หากย้อนกลับไปดูความสำเร็จของทีมที่คว้าแชมป์ใบนี้มากที่สุด ลิเวอร์พูล คือทีมที่กวาดไปถึง 8 ครั้ง แต่ก็ห่างหายไปนานนับตั้งแต่ฤดูกาล 2011-12 ตามด้วย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แอสตัน วิลล่า และ เชลซี ทีมละ 5 ครั้ง

แล้วคู่ชิงชนะเลิศปีนี้ละ?

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชูถ้วยใบนี้ไปแล้ว 4 ครั้ง จากการเข้าชิงเพียง 5 ครั้ง ขณะที่ อาร์เซน่อล เพิ่งหยิบแชมป์เพียง 2 ครั้ง จากการเข้าชิงมากถึง 7 ครั้ง

ในอดีต รายการนี้ถูกบรรดาผู้จัดการทีมหลายต่อหลายคนใช้เป็นเกมทดสอบดาวรุ่ง หากทีมไหนปั้นไม่ขึ้น หรือแจ้งไม่เกิด ก็กอดคอตกรอบกันไปแบบไม่ต้องเสียดายอะไรทั้งสิ้น

แต่ในช่วงหลายปีหลัง ผู้จัดการทีมยุคปัจจุบันถูกเชิญตัวไปปรับทัศนคติเสียใหม่ ทำให้จัดทีมแบบเอาจริงเอาจังมากขึ้น จากที่เคยส่งเด็กลงทั้งทีม ตอนนี้ก็ปรับมาเหลือแค่ 3-4 คน หรือบางที ขนชุดแกร่งลงเล่นเลยด้วยซ้ำ

เหตุผลง่ายๆ พอมีสโมสรที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้น การลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก หรือพื้นที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ยากขึ้นตาม ความสำเร็จที่พอหวังพึ่งได้ก็คือถ้วย ลีก คัพ นี่แหละ

ในรอบ 13 ปีที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กวาดถ้วยนี้ไปถึง 4 ครั้ง ล่าสุดก็คือซีซั่นที่แล้ว เชลซี สอยไป 3 ครั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อีก 2 ครั้ง และยังมีของ ลิเวอร์พูล กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ อีกทีมละครั้ง นั่นแสดงให้เห็นว่า บรรดาทีมใหญ่เอาจริงเอาจังกับถ้วยนี้มากแค่ไหน

สำหรับคู่ชิงชนะเลิศในปีนี้ อาร์เซน่อล มีประสบการณ์ยอดเยี่ยมกับรอบชิงที่ เวมบลีย์ เพราะในช่วง 4 ปีหลัง คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาครองถึง 3 ครั้ง แถมในช่วงต้นฤดูกาล ก็ยังฉลอง คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ด้วย จากการดวลจุดโทษชนะ เชลซี

อาร์แซน เวนเกอร์ ต้องพยายามหยิบจับความสำเร็จให้ได้เอาไว้ก่อน ไม่ว่าจะชิ้นเล็กหรือชิ้นใหญ่ เพราะมีแนวโน้มสูงมากว่าจะพลาดตั๋ว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ต่ออีกในฤดูกาลหน้า

เส้นทางของ เดอะ กันเนอร์ส จึงอาจดูคล้ายๆ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซีซั่นก่อน ที่ทำผลงานเลอะเทอะในพรีเมียร์ลีก จนต้องเน้นคว้าแชมป์ ลีก คัพ ต่อด้วย แชมป์ ยูโรปา ลีก เป็นทางลัดเดียวที่จะพาไปสู่ถ้วยใหญ่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นถัดไป

จากสถานการณ์ในปัจจุบัน อาร์เซน่อล ร่วง เอฟเอ คัพ ไปแล้วตั้งแต่รอบ 3 เพราะ เวนเกอร์ จัดทีมประมาท จนพ่ายหมดรูปต่อ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ทีมจากแชมเปี้ยนชิพ ทำให้เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ปืนใหญ่ ได้พักมาเต็มๆ เพราะไม่มีโปรแกรมเตะ

เวนเกอร์ ก็เลือกจัดทีมเน้นๆ ไปแล้ว ใน ยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดแรก ที่บุกชนะ ออสเตอร์ซุนด์ส 3-0 ทำให้นัดสองสามารถปล่อยดาวรุ่งหรือตัวสำรองลงยืดเส้นยืดสายได้แบบเต็มตัว

นั่นก็หมายความว่า กุนซือชาวฝรั่งเศส จะวางแผนชัดเจนว่าใครจะเป็นสิบเอ็ดตัวจริงที่ เวมบลีย์ วันอาทิตย์ เพราะจะได้พักไปเลยสำหรับเกมรับมือ ออสเตอร์ซุนด์ ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในวันพฤหัสบดี ซึ่งดูแล้วไม่น่ามีเรื่องพลิกล็อกเกิดขึ้น

ย้อนกลับไปดูเส้นทางของ ปืนใหญ่ ในถ้วยนี้ถือว่าโชคดีมากกับการจับสลาก เพราะรอบ 3, 4 และ 5 จับเล่นในรัง เอมิเรตส์ ทั้งหมด แม้ผลงานขี้เหร่ แต่ก็ผ่าน ดอนคาสเตอร์, นอริช และ เวสต์แฮม มาได้ทั้งหมดเช่นกัน มีเหนื่อยหน่อยก็เกมกับ นกขมิ้นเหลืองอ่อน ที่ต้องเล่นถึงต่อเวลา

เวนเกอร์ สลับใช้งานตัวสำรองกับดาวรุ่งแทบจะไม่ซ้ำหน้า ก่อนจะมาเน้นเต็มที่ในรอบรองชนะเลิศ ทั้งสองนัด กับ เชลซี จึงมีแนวโน้มว่า บรรดาตัวหลักจะถูกส่งลงครบในเกมที่ เวมบลีย์ ยกเว้นผู้รักษาประตูที่จะได้เห็นมือ 2 ดาวิด ออสปิน่า ลงเฝ้าเสา เพราะเล่นมา 4 จาก 5 นัดในถ้วยนี้

ข้ามมาดูฝั่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กันบ้าง ประเด็นไม่มีอะไรให้พูดถึงมากนัก เพราะควันหลงยังคงอยู่ที่เกม เอฟเอ คัพ รอบ 5 ที่บุกแพ้ วีแกน แอธเลติก ทีมลีกวัน 0-1 ซึ่งมีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้ง ใบแดงของ ฟาเบียน เดลฟ์, เป๊ป มีปากเสียงกับ พอล คุ๊ก กุนซือคู่แข่ง และ เซร์คิโอ อเกวโร่ มีเรื่องกับแฟนบอลเจ้าถิ่นที่วิ่งกรูลงมาในสนามหลังจบเกม

จะมีเกี่ยวโยงก็ประเด็นใบแดงของ เดลฟ์ ที่ทำให้ เป๊ป ต้องแก้ปัญหาสำหรับเกมที่ เวมบลีย์ วันอาทิตย์นี้ ว่าจะใช้ใครลงเล่น เพราะตอนนี้ก็เหลือแต่แบ็กซ้ายจำเป็น ทั้ง ดานิโล่ แบ็กขวาบราซิล และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ มิดฟิลด์ดาวรุ่งยูเครน

แต่หากมองย้อนกลับไปในรอบก่อนๆ ของถ้วยนี้ ก็มีโอกาสที่ เป๊ป อาจใช้งานทั้งคู่ ส่ง ดานิโล่ ยืนแบ็กขวา และ ซินเชนโก้ ยืนแบ็กซ้าย เพราะตอนนี้ต้องเน้นกับสองใบที่เหลือทั้ง ลีก คัพ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ขณะที่ พรีเมียร์ลีก ไม่น่ามีปัญหาอะไรแล้ว

น่าสนใจตรงที่แนวรุก ดาวซัลโวของ เรือใบสีฟ้า ในถ้วยนี้คือ เลรอย ซาเน่ ปีกซ้ายเยอรมนี ที่ซัลโวไปแล้ว 3 ประตู น่าจะเป็นตัวจริงตามคาด ขณะที่กองหน้าตัวเป้าจะเลือกใช้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ลงตัวจริงหรือไม่ หลังมีเรื่องรบกวนจิตใจมาเมื่อวันจันทร์ เพราะมี กาเบรียล เชซุส กองหน้าบราซิล ที่กลับมาซ้อมเต็มรูปแบบได้ตั้งแต่วันศุกร์แล้ว หรือสัปดาห์เศษๆ ก่อนถึงรอบชิง