วิทเวลรายงานว่า เอริคตัดสินใจที่จะอนุญาตให้การ์เนอร์ย้ายทีมได้ ถ้ามีข้อเสนอที่เหมาะสมเข้ามาแก่มิดฟิลด์วัย 21 ปีรายนี้ (ซึ่งมีแน่นอน นักเตะอนาคตไกลแบบนี้)

แหล่งข่าวบอกว่ายูไนเต็ดตั้งราคาที่จะปล่อยเขาไว้ราวๆ "14ล้านปอนด์" (16.5ล้านยูโร)

หลังจากที่ยืมตัวประสบความสำเร็จอย่างมากกับน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เมื่อปีก่อนๆ รวมถึงเดินทางไปปรีซีซั่นกับทีมด้วย แต่มีอาการบาดเจ็บ จึงได้ลงเล่นเกมท้ายๆ ทำให้ทุกฝ่ายมองว่า การ์เนอร์อาจจะได้รับการผลักดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในซีซั่นนี้

แต่เนื่องด้วยอาการบาดเจ็บในเวลาดังกล่าว รวมถึงเป็นตัวสำรองที่ไม่ถูกใช้เลย ทั้งในเกมกับไบรท์ตัน และ เบรนท์ฟอร์ด คนที่ยังพอจะได้โอกาสลงสนามเป็นสำรองบ้างก็คือ ดอนนี่ ฟานเดอเบค นั่นเอง

ตอนนี้ยูไนเต็ดกำลังอยู่ในช่วงที่ต้องการเสริมมิดฟิลด์เข้าทีมอยู่ และคุยดีล อาเดรียน ราบิโอต์ ที่จะซื้อดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศสวัย 27ปี มาจากยูเว่ในราคาราวๆ 17ล้านปอนด์ ที่ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเจรจาเรื่องเงื่อนไขส่วนตัวอยู่

การ์เนอร์อยู่กับอะคาเดมี่แมนยูไนเต็ดมาตั้งแต่ปี 2009 ลงเล่นไป 41 เกมช่วยพาฟอเรสต์กลับสู่พรีเมียร์ลีกในซีซั่นที่แล้ว และแน่นอนว่า จะปล่อยยืมกลับไปฟอเรสต์อีกครั้งก็ไม่ได้ เพราะว่าทีมปล่อย ดีน เฮนเดอร์สัน ไปให้กับทีมเจ้าป่ายืมตัวไปแล้ว

ทางเดียวที่ฟอเรสต์จะได้ตัวการ์เนอร์กลับไป คือการซื้อขายเท่านั้น ถ้าต้องการตัวซีซั่นนี้เลย แต่หนทางของฟอเรสต์ก็ไม่ง่าย เพราะแมวมองทีมอื่นๆก็เห็นฟอร์มของการ์เนอร์เหมือนกัน

และมีรายงานว่า ทีมที่สนใจตัวจิมมี่ มีทั้ง Everton, Southampton รวมถึง "Leeds United" ด้วยที่สนใจในตัวเขา (เพิ่งเสียคาลวิน ฟิลลิปส์ไปพอดี) แม้แต่ Tottenham Hotspur ก็จับตาดูเขาเช่นกัน ถ้าจะมีการย้ายทีมจะเกิดขึ้นได้ ก็คงจะต้องเป็นข้อเสนอที่เหมาะสมแก่นักเตะ กับสโมสรที่ใช่เท่านั้น

นักเตะคนอื่นๆที่เป็นเป้าหมายของสโมสรในยุโรป ยังมี เอริค ไบญี่ ที่มีการเจรจาอยู่กับหลายๆสโมสรอย่าง เวสต์แฮม มาร์กเซย์ และ โมนาโก ซึ่งดีลการขายขาด เป็นไปได้พอๆกับดีลยืมตัว แต่ค่าเหนื่อยของไบญี่ก็อาจจะเป็นอุปสรรคเล็กน้อย ทางเราก็ต้องการจะปล่อยตัวถาวรให้ได้ก่อนถึงวันเดดไลน์ตลาดนักเตะเช่นกัน

Laurie Whitwell

ทั้งหมดนี้คือบทความที่แปลมาจากรายงานฉบับเต็มของวิทเวล เพื่อให้เห็นแง่มุมทุกๆสิ่งที่เขาเล่าข่าวมาให้ครบถ้วน เพื่อให้คนอ่านสามารถใช้วิจารณญาณกันต่อเองได้ เรื่องนี้ผมเห็นข่าวที่ส่งต่อกันอย่างรวดเร็วทันทีที่มีรายงานนี้ออกมา ทั้งจากเพจต่างๆ  รวมถึงหลังไมค์ หลังบ้านที่ร้อนฉ่า มากันเพียบในinboxของเพจศาลาผี (ฮา)

ล่าสุดโรมาโน่ก็เสริมเพิ่มเติมให้ ในทิศทางเดียวกับวิทเวลว่า การ์เนอร์มีโอกาสย้ายในไม่กี่วันข้างหน้านี้ กับ 3หรือ4ทีมระดับพรีเมียร์ลีกที่ต้องการตัวเขาอยู่ แต่กับท็อตแน่มดูไม่น่าเป็นไปได้ ซึ่งตอนนี้เอเย่นต์ของเขาอย่าง Kenneth Shepherd และ Steven Beck ก็กำลังเจรจาอยู่

ดูทรงสงสัยจะเรียบร้อยในไม่กี่วัน

เรื่องการ์เนอร์ คือหนึ่งในเรื่องที่แฟนเพจรีบมาถาม แล้วผมต้องตอบว่า "เรื่องจริง" (ปกติมีแต่ข่าวที่มาจากtierต่ำๆทั้งนั้นที่ทำให้แฟนบอลตกใจกัน แล้วต้องคอยปฏิเสธข่าวให้คนอ่านตลอด)

แต่พอผมเลื่อนลงมาดูว่า Laurie Whitwell เป็นคนเขียน ก็เถียงอะไรไม่ออก

หลังจากที่ดูเนื้อข่าวทั้งหมดแล้ว สิ่งที่เราจะพูดได้ในกรณีข่าวนี้ของเจมส์ การเนอร์คือ ส่วนตัวค่อนข้างอึ้ง และเสียดายมากถ้าจะต้อง "ขายขาด" นักเตะที่มีแววจะพัฒนาต่อได้อีกเยอะมากในอนาคต

potential ที่จะเก่งขึ้นกว่านี้สำหรับจิมมี่ มีสูงมากในสายตาผม ด้วยทัศนคติของนักเตะ / องค์ประกอบที่เป็นส่วนช่วยเขา ทั้งสภาพร่างกายที่ดีมาก และ "โอกาส" ที่น้องโคตรโชคดีได้ย้ายไปอยู่ฟอเรสต์ ซึ่งถูกทีม และได้โอกาสลงตัวจริงยาวๆมาสองซีซั่นแล้ว

อย่างที่ผมเขียนบอกบ่อยๆครับว่า โอกาส สำคัญมากๆสำหรับนักบอลคนนึงว่าจะเกิดหรือไม่เกิด จิมมี่ได้โอกาสนั้นไปแล้ว ทำให้เส้นทางนักฟุตบอลของเขาค่อนข้างสดใสมากๆ

ไม่แปลกใจอะไรเลย ถ้าทีมระดับพรีเมียร์ลีกจะสนใจเขา เพราะนักเตะหลายคนของฟอเรสต์ มีศักยภาพดีพอ พวกเขาถึงได้เลื่อนชั้นได้ นักเตะอย่าง เจด สเปนซ์ ก็ไปท็อตแน่มแล้ว ส่วน เบรนแนน จอห์นสัน ก็รอวันย้ายไปเจิดจรัสทีมอื่นในอนาคตแน่นอน โคตรเก่ง

จิมมี่ก็เช่นกัน

สิ่งที่วิทเวลบอกมา คือสองประเด็นสำคัญๆคือ

1. เอริค พร้อมปล่อย จิมมี่ แบบขายขาด ถ้ามีข้อเสนอที่เหมาะสมเข้ามาซื้อตัวเขา

ประเด็นนี้ผมคาใจเล็กน้อยตรงที่ว่า ทำไมถึงมีข่าวว่าพร้อมจะปล่อยตัวถาวร ทั้งๆที่นักเตะอายุยังน้อย และยังจะพัฒนาได้อีกเยอะ ก็น่าจะแค่ปล่อยยืมตัวไป เพื่อให้โอกาสพัฒนาฝีเท้าก่อน

คิดง่ายๆว่า ถ้าสมมติ เทน ฮาก มองว่าจิมมี่ ยังไม่พร้อมในตอนนี้ ก็แค่ปล่อยยืมตัวไปก็ได้แล้วไม่ใช่หรือ? ดังนั้นข่าวการปล่อยยืม จึงน่าจะmake sense มากกว่าสำหรับการพัฒนาทีมระยะยาว

เมื่อเป็นเช่นนี้ ทำให้ผมต้องคิดต่ออีกสองประเด็นว่า "เพราะอะไร" ทำไมถึงมีข่าวว่าเราพร้อมจะปล่อยนักเตะรายนี้

และอาจจะเป็นไปได้ว่า

1.1 จิมมี่บอกและแสดงความต้องการกับสโมสรเองว่าเขาพร้อมย้าย เพราะต้องการลงเล่น เขาอยากลงสนาม กับ "โอกาส" ที่จะเป็นตัวจริงต่อเนื่อง ไม่อยากนั่งสำรองตูดด้าน

เพราะยังไง ผจก ก็ซื้อมิดฟิลด์ตัวใหม่ที่พร้อมใช้มาเข้าทีมแน่นอนอยู่แล้ว เพื่อเป็นตัวเลือกแรกๆ

ผมเป็นจิมมี่ ผมก็มองเห็นในข้อนี้ครับว่า ตัวเองไม่ได้ลงแน่นอนปีนี้

เพราะงั้น ก็เหลือแค่มุมมองว่า จะออกไปยืมตัวเหมือนเดิมที่ผ่านๆมาไหม

หรือถ้า จิมมี่ อยากจะย้ายออกถาวรด้วยตัวเอง ก็อย่าโกรธน้อง เพราะผมคิดว่า ถ้าเป็นงั้น คงจะเป็น "มุมมอง" ของเจมส์ การ์เนอร์เองว่า เขาต้องการจะก้าวหน้าในชีวิต และมีเส้นทางที่ชัดเจนในอาชีพตัวเอง

ไม่ใช่ดาวรุ่งที่ถูกปล่อยยืมปีละครั้งแบบนี้ไปเรื่อยๆแบบไม่มีอนาคตว่าตัวเองจะได้ลงตัวจริงแมนยูเมื่อไหร่

ถ้าเป็นมุมมองเรื่องนี้ แล้วจิมมี่อยากย้ายสโมสรถาวร ผมก็โอเคและเห็นด้วยกับน้องว่า มันเป็นไปได้ ถ้านักเตะอยากจะย้ายขาด ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แม้จะเป็นลูกหม้อก็ตาม

นักเตะเยาวชนเรา หลายๆคนอยากเล่นให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดแน่นอนอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ "เลือก" จะอยู่ไปเรื่อยๆบนความไม่แน่นอน หลายคนก็ตัดสินใจแบบเด็ดขาด ย้ายทีมเลย แม้ว่าจะยังมีโอกาสโตที่นี่ แต่เขาเลือกทางที่ชัวร์กว่า

ยกตัวอย่างง่ายๆ Josh Harrop นักเตะดาวรุ่งตัวรุกของเรา ที่เป็นคนยิงประตูในนัดเดบิวต์ของเขา ที่ได้โอกาสลงในเกมพรีเมียร์ลีกนัดสุดท้ายของปี 2017 แฟนบอลก็ตื่นเต้น และจับตามองเจ้าหนูคนนี้ที่น้ามูเลือกให้โอกาสลงสนาม

แต่ในซัมเมอร์นั้นเลย น้องแอร์ดรอป Josh Harrop ก็เลือกที่จะย้ายออกจากแมนยูไนเต็ด ไปอยู่กับ เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ ทีมในดิวิชั่นที่ต่ำกว่า เพื่อจะได้โอกาสลงสนาม และก็อยู่กับเปรสตันจนถึงปัจจุบันในวัย 26 ปี( ยังมีสัญญากับเปรสตันอยู่ แต่สองปีหลังเขาออกไปยืมตัวกับทีมอื่น)

สรุป : ถ้าเป็นความต้องการจะไปหาอนาคตให้ชัดเจนสำหรับตัวเองของจิมมี่ ผมยินดี และเข้าใจได้ว่าทำไมถึงอยากย้าย

1.2 มันแปลกที่เราจะตัดสินใจปล่อยนักเตะที่ประคบประหงม และสร้างมาอย่างดีจนถึงจุดที่ใกล้จะพีคสู่การใช้งานจริงได้แล้ว แต่กลับเลือกที่จะ "ขาย" มันแปลกมาก

ถ้าเป็นมุมมองของ เอริค ว่า การ์เนอร์ยังไม่ดีพอ หรือ การเล่นของเขายังไม่แมตช์กับระบบที่เอริคต้องการ ก็พอจะทำใจได้

แต่ถามว่า ตัวที่เก็บอยู่ มันแมตช์แล้วยังงั้นหรือ? โดยเฉพาะในรายที่เราจำเป็นต้องเปรียบเทียบจริงๆอย่าง สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ นักเตะมิดฟิลด์ที่เป็นตัว Box-to-Box เหมือนจิมมี่ แต่ดูทรงฝีเท้าและความฉลาดในการเล่น ประโยชน์กับทีม

จิมมี่เหนือกว่าน้องแม็คหลายขุม ดูดีมีอนาคตกว่ามาก

ถ้าเอริค จะพิจารณาในเรื่องที่ว่า จิมมี่ยังไม่ดีพอ ไม่แมตช์กับระบบ แล้วทำไมแม็คโทมิเนย์ถึงยังรอด และได้ลงสนามอยู่ จนทำให้การเล่นของทีมห่วยมากอย่างที่เราเห็นว่า แพ้คู่แข่งอย่างพวกไบรท์ตัน เบรนท์ฟอร์ด แบบหมดรูป

ไม่ต้องคิดว่าเจอซิตี้ ลิเวอร์พูลจะเป็นยังไง ถ้ายังส่งนักเตะที่ไร้ใจ ไร้ฝีเท้า ไร้ความทุ่มเทแบบนี้ลงเป็นตัวจริงแบบเดิมๆซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่ใช่แค่แม็ค ทั้ง เฟร็ด แรชฟอร์ด ชอว์ รวมถึงตัวฟอร์มดรอปอย่าง บรูโน่ ดาโลต์

มันมีข่าวว่า เอริค ปีนี้อยากจะลองให้โอกาสตัวเดิมที่มีอยู่ของทีม ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรไป แต่ดูเหมือนว่ากระบวนการลองของเอริค น่าจะทำเยอะมากไม่ได้แล้ว เพราะตัวที่ลองให้เล่น มันไม่ไหวจริงๆ แกอาจจะต้องรีบเสริมทีมให้เร็วกว่าเดิม เยอะกว่าเดิม

เชื่อว่าตอนแรก เอริคคิดว่านักเตะที่มี มันพอไหว แต่พอถึงสังเวียนจริง คงเห็นแล้วว่ามันไม่ไหวจริงๆ ซึ่งก็สมควรโดนลงโทษอยู่แล้ว (แค่วันซ้อมพิเศษโดนสั่งวิ่ง 13k มันไม่ได้เยอะเว่อร์อะไรขนาดนั้น แค่นี้ยังลงโทษน้อยไปด้วยซ้ำสำหรับ performanceแย่ๆในสนามที่ทำให้แมนยูไนเต็ดไม่เหลือสภาพแบบที่เห็น)

เราเข้าใจดี ว่าทำไม เอริค เทน ฮาก ถึงต้องการจะซื้อนักเตะที่มีฝีเท้า "พร้อมใช้" เข้ามาเลย แบบไม่ต้องลุ้นกับการ์เนอร์ เพราะสถานการณ์ของแมนยูไนเต็ดมันค่อนข้างอันตราย อย่างน้อยถ้าจะปั้นทีม ก็ควรต้องมีคนที่มาพยุงทีมได้ชัวร์ๆก่อน เพราะงั้นมิดฟิลด์ฝีเท้ารับประกันได้ อย่างน้อยๆควรจะต้องเข้ามาเป็นตัวจริงสักสองคน

อันนี้ผมเข้าใจเอริคได้ ไม่ว่ากันถ้าจะยังไม่ใช้การ์เนอร์ในปีนี้

สิ่งที่เราต้องการจะพูด และสงสัยก็คือ ถ้าเอริค จะให้โอกาสนักเตะในทีม ทำไมไม่ให้โอกาสการ์เนอร์ลงสนาม? เป็นสำรองที่ไม่ได้ใช้เลย ข้อนี้แปลกใจมาก ยามที่นักเตะอย่างแม็ค เฟร็ด ได้ลงครบทุกนัด จะตัวจริง จะสำรองก็ตาม ทั้งที่แฟนผีก็เห็นว่า การ์เนอร์อาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ

ประเด็นข้อ 1.2 นี่น่ากังขาสุดๆว่า ทำไมมุมมองจากฝั่งของ ผจก และทีมงาน ถึงพิจารณาว่า พร้อมขายขาดการ์เนอร์ ทั้งๆที่เด็กยังโตได้ และยังไม่ได้รับโอกาสเลย

2. ราคาค่าตัวอยู่ราวๆ 14-15 ล้านปอนด์

ราคานี้ ถามว่าถูกไปไหม? เคสนี้มองในมุมเดียวกันกับที่ แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ มีข่าวว่า ไบรท์ตัน จะสอยไปแทนคูคูเรญ่า ในราคาราว 15 ล้านปอนด์ ซึ่งส่วนตัวของผม ก็มองว่าสมเหตุสมผลกับฝีเท้าของแบรนดอน

แต่กับจิมมี่ มันไม่ใช่

เนื่องจาก potential จะเติบโตในอนาคตของจิมมี่ กับ แบรนดอน ดูจะต่างกันพอควร ดังนั้นอย่างน้อยๆ ถ้าจะขาย "อนาคต" ของทีมจริง ราคาควรจะ 30 ล้านปอนด์เป็นอย่างต่ำ ในเรทเดียวกันกับที่นักเตะอายุน้อยฝีเท้าดี ที่เขาจะปล่อยตัวกัน

แมนยูไนเต็ดถ้าขายในราคาแค่แถวๆ 15 ล้านปอนด์จริง คือโคตรไม่คุ้ม และตัดสินใจผิดมากๆ เรื่องราคา ภาวนาขอให้อย่าขายราคานี้เลย

ฉลาดประเมินหน่อยก็ดี เพราะสัญญานักเตะก็ยังเหลืออยู่ถึงปี 2024 อัพราคาได้อีกเยอะถ้าจะขายจริงๆ ราคา 15ล้านผมโคตรไม่เห็นด้วยอย่างแรงมากๆ

ในตอนนี้ก็ถือว่า มีข่าวรายงานมาประมาณนี้ ก็ถือว่าค่อนข้างสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดการขายขาดนักเตะกันจริงๆ เพราะแต่ละสโมสรก็เล็งน้องกันเอาไว้ทั้งนั้น ทุกที่รู้ดีว่า เขาอยู่แมนยู ยังไงก็ไม่ได้ลง ถ้าผมเป็นฟอเรสต์ ผมจะทุ่มเงินเลย 20-25 ล้านปอนด์ ซื้ออนาคตนักเตะที่เหมาะกับสโมสรเข้ามาแบบยาวๆ ยังไงก็คุ้ม ชื่อเสียงก็มี

แถมสัญชาติอังกฤษอีก สองเด้งฮะ

ผมเชื่อว่าหลายๆคนคงรู้สึกแย่ และมองประเด็นนี้คล้ายๆกันในแง่ที่ว่า ทีมเลือกปล่อยตัวที่ดีกว่า อย่าง เจมส์ การ์เนอร์ ออกไป แต่กลับให้โอกาส และเก็บนักเตะที่ควรปล่อยขาย อย่างแม็คโทมิเนย์ ที่ฝีเท้าไม่ดีพอ เรื่องนี้เราเข้าใจความรู้สึกแฟนผีดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับเคสของ เจมส์ การ์เนอร์ "ศาลาผี" เป็นคนนึงที่ตามดูรีวิวดูพัฒนาการ เช็คฟอร์มนักเตะรายนี้อยู่เรื่อยๆมาหลายปีแล้วตั้งแต่ยังไม่มีชื่อเสียง

พออยู่ดีๆมาเจอข่าวว่าทีมพร้อมขายขาดการ์เนอร์ ทั้งๆที่อายุแค่ 21 ยังเก่งได้อีกเยอะ และเขายังไม่ได้โอกาสพิสูจน์ตัวเองที่นี่เลย มันเจ็บปวดมากๆ

ก็ได้แต่หวังว่า ข่าวที่รายงานมาเบื้องต้น หวังว่าจะเป็นไปในทิศทางที่ว่า "สโมสรปล่อยตัวการ์เนอร์ออกไปยืมตัว" เพื่อให้น้องได้โอกาสลงเล่น มากกว่าที่จะขายทิ้งไปเลย

ยืมตัวแบบ straight loan ไม่มีแนบเงื่อนไขขายขาดเท่านั้น ถึงจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดของเจมส์ การ์เนอร์

เพื่อให้น้องได้โอกาสลงสนามต่อเนื่อง กับช่วงอายุที่กำลังเร่งฝีเท้าให้เก่งขึ้นได้จากการลงสนาม ดีกว่าเก็บไว้ดองที่นี่ ซึ่งยังไงเทน ฮาก คงให้ตัวที่มีประสบการณ์ลงสนามก่อนแน่ๆ

แต่อย่าลืมว่า "ประสบการณ์" กับฟุตบอลอังกฤษของการ์เนอร์ มีเยอะกว่านักเตะหลายตัวที่จะนำเข้ามาซะด้วยซ้ำ เพราะน้องคือนักเตะอังกฤษที่อยู่ในระบบ และลงเล่นเกมจริงของลีกอังกฤษมาแล้วเยอะแยะกับหลายๆทีม ทั้งฟอเรสต์ รวมถึงวัตฟอร์ดด้วยเช่นกันที่ได้รับประสบการณ์ความล้มเหลวมาครั้งนึงแล้วจากการที่ถูกใช้งานไม่ตรงกับจุดเด่นที่เขามี ก่อนจะไปแจ้งเกิดกับฟอเรสต์ในครึ่งฤดูกาลหลังของสองซีซั่นก่อน

ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีแค่รายงานมาว่าพร้อมปล่อย เพราะฉะนั้น ก็หวังว่าสิ่งที่เกิดขึ้น จะเป็นดีลยืมตัว และ เอริค กับทีมงานแมวมอง ทีมงานสตาฟฟ์โค้ชที่พัฒนานักเตะ จะเล็งเห็นว่า เด็กคนนี้มีดีกว่าที่จะรีบร้อนขายขาดอะไรขนาดนั้น

มีนักเตะเยาวชนแมนยูไนเต็ดจำนวนมากที่ไม่เคยได้ลงสนามเกมจริงให้กับสโมสรเราเลยแม้แต่นัดเดียว มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรขนาดนั้นที่เด็กปั้นเราจะขึ้นสู่ทีมไม่ไหว อันนี้เข้าใจ

ไม่ใช่ว่าเราจะมาเขียนเพราะเลือกโอ๋การ์เนอร์อย่างเดียว เราเข้าใจวิถีนักเตะดี

มันแค่เสียดายคุณภาพฝีเท้าที่พัฒนาได้ กับการมีเพชรน้ำงามในมือที่น่าจะเจียระไนต่อ แต่ดันจะออกไปในราคาถูกๆทั้งที่ยังเจียไม่เสร็จ มันไม่น่าจะคุ้มสักเท่าไหร่

หวังว่าการ์เนอร์จะได้อยู่เป็นส่วนหนึ่งของอนาคตแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่ต้องสู้กันไปอีกยาวไกลครับ

-ศาลาผี-