ก่อนหน้านี้เป็นเพียงเรื่อง 'ซุบซิบ' จากฝั่งสื่อสเปนที่ระบุ 'ซีอาร์7' ได้รับความสนใจจาก บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งหลังจากนั้นบอร์ดบริหาร เสือใต้ ออกมาปฏิเสธยกใหญ่ว่าไม่จริงอย่างที่เล่าลือกันไป

หรือกรณีของ จอร์จ เมนเดส เอเยนต์คู่ใจ โรนัลโด้ ที่แวะเวียนสโมสรต่างๆ เพื่อหาทางให้นักเตะได้เลือกย้ายในหน้าร้อนนี้ จึงไม่แปลกที่จะมีข่าวว่า เชลซี มีโอกาสได้แข้งโปรตุเกสไปครอง เนื่องจาก ท็อดด์ โบห์ลี เจ้าของสโมสรชื่นชอบและพึงพอใจแข้งรายนี้อยู่เช่นกัน

ทีแรกเป็นเพียงสีสันในหน้าข่าวเท่านั้น แต่เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมากลับกลายเป็นเรื่องที่จริงจังมากขึ้น เพราะทั้ง ฟาบริซิโอ โรมาโน่ กับ เดวิด ออร์นสตีน รายงานตรงกันว่า โรนัลโด้ 'ปรารถนา' ย้ายออกจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในหน้าร้อนนี้

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้แข้งวัย 37 ปีไม่มีความสุขใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด คือการพลาดโอกาสไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า และนั่นดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญซึ่งส่งผลต่อตัวนักเตะโดยตรง

หากมองในมุม โรนัลโด้ พอเข้าใจได้ว่านักเตะที่เดินหน้าคว้าเกียรติประวัติยิ่งใหญ่มามากมายต้องลดชั้นไปเล่นฟุตบอลสโมสรยุโรปลำดับสองอย่าง ยูโรปา ลีก อาจจะดูไม่เหมาะสม ยิ่งข้อเปรียบเทียบกับ ลีโอเนล เมสซี่ ยังคงมีต่อไปเช่นนี้ จึงไม่แปลกที่ โรนัลโด้ อยากลงพิสูจน์ตนเองในเวที แชมเปี้ยนส์ ลีก ต่อไป และทางเดียวคือย้ายทีมเท่านั้นในหน้าร้อนนี้

ฝั่งสโมสรชัดเจนถึงความต้องการ 'รั้ง' โรนัลโด้ ให้อยู่เป็นแกนหลักต่อไป โดยทั้งตัวนักเตะกับ เอริก เทน ฮาก ดูจะชอบพอกันอยู่ทั้งในแง่ของระบบการเล่นและวิธีการต่างๆ แต่เมื่อความปรารถนาของแต่ละฝ่ายต่างกันแต่ไม่สามารถเติมเต็มให้กันและกันได้ จึงไม่แปลกที่จะมีทางเลือกในการแยกทางเพื่อมองหาและเติมเต็มความต้องการของนักเตะ

อีกปัจจัยที่สื่อรายงานออกมาคือการเสริมทัพอันล่าช้าของ ปิศาจแดง แน่นอนว่าสโมสรกำลังดำเนินการในส่วนนี้อย่างหนัก แต่หากเทียบกับทีมอื่นๆ นับว่าช้าอยู่หลายช่วงตัว จึงส่งผลให้ โรนัลโด้ เริ่มกังวลถึงอนาคตของสโมสร

เรื่องดังกล่าวไม่ต่างจากแฟนบอลที่กำลังรอนักเตะใหม่ (ซึ่งแค่ 1-2 รายคงไม่พอ) ที่ผ่านมามีแค่การเจรจาแล้วเจรจาอีก เอาที่ชัดเจที่สุดคือกรณี ไทเรลล์ มาลาเซีย แบ็กจากเฟเยนูร์ด ซึ่งหากพูดกันตามตรงในตอนนี้ก็ยังไม่ใช่นักเตะที่ทำให้รู้สึกเนื้อเต้นหรือมั่นใจได้ว่าจะเข้ามาสร้างผลกระทบให้ทีมได้ทันที

สิ่งที่แฟนบอลอยากเห็น (และอาจจะรวมไปถึง โรนัลโด้) คือผู้เล่นชั้นนำที่พิสูจน์ผลงานและฝีเท้ามาแล้ว คนที่จะเข้ามาช่วยยกระดับทีมให้ดีกว่าซีซั่นที่ผ่านมา นั่นคือ 'กลุ่ม' ผู้เล่นใหม่ที่หลายคนอยากเห็นและให้เกิดขึ้น

ด้วยปัจจัยต่างๆ จึงไม่แปลกที่ โรนัลโด้ จะตัดสินใจเช่นนั้น แม้จะเป็นเพียงรายงานและอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต กระนั้นหากนำเอาปัจจัยหรือเหตุผลต่างๆ มาขมวดเข้าหากันเราจะเห็นได้ถึงความเป็นไปได้ และด้วยบุคลิกของ 'ซีอาร์7' ที่เต็มไปด้วยความปรารถนาและทะเยอทะยาน จึงไม่แปลกที่นักเตะต้องการย้ายทีมหากสโมสรยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป

ถึงตรงนี้อนาคตของ โรนัลโด้ มีแต่จะถอยห่างออกจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปอีกครั้ง แม้ทีมจะเร่งเสริมทัพและ (สมมติ) ได้นักเตะตัวที่ต้องการเข้าทีมมาทั้งหมด แต่มันก็ยังติดเงื่อนไขเรื่อง แชมเปี้ยนส์ ลีก

หลังจากนี้คงมีขั้นตอนเจรจาเปิดอกของคนในสโมสรที่ต้องเร่งดำเนินการหาความกระจ่างและสอบถามความต้องการของ โรนัลโด้ ให้ชัดเจน สอบถามความเป็นไปที่เกิดขึ้น เพราะหากปล่อยคาราคาซังเช่นนี้อาจจะส่งผลไปยังบรรยากาศ หรือขั้นตอนการเสริมทีม

อย่าลืมว่าหากทาง โรนัลโด้ แยกทางออกไปจริงๆ สโมสรจำเป็นต้องลงสนามหาตัวแทนรายใหม่ให้ได้ และนั่นจะเป็นงานหนักของทีมสรรหาในการเร่งจัดแนวรุกรายใหม่มารับหน้าที่อันสำคัญยิ่ง (เพราะลำพังแค่เป้าหมายปัจจุบันยังกินเวลานาน จึงไม่มีอะไรมาการันตีถึงกรอบเวลาหากต้องหา 'ตัวแทน' โรนัลโด้)

เรื่องราวที่เป็นไปในตอนนี้จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่ใช่แค่ แมนฯ ยูไนเต็ด เท่านั้น รวมไปถึงคนอื่นๆ ที่กำลังจับตามองความเป็นไปในรั้ว โอลด์ แทรฟฟอร์ด 

โดยเฉพาะเมื่อมีชื่อ โรนัลโด้ เข้ามาเอี่ยวทำให้แฟนบอลทั่วโลกหันมามองด้วยควมสนใจ แม้ว่าอายุจะปาไป 37 แต่ด้วยผลงานและชื่อเสียงจึงทำให้ 'ซีอาร์7' เป็นที่หมายปองของหลายๆ ทีม

อยู่ที่ ปิศาจแดง จะจัดการกับเรื่องดังกล่าวเช่นไร แม้ทีมต้องการรั้งสตาร์โปรตุเกสให้อยู่กับทีมต่อไป แต่ด้วยเงื่อนไขปัจจัยที่แตกต่างกัน จึงเป็นทางแยกที่ต้องตัดสินใจถึงอนาคตหลังจากนี้