"คริสเตียน อีริคเซ่น นักเตะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด" ชื่อเรียกแบบนี้ฟังแล้วเป็นไงบ้าง
"อ่าห์ มันเป็นอะไรที่ใหม่มากจริงๆ รู้สึกแปลกๆ ผมไม่คิดเลยว่าวันนึงจะเกิดขึ้นได้จริงๆ เพราะงั้นแล้ว ที่ผมมาอยู่ที่นี่ ก็อย่างที่คุณพูดแหละ นักเตะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด มันเป็นอะไรที่พิเศษมากจริงๆ"
คุณบอกว่าบางทีคุณแทบจะไม่คิดไม่ฝันเลยว่ามันจะเกิดขึ้นกับคุณได้ แต่ว่าที่นี่มีข่าวเชื่อมโยงกับคุณอยู่เป็นประจำเลย เพราะฉะนั้นแล้ว คุณรู้สึกไหมว่านี่มันอาจจะเป็นชะตากรรมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ว่า สุดท้ายแล้วคุณก็ต้องได้ย้ายมาอยู่แมนยูไนเต็ด?
"ไม่ครับ เพราะผมคิดว่า จากเส้นทางการค้าแข้งของผมตลอดมา ก่อนที่จะเจอเหตุการณ์ในบอลยูโร ผมไม่ได้มีแพลนที่จะกลับมาลงเล่นที่ UK เลยครับ ผมเคยคิดเรื่องที่ว่าอาจจะมีโอกาสย้ายไปอยู่แมนยูไนเต็ด มันเป็นในช่วงก่อนหน้านั้น เพราะงั้น ตอนที่ผมอยู่กับสเปอร์ส แล้วย้ายไปเล่นที่อิตาลีตามแพลน การที่วันนึงจะกลับมาที่นี่ ได้นั่งอยู่ตรงนี้ มันเป็นอะไรที่ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะเกิดขึ้น"
"แต่ผมก็มีความสุขมากๆเลยที่ผมได้มาอยู่ที่นี่แล้ว ผมรู้สึกดีมาก รู้สึกดีที่ได้อยู่ที่นี่"
ปีที่แล้วคุณเล่นอยู่กับเบรนท์ฟอร์ด ซัมเมอร์นี้คุณมีตัวเลือกมากมายเลย อะไรคือสิ่งพิเศษที่ดึงดูดใจคุณให้เลือกแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
"อย่างแรกเลยคือเรื่องฟุตบอล คือผมเป็นคนที่อยากจะลงเล่นฟุตบอลมากๆ และก็ด้วยแนวคิดของผู้จัดการทีมที่เขามี กับการได้พูดคุยสนทนากันกับเขา มันทำให้ผมมองเห็นภาพการเล่นฟุตบอลของตัวเองที่แมนเชสเตอร์ แล้วขณะเดียวกันที่นี่ก็เป็นสโมสรที่ใหญ่มากๆ หรือจะเรียกว่าใหญ่สุดๆก็ว่าได้ เพราะถ้าเอ่ยชื่อนี้ขึ้นมา ทุกๆคนก็จะรู้จักที่มาที่ไปของมันทันที ทุกคนรู้ว่าสโมสรแห่งนี้อยู่ที่ไหน ที่ที่มีประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่ เป็นความรู้สึกที่ดีมากๆเลยที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ที่ว่านั้น"
คุณพูดถึงผู้จัดการทีมใช่ไหม เอริคมีอิทธิพลยังไงบ้างที่ทำให้คุณมาอยู่ที่สโมสรฟุตบอลแห่งนี้
"มีส่วนมากๆ ผมอยากมาที่นี่เพื่อเล่นฟุตบอล ผมไม่ได้มาที่นี่เพราะโลโก้ของมันหรืออะไร ผมอยากมาเพื่อลงเล่น แน่นอนว่าการได้คุยกับผู้จัดการทีมและฟังไอเดียของเขาระหว่างการสนทนากันในเรื่องเชิงฟุตบอลนั้นมันเยี่ยม และเป็นสิ่งที่อยู่ในอุดมคติของผมเลยที่ทำให้ผมสามารถตัดสินใจได้ และคิดว่าก็เป็นไปได้ที่เราจะย้ายมาอยู่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
เอริคทำอาแจ็กซ์ให้เป็นทีมที่เล่นบอลบุกจ๋าๆอย่างที่คุณก็รู้ดีอยู่แล้ว เรื่องนี้มันเสริมความน่าสนใจให้คุณย้ายมาที่นี่ด้วยไหมเพราะว่าคุณรู้สไตล์การเล่นของเอริคเป็นอย่างดี?
"ใช่ครับ ผมก็หวังว่าสไตล์การเล่นของผมจะเข้ากันกับแนวคิดของเขา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะเป็นเชื่อมโยงกันเป็นอย่างดี เพราะงั้นสไตล์การเล่นของเขาน่าจะเหมาะกับผม"
คุณรู้สึกยังไงเวลามองยูไนเต็ดจากมุมมองจากข้างนอก ตอนที่ยังไม่ได้ย้ายมาที่นี่ รู้สึกไหมว่าสโมสรนี้ ทีมนี้ ควรจะประสบความสำเร็จมากกว่าที่เป็นอยู่ในฤดูกาลที่แล้ว?
"เอาแบบตามจริงเลยนะ ผมไม่ค่อยได้ติดตามสักเท่าไหร่ในซีซั่นที่แล้ว แต่ช่วงต้นๆซีซั่นพอจะได้ดูอยู่ในช่วงที่ผมกำลังพักฟื้นอยู่ แล้วหลังจากนั้นครึ่งฤดูกาลหลังผมก็เล่นอยู่กับเบรนท์ฟอร์ด เพราะงั้นผมก็จึงโฟกัสกับสโมสรตัวเองเท่านั้น"
"แต่ถ้าเป็นทั่วไป ผมคิดว่าทุกๆคนข้างนอกก็ชอบติดตามเรื่องแมนยูอยู่แล้ว ผู้คนต่างก็มีความเห็นมากมาย ส่วนตัวผมคิดว่ามันจะชัดเจนและเป็นทางที่ดีที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง แล้วจึงพิจารณาว่ามันเป็นยังไง แล้วก็ลองสัมผัสมันดูว่า การเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นอย่างไรบ้าง มันเป็นเรื่องที่ดี"
คุณรู้จักใครมาก่อนบ้างแล้วในห้องแต่งตัวที่นี่ เราจำได้ว่าคุณเคยมีคอนเน็คชั่นกับเด็กเราอย่างแบรนดอน วิลเลี่ยมส์ ในเหตุการณ์เมื่อซีซั่นที่แล้วคนนึงละ มีคนอื่นอีกไหมที่สนิทๆกัน
"555555 เราจะถือว่าเรื่องนั้นมันเรียกว่า คอนเน็คชั่น กันจริงๆเหรอครับ?! อ่าาาา เคเค 55555 ใช่แล้ว ผมเคยลงเล่นและเผชิญหน้ากับหลายๆคนมาก่อน ผมคิดว่าไม่น่าจะมีใครที่ผมไม่รู้จักชื่อนะที่นี่ เพราะงั้นแน่นอน ผมเคยเจอพวกเขามาหมดแล้ว และไม่เคยลงเล่นกับใครมาก่อนเลยสักคน มันจึงเป็นอะไรที่ใหม่มากๆ"
"คงจะสนุกแน่นอนที่ได้เรียนรู้กับเพื่อนหน้าใหม่ๆ นักเตะคนใหม่ๆที่ผมเคยเจอและลงปะทะด้วย แต่ไม่เคยร่วมเล่นในทีมเดียวกัน มันเลยเป็นอะไรที่แตกต่าง แต่ประเด็นมันคือเรื่องของการสร้างความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน"
ขอบคุณแบรนดอนด้วยที่ช่วยคว้าคริสเตียนมาให้เรา!!(ฮา)
คุณคัมแบ็คมาเล่นในพรีเมียร์ลีกกับเบรนท์ฟอร์ด หลังจากที่หยุดพักไประยะหนึ่ง มีความรู้สึกอะไรไหม เช่นว่าคุณยังไม่ได้สะสางเรื่องราวในพรีเมียร์ลีกให้เรียบร้อย? มีลองๆจินตนาการเอาไว้บ้าไหม เพราะเห็นคุณพูดว่าไม่แน่ใจว่าจะกลับมาเล่นในอังกฤษอีก...
"ไม่ ผมนึกย้อนตอนตอนที่ผมลองพยายามทำอะไรใหม่ๆ และหยุดพักไปเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เตะฟุตบอลในระดับที่ยอดเยี่ยมช่วงเจ็ดปีที่ผ่านมา ผมอยากลองอะไรใหม่ๆก็เลยไปอิตาลีดู มันเริ่มต้นด้วยความยากลำบาก แต่สุดท้ายมันก็อยู่ได้และกลายเป็นที่ที่ดีมากๆ ผมจึงคิดว่าจะเซ็นสัญญาลงหลักปักฐานที่อิตาลี"
"แต่ก็อย่างที่บอก ผมใช้เวลาในการพยายามที่จะไตร่ตรอง และตอบรับสายของหลายๆฝ่ายที่ติดต่อเข้ามา โชคดีมากที่โธมัส(แฟรงค์) โทรเข้ามา แล้วเบรนท์ฟอร์ดก็กระตือรือร้นมากๆ ผมจึงรู้สึกว่าน่าจะลองย้ายไปเล่นที่นั่นสักหกเดือนดูก็ได้ แล้วค่อยว่ากันต่อไป"
ประสบการณ์ตอนนั้นที่กลับไปลอนดอนเป็นยังไงบ้าง?
"เป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆ ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี เราสามารถที่จะอยู่รอดได้ในลีกชัวร์ๆ และบรรยากาศที่สโมสรเป็นไปในทิศทางที่ดีเอามากๆ ผมซาบซึ้งใจในสิ่งที่พวกเขาทำเสมอ ที่พวกเขาแสดงความสนใจและเป็นห่วงดูแลผมอย่างดีนับตั้งแต่วันแรกที่ต้องการตัวผมกลับมาอังกฤษ แถมยังให้โอกาสในการให้ผมได้แสดงฝีเท้า ทุกๆอย่างจริงๆ ดังนั้นผมจึงมีช่วงเวลาที่ดีมากๆ ผมจึงบอกพวกเขา โทรหาพวกเขา และก็อวยพรให้พวกเขาโชคดีอย่างมาก เป็นสโมสรที่ยอดเยี่ยมจริงๆ"
เกมเยือนนัดแรกของแมนยูไนเต็ดในลีกเลยก็คือการเจอกับเบรนท์ฟอร์ดนี่แหละ มันคงเป็นโอกาสที่ดีเลยสำหรับคุณในการจะอำลาแฟนบอลและก็สตาฟฟ์ที่นั่นที่ได้เคยดูแลคุณมาอย่างดีใช่ไหม?
"ใช่ครับ แน่นอน ผมได้คุยกับพวกเขาส่วนใหญ่ไปแล้วล่ะ และบอกว่าในอนาคตมันจะเป็นยังไงบ้าง มันจะเป็นสิ่งที่มีความสุขแน่นอนที่จะได้เห็นแฟนๆพวกเขาในสนาม บรรยากาศที่สนามดีมากๆ เป็นความรู้สึกที่ดีและน่าประทับใจจริงๆ แต่ว่าแน่นอน ผมจะไปเล่นในฐานะนักเตะของยูไนเต็ด ซึ่งฟีลตอนเตะที่นั่นมันก็จะต่างไปอีกแบบจากตอนที่เคยเล่นกับพวกเขาในฐานะเป็นสนามทีมเหย้า"
ความรู้สึกมันเป็นยังไง เวลาที่ลงสนามเป็นคู่ต่อสู้ที่ต้องมาเจอกับยูไนเต็ด ประสบการณ์เหล่านั้นเป็นยังไงบ้างสำหรับคุณ?
"มันดีนะ ดีทุกๆครั้ง เจอกันทีไรมันก็เป็นเกมยากเสมอ แต่ว่าก็มีความทรงจำดีๆด้วยเช่นกัน มันพิเศษอยู่แล้วในทุกๆครั้งที่ไปเยือนโอลด์แทรฟฟอร์ด ซึ่งตามปกติแล้วการได้เจอกับทีมใหญ่แบบแมนยูไนเต็ด มันไม่เคยมีอะไรธรรมดาหรอก เพราะงั้นก็แบบที่พูดนั่นแหละครับว่า มันก็เลยรู้สึกแปลกๆอยู่นะที่อยู่ดีๆย้ายมาอยู่อีกทีมนึงแล้ว"
แฟนแมนยูชอบตัวสร้างสรรค์เกมเก่งๆที่เล่นด้วยจินตนาการอยู่แล้ว ทั้งพวกสโคลส์ คาร์ริค ชาร์ลตัน เบสต์ ก็องโต้ เป็นต้น รู้สึกยังไงบ้างที่แฟนแมนยูกำลังพูดเกี่ยวกับคุณด้วยความรู้สึกแบบเดียวกันเลย
"มันมีความหมายกับผมมากๆ อย่างที่บอกอยู่ครับว่าที่นี่มีประวัติศาสตร์มากมาย นักเตะระดับสุดยอดจำนวนมากเคยลงเล่นที่นี่มาแล้ว และเพื่อที่จะได้อยู่ในทำเนียบเหล่านั้นผมจะต้องลงไปเล่นเพื่อพิสูจน์ตัวเองว่า ผมก็อยู่ในระดับนั้นเช่นกัน แต่พอลองมองย้อนไปดูแล้ว มันเป็นลิสต์ระดับเทพเลยล่ะ เพราะมีแต่บิ๊กเนมทั้งนั้นเลย"
เพราะงั้น ในซีซั่นข้างหน้านี้คุณมีความทะเยอทะยานส่วนตัวยังไงบ้างที่ยูไนเต็ด กับอาชีพค้าแข้งที่นี่?
"ผมมั่นใจแน่นอนว่ามันเป็นเรื่องเป้าหมายที่จะกลับไปสู่ระดับท็อปอีกครั้ง มันเป็นความฝันของสโมสร เป็นประวัติศาสตร์ที่ต้องการความเป็นที่สุด เพราะงั้นสิ่งเดียวที่ผมมุ่งหมายเอาไว้ก็คือ การขึ้นไปให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ และดูว่าเราจะทำได้แค่ไหน แต่ผมคิดว่าเป้าหมายคือการคว้ามาสักแชมป์ให้ได้นั่นเอง"
คุณสัมผัสได้ว่าแฟนบอลเราอยากจะให้ทีมมีโอกาสขึ้นไปท้าชิงแชมป์บ้าง ในระดับที่สโมสรเราควรจะเป็น คุณอยากจะบอกอะไรกับแฟนบอลบ้างไหมเกี่ยวกับการมาของคุณในครั้งนี้?
"อ่า ผมคิดว่าไม่เพียงแค่เรื่องที่ผมย้ายมาอยู่ที่นี่เท่านั้น แต่ทุกๆสิ่งมันมีบรรยากาศที่ดีมาก ทั้งสโมสรกำลังดำเนินงานไปได้อย่างดี เพราะงั้นก็หวังว่าเราจะเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ และผมหวังว่าจะช่วยแฟนๆให้มีความสุขกับการมาชมฟุตบอลที่พวกเราจะเล่นกัน"
คุณตกลงเซ็นสัญญาระยะยาวที่นี่กับยูไนเต็ด คุณมีคิดบ้างไหมว่าอาจจะมีโอกาสที่จะแขวนสตั๊ดที่นี่
"ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมเคยอ่านมาจากที่ไหนสักแห่งว่าคุณจะต้องอายุสัก 35 แล้วถึงจะแขวนสตั๊ดได้ ซึ่งผมจะอายุ 33 ตอนที่หมดสัญญา ผมก็ยังเหลือเวลาอีกปีสองปีที่จะลงเล่นได้ อย่างที่เคยพูดไปครับว่าคุณไม่มีทางรู้ว่าเลยจริงๆว่าการเล่นฟุตบอลของคุณจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ผมเคยสัมผัสประสบการณ์ที่ว่านั่นกับตัวเองมาแล้วว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น เพราะงั้นคุณจะต้องทำแต่ละวันของปัจจุบันไปเรื่อยๆแล้วดูว่ามันเป็นยังไงบ้าง แต่ยังไงก็ตาม ผมรู้สึกดีมากๆที่ได้มาอยู่ที่นี่ เพราะงั้นเดี๋ยวดูกันอีกทีว่าอนาคตจะเป็นยังไง"
คุณพูดถึงเป้าหมายของคุณที่ยูไนเต็ด แล้วกับทีมชาติเป็นยังไงบ้าง มันคือปีทองของทีมชาติเดนมาร์กเลยใช่ไหม?
"ใช่ นับตั้งแต่ผมเข้ากระบวนการพักฟื้นฟูตัวเองเมื่อปีก่อน จุดมุ่งหมายและความฝันของผมชัดเจนมากๆ นั่นก็คือการคัมแบ็คกลับมาลงเล่นให้ได้ และติดทีมชาติไปฟุตบอลโลกถ้าทำสำเร็จ และตอนนี้สุดท้ายผมก็กลับมา และพุ่งเป้าไปฟุตบอลโลกด้วย มันเป็นอะไรที่ดีมากจริงๆ"
"ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่เราทุกคนต่างก็ฝันถึงการจะได้เล่นฟุตบอลโลกเหมือนกัน ผมเคยมีประสบการณ์มาแล้ว ซึ่งมันเป็นอะไรที่จะจำติดตัวคุณไปตลอดกาล แต่ตอนนี้ผมจะได้ไปบอลโลกกับเดนมาร์กอีกครั้ง มันพิเศษมากจริงๆ"
นักเตะยูไนเต็ดในทีมเราที่นี่จะสามารถคาดหวังอะไรจากคุณได้บ้างในยามที่ร่วมเล่นด้วยกัน ทั้งในห้องแต่งตัว ในสนาม คุณเป็นคนสไตล์ยังไง?
"เอิ่มมมม เดี๋ยวพวกเขาก็รู้แหละ หยอกๆ ผมเป็นคนที่เข้าถึงได้ง่ายๆนะ ผมชอบเล่นฟุตบอล ผมชอบทำอะไรสนุกๆฮาๆในสนาม ผมมีส่วนร่วมกับคนอื่นๆและก็พยายามช่วยเหลือทุกๆคนได้ถ้ามีใครต้องการ ผมก็ช่วยเต็มที่ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งของทีม"
แล้วนอกสนามล่ะ คริสเตียน อีริคเซ่น เวลาที่ไม่ได้เตะบอล เขาเป็นยังไงบ้าง?
"ผมรักครอบครัว อยากจะดูแลครอบครัวดีๆ โดยเฉพาะการให้เวลากับพวกเขาให้มากที่สุด จะคอยอยู่กับพวกเขาเสมอ นอกจากนั้นบางเวลาผมก็จะไปโฟกัสกับฟุตบอลบ้างในช่วงเวลาที่เหลือ เพราะเป็นสิ่งที่ผมตั้งใจจะแสดงผลงานให้ได้เห็นว่าผมเล่นอะไรได้บ้าง ผมต้องการจะเป็นแบบไหน และผมชอบทำยังไงบ้าง แต่ด้านอื่นๆ ผมก็เป็นคนสบายๆนะ"
คุณพูดถึงครอบครัวด้วย ภาคภูมิใจขนาดไหนเวลาที่คุณเห็นลูกๆมาเชียร์บนอัฒจันทร์?
"โอ้ยยย มากมากกกก พวกเขายังเล็กอยู่อะนะ ผมคิดว่าคนโตเริ่มเข้าใจฟุตบอลมากขึ้นทีละนิดๆแล้ว แต่เจ้าตัวเล็กเพิ่งจะขวบกว่าเอง มันจึงมีบรรยากาศหลายๆแบบอยู่ในบ้าน ในอนาคตมันจะดีมากยามที่พวกเขาโตขึ้นมาแล้วเห็นว่าพ่อเค้าเป็นนักฟุตบอลที่เคยลงเล่นให้สโมสรต่างๆที่เคยอยู่"
สมัยเด็กๆคุณมีนักเตะที่เป็นฮีโร่ในใจไหม?
"มีครับ มีอยู่บ้าง ผมชอบ ฟรานเชสโก้ ต็อตติ เพราะว่าตอนสมัยเด็กๆผมเล่น Football Manager บ่อยมากๆ ตอนนั้นผมชอบคุมโรม่านะ! นอกจากต็อตติก็มี ไมเคิล เลาดรู๊ป ในฐานะชาวเดนส์ ก็คงจะเลือกเลาดรู๊ป แต่ผมไม่ค่อยมีไอดอลมากมายสักเท่าไหร่ ผมชอบจะลงไปเล่นในสไตล์ตัวเอง เป็นตัวของตัวเองมากกว่า"
เกมแรกในลีกวันที่ 7 สิงหาคมที่เจอไบรท์ตัน ตื่นเต้นไหมที่จะได้ใส่เสื้อแดงต่อหน้าแฟนบอลในสนามเหย้าของเรา?
"มันจะตื่นเต้นมากจริงๆ และก็หวังว่าจะเริ่มต้นการเป็นนักเตะของผมกับยูไนเต็ดได้ดี มันเป็นสถานที่ที่เพอร์เฟ็คต์มากที่จะได้เล่นฟุตบอลที่โอลด์แทรฟฟอร์ด"
ทั้งหมดนี้คือคำให้สัมภาษณ์ฉบับเต็มครั้งแรกของนักเตะใหม่ของเราอย่าง Christian Eriksen ที่อาจจะได้ปรากฏตัวเป็นครั้งแรกในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ไม่ว่าจะกับเกมเจอแอตเลติโก มาดริดที่กรุงออสโล วันเสาร์ก็ตาม หรือกับ ราโย่ บาเญกาโน่ ในวันอาทิตย์ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด
แต่ที่แน่ๆ ในเกมปิดที่เตะกับ Wrexham ทีมนอกลีกที่มี Deadpool เป็นหนึ่งในเจ้าของ (ไรอัน เรย์โนลด์) ที่เพิ่งเตะจบไปหมาดๆเมื่อสักครู่นี้ด้วยสกอร์ 4-1 นั้น คริสเตียน อีริคเซ่น ลงสนามเกมแรกก็ยิงประตูได้ทันทีจาก "ฟรีคิก" ที่เป็นอาวุธทรงพลังของแกที่ไม่เคยทื่อลงเลย นับวันมีแต่จะเก๋าเกมขึ้นเรื่อยๆ
และอีกสามประตูจาก การ์นาโช่ อามัด และ อเล็กซ์ เริ่มต้นการลงสนามเคาะสนิมครั้งแรกให้กับทีมได้เป็นอย่างดี พร้อมด้วยการเรียกความฟิตจากนักเตะในทีมเราหลายๆคนที่เพิ่งหายเจ็บกลับมา เช่น "จิมมี่" เจมส์ การ์เนอร์ ที่ทำผลงานได้ดี รวมถึง ราฟาเอล วาราน ที่ได้ยืน CBตัวขวา ที่จับคู่กับ ลิซ่า ลิซานโดร มาร์ติเนซ ที่ยืนเซ็นเตอร์แบ็คฝั่งซ้ายในเกมนี้ด้วย
การเลือกแมนยูไนเต็ดของอีริคเซ่น เป็นสิ่งที่น่าดีใจที่สุดของตลาดซัมเมอร์นี้ ไม่ใช่เพียงแค่เพราะว่า ดีลนี้เป็นดีลเซ็นฟรีที่ไม่เสียเงินแม้แต่เพนนีเดียว
แต่การที่นักเตะ "เลือก" ทีมที่อยู่ในดินแดนถิ่นที่สภาพอากาศไม่ค่อยสะดวกสบายต่อการอยู่อาศัย และเมื่อเทียบกับเมือง แน่นอนว่า อีริคเซ่นที่เคยอยู่ในลอนดอนมานานแสนนาน ย่อมที่จะคุ้นเคยและอยากอยู่เมืองหลวงต่ออยู่แล้ว ถ้าเป็นไปได้ ยิ่งกับคนอย่างเขาที่ "ครอบครัวสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง"
คิดเอาเองแล้วกันครับว่า คริสเตียน ให้ความสำคัญกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมากขนาดไหน ถึงตัดสินใจสำคัญในครั้งนี้ ที่จะมาร่วมทางกับเราไปอีกถึงสามปีข้างหน้า ซึ่งมันคือชีวิตและครอบครัวของเขาด้วยที่ต้องย้ายถิ่นฐานมาที่นี่
ใจโคตรได้ยังไม่พอ รับรองว่าเดี๋ยวแฟนผีจะได้ยลฝีตีนระดับ "World Class" ของแกแน่ๆ
ชื่อของ CHRISTIAN ERIKSEN จะเข้าไปอยู่ในใจแฟนผีได้อย่างรวดเร็วแน่นอนในไม่ช้านี้
-ศาลาผี-
Reference
