ช้างศึก” กลับทำผลานได้อย่างเนียนตาจนได้รับคำชมเป็นอย่างมาก ทั้ง แบ็คซ้าย-ขวา อย่าง ธวัชชัย อินทร์ประโคน จาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ วาริส ชูทอง ของราชประชา ที่เติมเกมกันแบบมันส์หยด 

หรือจะเป็นการลากเลื้อยของ เกริกพล อาบรัมย์ ปีกตัวใหม่ของ พัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด, การตัดเกมของกองกลางตัวรับมะขามข้อเดียวจาก "ปราสาทสายฟ้า" นามว่า ธนวัฒน์ ทรายเพชร, การคุมจังหวะเกมที่โดดเด่นเกินวัยของ สิทธา บุญหล้า จากการท่าเรือ เอฟซี  

 และ "เจ้าแบน" ธนาวุฒิ โพธิ์ชัย ที่เป็นนักเตะอายุน้อยสุดแค่ 16 ปี ก่อนที่เขาจะถูกดันจาก อุดร ยูไนเต็ด ขึ้นไปเล่น หนองบัว พิชญ เอฟซี ชุดใหญ่ในซีซั่นหน้าเป็นที่เรียบร้อย โดยทุกคนล้วนอยากจะประกาศศักดาในอาเซียน กับรายการที่เป็นรุ่นเต็มอายุของพวกเขาในครั้งนี้ 


4. เช็คฟอร์มก่อนไปชิงแชมป์เอเชีย 

หากรายการนี้สามารถทำผลงานออกมาได้ดี หรืออาจจะทะลุไปถึงการคว้าแชมป์มาครอง ซึ่งจะกลายเป็นการเถลิงบัลลังก์สมัยที่ 6 ต่อจากปี 2002, 2009, 2011, 2015 และ 2017 น่าจะช่วยสร้างความมั่นใจได้เป็นอย่างดี เพราะศึกใหญ่ที่แท้จริงอย่าง ชิงแชมป์เอเชีย คอยอยู่ระหว่าง วันที่ 10-18 กันยายน นี้

การเจอกับนักเตะระดับเอเชีย น่าจะเป็นการตัดเกรดการทำงานของ ซัลบา อย่างแท้จริง เพราะรุ่น 19 ปีนี่แหละ ที่จะต่อยอดไปสู่การเล่น ยู 20 ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ ให้ได้ เหมือนที่คู่รักคู่แค้นย่านอาเซียนอย่าง เวียดนาม เคยไปมาแล้วเมื่อปี 2017 ก่อนจะต่อยอดสู่การไปโอลิมปิก ตามเป้าหมายที่ถูกวางเอาไว้  

เพราะการไปเล่นใน 2 รายการที่กล่าวมาข้างต้น จะเป็นใบเบิกทางที่อาจจะพาทีมชาติไทยชุดใหญ่ ไปสู่ฟุตบอลโลกได้ในอนาคต แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น ด่านแรกจำเป็นต้องต่อกรกับทีมระดับเอเชียให้ได้ ต้องก้าวไปอยู่ในจุดที่พวกแนวหน้าของทวีปนี้ยืน ไม่เช่นนั้นการลงทุนมาตลอด 5 ปีกับ "เอคโคโน" อาจถูกประเมินได้ว่าไม่มีความแตกต่างใดๆ จากแนวทางที่ผ่านมา 


สำหรับทีมชาติไทย ยู 19 อยู่ในสาย เอ ร่วมกับ อินโดนีเซีย, เมียนมา, เวียดนาม, บรูไน และ ฟิลิปปินส์ โดยโปรแกรมในชิงแชมป์อาเซียน ครั้งนี้ ประกอบด้วย  

วันที่ 2 กรกฎาคม - ไทย พบ ฟิลิปปินส์ ที่สนาม แพทริออต คานดราบฮาก้า เวลา 17.00 น. 

วันที่ 4 กรกฎาคม - เมียนมา พบ ไทย ที่สนาม แพทริออต คานดราบฮาก้า เวลา 17.00 น. 

วันที่ 6 กรกฎาคม - อินโดนีเซีย พบ ไทย ที่สนาม แพทริออต คานดราบฮาก้า เวลา 20.00 น. 

วันที่ 8 กรกฎาคม - ไทย พบ บรูไน ที่สนาม แพทริออต คานดราบฮาก้า เวลา 17.00 น.

วันที่ 10 กรกฎาคม - เวียดนาม พบ ไทย ที่สนาม มัดย่า เสนายัน เวลา 20.00 น. 

ส่วนรอบรองชนะเลิศ จะแข่งขันวันที่ 13 กรกฎาคม และ รอบชิงชนะเลิศ จะแข่งขันในวันที่ 15 กรกฎาคม ที่สนาม แพทริออต คานดราบฮาก้า


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด