โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กำลังเล่นสงครามประสาทกับ บาเยิร์น มิวนิค เพื่อบีบให้ต้นสังกัดเปิดทางให้เขาย้ายไปค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า ตามความปรารถนา

เรื่องราวระหว่าง บาเยิร์น มิวนิค - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ - บาร์เซโลน่า กลายเป็นดราม่ามาตลอดช่วงหน้าร้อนนี้ หลังกองหน้าทีมชาติโปแลนด์ยืนยันเจตนารมณ์ชัดเจนว่าเขาต้องการโยกไปค้าแข้งกับทีมอาซูลกราน่า

จุดเริ่มที่ทำให้ เลวานดอฟสกี้ หมดใจกับ บาเยิร์น มิวนิค เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ปี 2021 หลังมีรายงานว่าทีมดังแคว้นบาวาเรียพยายามจะเซ็นสัญญากับ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ เพื่อดึงดาวยิงชาวนอร์วีเจี้ยนมาเป็นตัวแทนระยะยาวของกองหน้าทีมชาติโปแลนด์ แน่นอนว่า 'เลวี่' ไม่ถูกใจสิ่งนี้ 

นับตั้งแต่ย้ายมาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2014 มีเฉพาะซีซั่นแรกเท่านั้นที่ เลวานดอฟกี้ ยิงได้เพียง 25 ประตู หลังจากนั้นอีก 7 ฤดูกาลถัดมา กองหน้าชาวโปลยิงได้ไม่น้อยกว่า 40 ประตู 

เลวานดอฟสกี้ คว้ารางวัลดาวซัลโวบุนเดสลีกา 6 ครั้ง ตลอด 8 ปีในมิวนิคที่ประตูของเขามีส่วนช่วยทีมเสือใต้คว้าแชมป์ลีกเมืองกระทิงตลอด 8 ฤดูกาลที่ผ่านมา โดยเฉพาะซีซั่น 2020-2021 ที่ 'เลวี่' กระทุ้ง 41 ประตูบนเวทีบุนเดสลีกา

นั่นคือการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของลีกเมืองเบียร์ทำลายสถิติเดิมของ แกร์ด มุลเลอร์ ตำนานทีมชาติเยอรมันตะวันตกผู้ล่วงลับที่เคยยิง 40 ประตูในฤดูกาล 1971-1972

ตลอด 8 ปีในมิวนิค เลวานดอฟสกี้ ยิง 238 ประตูจากการลงเล่นบุนเดสลีกา 253 เกมและยิงรวมกัน 344 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการ 375 เกม กลายเป็นแข้งระดับประวัติศาสตร์ของสโมสร 

เลวานดอฟสกี้ มีความเป็นมืออาชีพสูง เขาดูแลภาพร่างกายตัวเองเป็นอย่างดีและมีศรีภรรยาอย่าง แอนนา เป็นผู้ดูแลเรื่องโภชนาการ นั่นทำให้หัวหอกชาวโปลมั่นใจว่าเขาสามารถเล่นฟุตบอลระดับสูงได้อีกอย่างน้อย 3 ปีหรือจนถึงอายุ 37 

'เลวี่' กำลังเข้าสู่ช่วงปลายอาชีพค้าแข้ง ดังนั้นเขาจึงต้องการความมั่นคงจากสัญญาที่อาจจะเป็นฉบับสุดท้าย หลังข้อตกลงปัจจุบันกำลังจะสิ้นสุดอายุการใช้งานในช่วงซัมเมอร์ปี 2023 

เลวานดอฟสกี้ ต้องการขยายสัญญาอีก 3 ปี แต่ บาเยิร์น มิวนิค มองมุมต่างเนื่องจากพวกเขาต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของสโมสรเป็นอันดับแรก และด้วยอายุของ 'เลวี่' พวกเขาจึงไม่แน่ใจว่าหัวหอกชาวโปลจะทำผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนที่ผ่านมาหรือไม่ 

แม้ บาเยิร์น มิวนิค จะยืนยันว่าพวกเขาต้องการทำข้อตกลงใหม่กับ เลวานดอฟสกี้ ก็ตาม แต่สโมสรไม่ได้แสดงความจริงใจต่อนักเตะและยังประวิงเวลาไม่ยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการ บวกกับข่าวที่พยายามเซ็นสัญญากับ ฮาแลนด์ ก่อนหน้านี้ นั่นทำให้ 'เลวี่' สิ้นสุดความอดทนจนกระทั่งตัดสินใจประกาศอำลามิวนิคในที่สุด 

เลวานดอฟสกี้ ยืนยันผ่านสื่อหลายครั้งว่าเขาต้องการอำลามิวนิคเพื่อแสวงหาความท้าทายครั้งใหม่ในอาชีพค้าแข้งโดยมีเป้าหมายที่ทีมอาซูลกราน่า หลังมีข่าวว่าดาวยิงวัย 33 ปีบรรลุข้อตกลงส่วนตัวกับทีมยักษ์ใหญ่แคว้นกาตาลุนย่าแล้ว

'ผมต้องการย้ายออกจาก บาเยิร์น เท่านั้น ความภักดีและความเคารพเป็นเรื่องสำคัญมากกว่าการทำงาน สิ่งดีที่สุดคือการมองหาทางออกด้วยกัน' 

'บางอย่างในตัวของผมได้ตายไปแล้ว ผมต้องการย้ายออกจาก บาเยิร์น เพื่อให้ตัวเองมีอารมณ์ความรู้สึกในชีวิตมากกว่านี้'

'ผมไม่ได้พิจารณาข้อเสนออื่นๆ นอกจาก บาร์เซโลน่า ผมต้องการย้ายออกจาก บาเยิร์น นั่นคือเรื่องชัดเจน' เลวานดอฟสกี้ ยืนยัน

ตอกย้ำด้วยคำพูดของ ปีนี่ ซาฮาวี่ ตัวแทนของ เลวานดอฟสกี้ ที่ระบุว่า 'ตอนนี้ บาเยิร์น เป็นเรื่องราวในอดีตไปแล้วสำหรับ เลวานดอฟสกี้' 

'ไม่มีข้อเสนอเรื่องสัญญาใหม่ของ เลวานดอฟสกี้ จาก บาเยิร์น เขาแค่ต้องการสโมสรใหม่หลังจากผ่านไป 8 ปี เขาอายุ 34 ปีแล้วและต้องการทำให้ความฝันของตัวเองเป็นจริง' 

'เขาต้องการย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ เราไม่ได้สนใจเรื่องเงิน ความเป็นจริงคือเขารู้สึกว่าไม่ได้รับความเคารพจากบอร์ดบริหารในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา บาเยิร์น เสีย โรเบิร์ต ไปแล้ว ไม่ใช่แค่ในแง่ของนักเตะฟุตบอล แต่ในฐานะคนๆหนึ่งด้วย'

'บาเยิร์น บอกว่าเขามีสัญญาจนถึงปี 2023? แน่นอน พวกเขาเก็บ โรเบิร์ต ไว้ได้อีกปี แต่นั่นเป็นเรื่องที่ผมไม่ขอแนะนำ' ซาฮาวี่ กล่าว

อย่างไรก็ตาม บาเยิร์น มิวนิค ยังหวังโน้มน้าวให้ เลวานดอฟสกี้ อยู่กับสโมสรตามสัญญาที่ยังเหลืออีกหนึ่งปีและยังมองโลกแง่ดีว่ายังมีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะทำข้อตกลงใหม่กับกองหน้าชาวโปลด้วย 

ทั้ง แฮร์เบิร์ต ไฮเนอร์ ประธานสโมสร, โอลิเวอร์ คาห์น ซีอีโอ และ ฮาซาน ซาลิฮามิดซิช ผู้อำนวยการกีฬา รวมถึง คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ อดีตซีอีโอ และ อูลี่ เฮอเนส อดีตประธานสโมสรผู้ทริงอิทธิพลต่างประสานเสียงเดียวกันถึงความต้องการของค่ายเสือใต้ แต่มันไม่สามารถเปลี่ยนความตั้งใจของ เลวานดอฟสกี้ 

'วันนี้ มันเป็นที่แน่นอนว่าเรื่องราวของผมกับ บาเยิร์น ได้จบลงแล้ว และผมไม่สามารถจินตนาการถึงการร่วมงานกับสโมสรได้อีก หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา' 

'ผมคิดว่าการย้ายทีมจะเป็นทางออกดีที่สุดสำหรับทั้งสองฝ่าย'

'ผมเชื่อว่า บาเยิร์น จะไม่รั้งผมไว้ เพียงเพราะมันมีโอกาส (ที่จะได้ค่าตัวจากสัญญาที่เหลืออีกเพียงปีเดียว)' กองหน้าชาวโปลยืนยัน

แม้ บาร์เซโลน่า กำลังแก้ไขปัญหาทางการเงินของสโมสรก็ตาม แต่พวกเขามั่นใจว่าจะสามารถเคลียร์ปัญหาเพื่อเซ็นสัญญากับ เลวานดอฟสกี้ ในช่วงซัมเมอร์นี้ ทว่า บาเยิร์น มิวนิค ปัดข้อเสนอ 3 รอบจากทีมอาซูลกราน่า โดยเฉพาะข้อเสนอล่าสุดที่มีมูลค่ารวม 50 ล้านยูโร (40+10 ล้านยูโร) 

แน่นอนว่า เลวานดอฟสกี้ ไม่เข้าใจกับการตัดสินใจของต้นสังกัดที่ปัดข้อเสนอจาก บาร์เซโลน่า ทั้งที่เขาเหลือข้อผูกมัดอีกเพียงปีเดียวและยังแสดงความชัดเจนว่าไม่ต้องการขยายสัญญาเพิ่มเติมด้วย ก่อนมีข่าวลือว่า 'เลวี่' อาจจะพยศด้วยการไม่กลับมารายงานตัวเพื่อฝึกซ้อมในช่วงปรีซีซั่น 

อย่างไรก็ดี เลวานดอฟสกี้ ยังมีความเป็นมืออาชีพมากพอที่จะไม่เบี้ยวการฝึกซ้อม เขาเดินทางกลับมารายงานตัวตามกำหนดเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ เลวานดอฟสกี้ กำลังก่อสงครามประสาทในแคมป์ฝึกซ้อมของทัพเสือใต้

ตามรายงานระบุว่า เลวานดอฟสกี้ มาถึงสนามฝึกซ้อมสายตลอด 2 วันแรกและยังกลับช้ากว่าผู้เล่นคนอื่น แต่กองหน้าชาวโปลยังมีความสุขในการฝึกซ้อมวันที่สองมากขึ้นกว่าวันแรกเล็กน้อย เขาทักทายเพื่อนร่วมทีมและเทรนเนอร์ ยูเลียน นาเกลส์มันน์ พร้อมร่วมร้องเพลงฉลองวันเกิดให้ แซร์ช นาบรี้ เมื่อวันพฤหัสฯด้วย

'บิลด์' แจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมว่า บาเยิร์น มิวนิค กำหนดให้นักเตะเดินทางมาฝึกซ้อมตั้งแต่เวลา 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เลวานดอฟสกี้ มาซ้อมสายในวันพุธ 6 นาที และมาช้าในวันพฤหัสฯ 2 นาที และเขาเป็นผู้เล่นคนสุดท้ายที่ออกจากห้องแต่งตัวจนดูเหมือนว่าพยายามจะแยกตัวจากเพื่อนร่วมทีมคนอื่น แต่สถานการณ์ดีขึ้นในวันที่สอง

บาเยิร์น มิวนิค อาจไม่มีทางเลือกนอกจากการยอมปล่อย เลวานดอฟสกี้ ย้ายสังกัดในช่วงซัมเมอร์นี้เพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้เกิดปัญหาในห้องแต่งตัวนักเตะ เนื่องจากมีนักเตะเสือใต้หลายคนที่ไม่พอใจพฤติกรรมของกองหน้าชาวโปล 

ขณะเดียวกันทีมดังแคว้นบาวาเรียยังต้องการเงินจากการปล่อย เลวานดอฟสกี้ เพื่อสมทบทุนในการดึง มัทไธส์ เดอ ลิกต์ กองหลังทีมชาติเนเธอร์แลนด์สจาก ยูเวนตุส มาเสริมแนวรับในช่วงซัมเมอร์นี้ด้วย

ดังนั้นทางออกที่ดีต่อทุกฝ่ายคือการปล่อย เลวานดอฟสกี้ ย้ายสังกัดตามความปรารถนาของนักเตะ เพียงแต่มันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่เท่านั้น