วันนี้รเามาว่ากันถึงผลกระทบของนักเตะที่ไม่ฉีดวัคซีนโควด-19 หรือฉีดไม่ครบตามที่กฏหมายของบางประเทศกำหนดกันครับ
ข่าวที่ออกมาช่วงวันสองวันนี้ไม่เป็นผลดีกับนักตะที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 เลย
แน่นอนว่าการจะฉีดหรือไม่ฉีดวัคซีนนั้นเป็นสิทธิ์ของแต่ละคน เราเข้าใจได้ว่าของแบบนี้คนเรามันกลัวกันได้ หรือมีความคิดที่แตกต่างกันได้
แต่ละคนก็คิดไม่เหมือนกัน นี่เองนะครับที่ทำให้ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีนักเตะอีกหลายคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน
และมันก็จะมาเห็นผลชัดเจนในการที่ต้องเดินทางข้ามทวีปช่วงซัมเมอร์นี่แหละ
อย่าง เชลซี นั้น โธมัส ทูเคิ่ล เซ็งมากที่เขาไม่สมารถนำ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และ รูเบน ลอฟตัส ชีค ไปสหรัฐอเมริกาได้
คริสตัล พาเลซ นี่หนักเลยนักเตะไม่ฉีดวัคซีนถึง 8 คนที่ไม่ได้เดินทางมาทัวร์เอเชีย แล้วดูชื่อแต่ละคนสิครับ สำคัญทั้งนั้นเลย
อย่าง วิลฟรีด ซาฮา, เอเบเรชี่ เอเซ่, มาร์ค เกอฮี, ไมเคิ่ล โอลิเซ่, ชีกู คูยาเต้, วิลล์ ฮิวจ์ส, คริสติย็อง เบนเตเก้ ฯลฯ นี่ทั้งนั้นเลย
ขาดผู้เล่นมากมายขนาดนี้มีผลต่อการเตรียมทีมอย่างแรงเลยนะครับ ทั้งหมดต้องอยู่ซ้อมในลอนดอน
และต้องซ้อมกับทีม ยู-23 อีกด้วย แบบนี้ส่งผลต่อการเตรียมทีมชุดใหญ่อย่างแรง
ทูเคิ่ล ยอมรับว่าเขาอาจจะต้องเพิ่มนโยบายการซื้อนักเตะใหม่ที่ฉีดวัคซีนแล้วเท่านั้น
อย่างการเตรียมทีมชาติอังกฤษก็มีผลนะครับ เพราะฟุตบอลโลกที่ กาตาร์ ปลายปีนี้เข้มงวดเรื่องโควิดมาก
ใครที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนจะต้องกักตัว 5 วันเพื่อดูการก่อนเข้าประเทศได้
อังกฤษ มีแผนที่จะเดินทางเข้า กาตาร์ ก่อนที่จะลงสนาม 6 วันโดยนัดแรกพวกเขาจะเจอกับทีมชาติอิหร่าน
นั่้นหมายความว่านักเตะที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนจะมีเวลาแค่วันเดียวก่อนที่จะเจอกับ อิหร่าน ซึ่งเป็นสิ่งที่ แกเรธ เซาธ์เกต มองว่าทีมจะเสียประโยชน์อย่างยิ่ง
และเวลานี้เขากำลังจะพิจารณาว่าจะไม่เอานักเตะที่ไม่ฉีดวัคซีนไป ฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายเลยหรือไม่เพื่อเป็นการตัดปัญหาไปเลย
เราได้เห็นกันแล้วว่านักเตะที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนมีผลกระทบทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ
แต่ของแบบนี้มันก็พูดยากครับ คนที่เขาไม่อยากฉีดจริงๆมันก็มีหมือนกัน
ก็ต้องดูกันเป็นเคสๆไปล่ะครับ ถ้ามันไม่กระทบกระเทือนอะไรมาก ก็คงไม่มีผลอะไร หรือไม่ก็ถ้ามีการบีบกันขึ้นมาพวกเขาก็อาจจะเปลี่ยนใจเลือกที่จะไปฉีดวัคซีนก็ได้ใครจะไปรู้
"แมวเพชร"
