อาร์เตต้า บอกว่า ฟาบิโอ วิเอร่า คือนักเตะที่มีคุณสมบัติตามที่ อาร์เซน่อล ต้องการสำหรับการยกระดับเกมรุกให้หลากหลายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ขณะที่ เอดู ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคเสริมว่านี่คือนักเตะที่มีคุณความสามารถสุดพิเศษโดยเฉพาะการผ่านบอลในจังหวะสุดท้าย
วันนี้เราจะมาวิเคราะห์และคาดการณ์ล่วงหน้าถึงตำแหน่งการเล่นของเจ้าตัวในทีม อาร์เซน่อล
ฟาบิโอ วิเอร่า สร้างผลงานได้อย่างโดดเด่นกับ ปอร์โต้ ตลอดสองฤดูกาลหลังสุด โดยฤดูกาลที่เพิ่งจบลงไป เขาพาทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์มาครองได้สำเร็จ
วิเอร่า ยิงได้ 6 ประตูกับอีก 14 แอสซิสต์ในลีกฤดูกาลล่าสุด ซึ่งการทำ 14 แอสซิสต์ถือว่าสถิติดีสุดของบรรดานักเตะอายุไม่เกิน 21 ปีใน 6 ลีกใหญ่ของยุโรป (เพิ่งอายุครบ 22 ปีหลังจบฤดูกาล)
กราฟฟิคแอสซิสต์ของ ฟาบิโอ วิเอร่า
จากกราฟฟิคแสดงทิศทางในการจ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูจะพบว่า การจ่ายบอลของ วิเอร่า มาจากเกือบทุกตำแหน่งในพื้นที่สุดท้ายทั้งหน้าเขตโทษ ฝั่งซ้าย และฝั่งขวา
อาร์เตต้า ชื่นชมว่า วิเอร่า เป็นนักเตะที่มีความครีเอตอย่างมากซึ่งจำเป็นสำหรับผู้เล่นเกมรุกที่ต้องสร้างสรรค์โอกาสทั้งการทำประตูและจ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีม
ขณะที่ตัวของ วิเอร่า กล่าวถึงสไตล์การเล่นของตัวเองว่าเป็นผู้เล่นเกมรุกที่มองหาช่องว่างระหว่างไลน์เพื่อจ่ายบอลหรือพาบอลไปเองในการลุ้นทำแอสซิสต์และยิงประตู
แต่เจ้าตัวก็ยอมรับว่ายังมีสิ่งที่พัฒนาเพิ่มเติมคือความแข็งแกร่งด้านร่างกายที่รูปร่างค่อนข้างเล็กด้วยความสูงเพียง 170 เซนติเมตร
แต่ในรูปร่างที่เล็ก ฟาบิโอ วิเอร่า มีคุณสมบัติอื่นครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นทักษะส่วนตัว เท้าซ้ายอันคล่องแคล่ว แถมลีลาการเล่นยังคล้ายกับ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ปีกตัวเก่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อีกด้วย
วิเอร่า มีสถิติผ่านบอลสำเร็จ 83 เปอร์เซ็นต์ สามารถเล่นได้หลากหลายตำแหน่งทั้งบทบาทจอมทัพหมายเลข 10, หน้าต่ำ หรือจะเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกหมายเลข 8 ในระบบสามกองกลาง ตลอดจนตัวริมเส้นทั้งสองฟากฝั่ง
ในฤดูกาลล่าสุดกับ ปอร์โต้ ที่ วิเอร่า ลงเล่นไป 27 นัด เขาถูกมอบหมายในสองตำแหน่งหลักๆ คือ หน้าต่ำ และ มิดฟิลด์ตัวรุก หรือเพลย์เมกเกอร์
แบ่งตามจำนวนนัดได้ดังนี้
หน้าต่ำ : 11 นัด
มิดฟิลด์ตัวรุก : 9 นัด
มิดฟิลด์ฝั่งซ้าย : 4 นัด
อีก 3 นัดเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวกลาง 2 นัด และแบ็กซ้ายจำเป็นอีก 1 นัด
ส่วนการเล่นให้กับทีมชาติโปรตุเกสชุดเล็กที่เขาเป็นถึงนักเตะยอดเยี่ยมของศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี เมื่อปีที่แล้ว ฟาบิโอ วิเอร่า จะเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกตรงกลางเกือบทุกนัด เรียกได้ว่าเป็นจอมทัพตัวจริงของทีมเลยทีเดียว
จากคุณสมบัติต่างๆ ที่ไล่มา ฟาบิโอ วิเอร่า มีบทบาทใกล้เคียงกับ มาร์ติน โอเดการ์ด จอมทัพคนปัจจุบันของ อาร์เซน่อล และเจ้าตัวก็บอกเองว่าแนวทางการเล่นคล้ายคลึงกันจริง
ขณะเดียวกันก็ถ่างออกไปเล่นริมเส้นฝั่งซ้ายได้เหมือน เอมิล สมิธ โรว์ ที่ถูก อาร์เตต้า ใช้งานทั้งตรงกลางและด้านข้าง
แม้ดูเหมือนจะทับตำแหน่งกับ โอเดการ์ด หรือ สมิธ โรว์ แต่การที่ อาร์เซน่อล ต้องเล่นในถ้วยยุโรปฤดูกาลหน้า การมีผู้เล่นคุณภาพสองคนในแต่ละตำแหน่งย่อมเป็นเรื่องที่ดีสำหรับการหมุนเวียนกันเล่น
ถ้าได้ กาเบรียล เชซุส มาอีกคน ผังการเล่นอาจเป็นแบบนี้
ฤดูกาลที่แล้ว อาร์เซน่อล มีปัญหาหลายต่อหลายครั้งเมื่อตัวหลักบาดเจ็บและตัวสำรองที่ลงเล่นแทน ไม่สามารถทดแทนได้ การบาดเจ็บของ โธมัส ปาร์เตย์ กับ คีแรน เทียร์นีย์ คือตัวอย่างที่เห็นได้ชัด
นอกจากนี้ อาร์เตต้า ยังสามารถส่งทั้ง วิเอร่า และ โอเดการ์ด ลงสนามพร้อมได้ในระบบ 4-3-3 ที่ใช้งานบ่อยโดยให้ทั้งคู่ทำเกมตรงกลางขนาบข้าง โธมัส ปาร์เตย์ ที่ยืนต่ำสุดในแผงกองกลาง
การมีผู้เล่นหลายคนให้เลือกใช้งานอาจเป็นปัญหาหนักใจว่าจะเลือกใครลงเล่นก่อน แต่ก็เป็นปัญหาที่ผู้จัดการทีมทุกคนอยากเจอเพราะนั่นหมายถึง ทีมมีตัวเลือกมากพอสำหรับรายการต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการแข่งขันฟุตบอลยุคปัจจุบัน
และนั่นคือเหตุผลที่ อาร์เซน่อล ต้องดึง ฟาบิโอ วิเอร่า เข้ามาร่วมทีม
