:::     :::

ปัญหาหลังฟูลแบ็ก

วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม 2565 คอลัมน์ ผีตัวที่ 13 โดย โกสุ่ย
2,181
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ผ่านเกมพรีซีซั่นไป 4 นัดพร้อมสัญญาณของพัฒนาการที่ดีขึ้นในหลายส่วน ... แต่ยังมีปัญหาบางจุดให้แก้ไข

หนึ่งในนั้นคือพื้นที่หลังฟูลแบ็กซึ่งโดนโจมตีตลอดครึ่งหลังในเกมที่ผ่านมา แม้จะเป็นจุดเล็กๆ แต่เมื่อแผลโดนเปิดออก นั่นคงทำให้ทีมต่างๆ นำไปศึกษาและหาวิธีเล่นงานในอนาคตแน่นอน

ฝั่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มันคือการหาทางกลบข้อผิดพลาดส่วนนั้น หาวิธีการรับมือเมื่อโดนโจมตีหรือเล่นงาน เพราะฟุตบอลสไตล์ เอริก เทน ฮาก คือการให้แบ็กทั้งสองฝั่งมีส่วนร่วมกับเกม คอยเติม คอยช่วยงานทุกครั้งเมื่อทำเกมบุก แต่ต้องแลกมาด้วยพื้นที่เปิดโล่งให้ปีกหรือตัวริมเส้นฝ่ายตรงข้ามได้สวนกลับ

หลักฐานสำคัญคือจังหวะโดน แอสตัน วิลล่า ตีไข่แตกในเกมล่าสุด เมื่อฟูลแบ็กเติมสูงแต่โดนตัดบอลหรือสวนกลับ พื้นที่ตรงนั้นจะเปิดโล่งมีช่องให้เล่นเยอะมาก และหากรับมือไม่ดีผลงเอยก็คงเป็นอย่างที่เห็น

ยังมีหลายจังหวะที่เกิดขึ้นคล้ายกัน วิลล่า พยายามเล่นงานเมื่อเห็นว่า ปิศาจแดง มีจุดอ่อนตรงไหน และมันได้สร้างปั่นป่วนให้กับแนวรับไม่น้อยเลย

หรือย้อนกลับไปในเกมพบ เมลเบิร์น วิคตอรี่ ที่ทีมโดนเล่นงานในลักษณะไม่ต่างกัน เมื่อแบ็กซ้ายเติมสูงหลุดตำแหน่งก่อนโดนเล่นงานในจุดนั้น บวกกับเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ที่ดูสับสนจนโดนสอยตาข่าย





เทน ฮาก ทราบดีอยู่แล้วเกี่ยวกับการเล่นของตนเองว่ามีจุดไหนที่เสี่ยงหรืออันตราย ซึ่งถือเป็นความท้าทายต่อจากนี้ของนักเตะ ปิศาจแดง รวมไปถึงกุนซือวัย 52 ปีที่ต้องพร่ำบอกคอยสอนลูกทีมให้เข้าใจวิธีการของตนเอง พร้อมหาทางแก้ไขในอนาคต

แนวรับทุกคนต้องคอยสอดประสานคุมพื้นที่ให้ดี และนั่นมาจากการฝึกซ้อมและทำความเข้าใจหลังจากนี้ อย่างเกมล่าสุด วิคตอร์ ลินเดเลิฟ ที่ถือว่าทำได้ดีพอสมควรในช่วงก่อนหน้านั้น แต่จังหวะโดนประตูแรกต้องถูกตำหนินิดหน่อยเพราะเขาน่าจะหยุดหรือป่วน ลีออน เบลีย์ ได้ดีกว่านี้ หรือปิดช่องทางไม่ให้ยิงง่ายๆ เช่นนั้น

แน่นอนว่า เทน ฮาก จะนำบทเรียนหรือข้อผิดพลาดตรงนี้ไปเปิดให้ลูกทีมดูเพื่อศึกษาหาทางแก้ไขอีกครั้ง เพราะหากปล่อยไว้จะกลายเป็นจุดโดนเล่นงานหรือจุดอ่อนในภายภาคหน้า

ใช่เพียง ลินเดเลิฟ รายเดียว ส่วนนี้ยังรวมไปถึงแนวรับคนอื่นๆ ที่ต้องทำความเข้าใจรูปแบบการเล่นของ เทน ฮาก คอยช่วยคุมพื้นที่เมื่อเพื่อนร่วมทีมเติมเกมหรือหลุดตำแหน่ง ไม่ต่างจากแดนกลางที่อย่าเสียบอลง่าย และต้องตื่นตัวทุกครั้งเมื่อทีมโดนสวนกลับ คอยตัดเกมและเล่นงานไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามสร้างอันตรายหน้ากรอบเขตโทษ

จึงไม่แปลกที่ เทน ฮาก อยากได้กองกลางที่ครองบอลดีไม่เสียบอลง่าย เอาตัวรอดเก่ง และที่สำคัญคือการผ่านบอลแม่นยำ เพราะสิ่งเหล่านั้นจะช่วยลดโอกาสในการโดนตัดเกมรือสวนกลับได้มากขึ้น





จะว่าไปแล้วความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในนัดล่าสุด หากมองในแง่ดีถือเป็นการเตือนสติให้ เทน ฮาก และนักเตะทราบว่าพวกเขายังมีงานให้ทำอีกเยอะแยะมากมาย แม้แนวรุกจะดูดีและมีการทำงานที่ดีขึ้น แต่แนวรับยังต้องปรับปรุงและทำให้ดีกว่าที่ผ่านมา

4 เกมที่ผ่านไปอาจจะเสียแค่ 4 ประตู ซึ่งถือว่าน้อย กระนั้นหากทีมสามารถลดข้อผิดพลาด กลบจุดอ่อนและสร้างการเล่นให้แน่นอนกว่าเดิม มันจะกลายเป็นพัฒนาการอันรุดหน้าอย่างที่ทุกคนต้องการ

ตอนนี้เหลือเกมอุ่นเครื่องอีก 2 นัดในวันเสาร์และอาทิตย์หน้า ซึ่งเชื่อว่า เทน ฮาก จะจัดทีมแบบ 2 ชุดให้ลงสนามเต็มที่เพื่อทดสอบช่วงโค้งสุดท้ายก่อนฤดูกาลใหม่จะมาถึง

เหลือเวลาอีก 2 สัปดาห์ในการปรับจูนทีมให้พร้อมมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ก่อนดวล ไบรท์ตัน ซึ่งถือเป็นช่วงที่สำคัญก่อนซีซั่นใหม่จะเริ่มต้น

ที่พูดมาทั้งหมดไม่ใช่ว่าต้องการเห็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ไร้ข้อผิดพลาด เล่นแบบเนียนตาไปแทบทุกนัด แต่ความต้องการที่แท้จริงคือลดข้อผืดพลาดลงมาให้เหลือน้อยที่สุด เพราะยิ่งผิดพลาดน้อยเท่าไหร่ โอกาสที่จะทำได้ตามเป้าหมายก็มีมากขึ้น





อย่างที่ เทน ฮาก กล่าวหลังจบเกมที่กรุงเพิร์ท 'ฟุตบอลเป็นกีฬาของความผิดพลาด ซึ่งพวกเราต้องลดข้อผิดพลาดลงมาให้น้อยลง'

สิ่งเหล่านั้นคือส่วนที่ต้องแก้ไข และมาพร้อมด้วยพัฒนาการในส่วนต่างๆ ซึ่งกำลังไปได้สวย ทั้งรูปแบบการเล่นที่ชัดเจนขึ้น การต่อบอลที่แน่นอนกว่าเดิม หรือแม้แต่การขยับเคลื่อนที่ของนักเตะที่ดูดีกว่าเมื่อก่อน 

อย่าลืมว่ากลับไป แมนเชสเตอร์ รอบนี้จะมี 2 นักเตะใหม่มาร่วมทีมอย่างเป็นทางการ ซึ่งหวังว่าทั้ง คริสเตียน เอริกเซ่น และ ลีซานโดร มาร์ตีเนซ จะปรับตัวเข้ากับทีมได้เร็วพร้อมเข้ามาเสริมหรือยกระดับให้ดียิ่งขึ้น

การทำงานยังคงดำเนินต่อไปไม่รู้จบในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนฤดูกาลใหม่เปิดตัวอย่างเป็นทาง ที่สำคัญบทเรียนจากนัดล่าสุดถือเป็นสิ่งที่ดีที่จะทำให้ทุกคนได้ฉุกคิดและนำไปปรับปรุง

สิ่งสำคัญในการพัฒนาทั้งตัวบุคคลและทีมงานคือการทราบถึงจุดอ่อนของตนเอง รู้ถึงข้อผิดพลาดและพร้อมนำมาปรับปรุงแก้ไขให้ดีกว่าเดิม

อะไรที่เป็นปัญหาหรือก่อให้เกิดความผิดพลาดในอดีต ตอนนี้ยังมีเวลาแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้น ซึ่งหากสามารถปรับสิ่งเหล่านั้นได้ดีกว่าที่ผ่านมา มันจะกลายเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าทีมนี้พร้อมยกระดับและทำให้ดีกว่าเดิมอย่างที่เคยพ่นลมปากออกมา



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด