:::     :::

5 ประเด็นจากเกมเจ๊า เซบีย่า

วันพฤหัสบดีที่ 22 กุมภาพันธ์ 2561 คอลัมน์ ผีตัวที่ 13 โดย โกสุ่ย
4,099
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ผลงานเกมแรกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายถือว่าไม่น่าเกลียดอะไรมาก กับการบุกยันเสมอ เซบีย่า 0-0

โอกาสจะแจ้งในเกมต้องยกให้เจ้าถิ่นที่มีมากมายเหลือเกินโดยเฉพาะในท้ายครึ่งแรกที่ต้องได้แบบจะแจ้งถึง 2 ครั้ง

แฟนบอล ปิศาจแดง อาจจะหัวเสียกับผลงานที่ออกมา แต่อีกมุมหนึ่งก็อดโล่งใจไม่ได้ เพราะผลเสมอในนัดที่ผ่านมาถือว่าเป็นประโยชน์กับทีม (หากดูจากรูปเกม)

อย่างน้อยๆก็ยังมีเกมที่ 2 ที่จะกลับไปเล่นที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ซึ่งเกมดังกล่าวเป็นโอกาสอันดีที่ลูกทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ จะได้แก้ตัวในการทำผลงานให้แฟนบอลประทับใจ

ส่วนวันนี้ มาดูสิ่งที่เกิดขึ้นจากเกมนัดล่าสุดที่ ราม่อน ซานเชซ ปิซฆวน ...



'เดฟเซฟ' 


เป็นอีกครั้งที่ ดาบิด เด เคอา เป็นคนเซฟแต้มให้กับทีมไม่ต้องตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ โดยเฉพาะนัดที่ผ่านมา นายทวารทีมชาติสเปนได้งัดเอาวิญญาณวานรออกมาให้แฟนบอลได้เห็นอีกครั้ง

ครึ่งแรกนั่นไง กับจังหวะป้องกันลูกโขกจ่อๆของ หลุยส์ มูเรียล หรือจะเป็นการป้องกันจังหวะเข้าทำของ ฮัวกีน กอร์เรอา ที่ได้โอกาสสองครั้งแบบจะแจ้ง

ใครที่ดูแบบสดๆ คงอุทานในใจแล้วว่า 'โดนแล้วกู' แต่ เด เคอา กลับงัดซูเปอร์เซฟปัดป้องเอาไว้ได้หมด

นี่คือการรักษาสิ่งที่เรียกว่า 'คลีน ชีต' เป็นนัดที่ 5 จากการลงสนาม 7 นัดล่าสุดในรายการนี้ของ ดาบิด เด เคอา

หลังจบเกมนัดล่าสุด โชเซ่ มูรินโญ่ ไม่ลืมที่จะออกมาปากชมโดยระบุว่า นี่คือสิ่งที่ เด เคอา เป็น นั่นคือ 'ความยอดเยี่ยม' ที่อยู่ในตัวของนายด่านมือ 1 ปีศาจแดง 

เอาเป็นว่าต้องขอก้มกราบและขอบคุณ เด เคอา ที่งัดฟอร์มเก่งได้ถูกที่ถูกเวลา จนสามารถช่วยให้ทีมไม่เสียประตูในนัดที่ผ่านมา


ผลงานของ แม็คโทมิเนย์


สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ แสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมและพัฒนาการของตนเองออกมาอีกครั้งในเกมล่าสุด

ตอนประกาศรายชื่ออกมาแฟนบอลหลายคนอาจจะแปลกใจที่ดาวเตะวัย 21 ได้ลงสนามเป็นตัวจริงอีกครั้ง ทั้งที่ ปอล ป็อกบา หายจากอาการป่วยและพร้อมกลับมาลงสนาม

แต่การตัดสินใจของ มูรินโญ่ ก็ถูกต้องอีกครั้งเพราะ แม็คโทมิเนย์ ลงสนามพร้อมกับความมั่นใจและทำงานอย่างยอดเยี่ยมในการช่วยแดนกลางของทีม

นอกจากนี้ยังมีโอกาสจบสกอร์ในครึ่งแรกให้แฟนบอลได้ลุ้นอีกด้วย

แน่นอนว่า มูรินโญ่ ไม่ลืมที่จะออกมาชมและให้ความเห็นถึงผลงานดาวเตะวัยละอ่อนรายนี้

"เขาเล่นได้ยอดเยี่ยม ทำทุกสิ่งได้ดี เขากดดัน บาเนก้า ได้ดีและหยุดตัวทำเกมฝ่ายตรงข้ามได้ดี ผมคิดว่าเขายอดเยี่ยมและต้องบอกว่าแผงกองกลางเริ่มต้นได้ดี"

"ผมคิดว่า สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ดูเหมือนคนหนุ่มที่ลงเล่นใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาหลายเกมแล้ว แต่นี่เป็นเพียงนัดที่ 2 ของเขา ดังนั้นผมจึงมีความสุขกับผลงานของเขา"



ปัญหาเรื่องการเข้าทำ


แม้แนวรับจะทำผลงานได้ดีในนัดล่าสุด (แม้จะผิดพลาดบางจังหวะ) แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนเลยคือการเข้าทำของ ปิศาจแดง มีปัญหา

มูรินโญ่ เลือกใช้แนวรุกอย่าง ฆวน มาต้า, โรเมลู ลูกากู และ อเล็กซิส ซานเชซ โดยทั้งสามรายพยายามหาโอกาสในการจบสกอร์ อาจจะมีบางจังหวะที่ทำได้ดี แต่โดยรวมแล้วยังถือว่ากดดัน เซบีย่า ได้น้อยมาก

จังหวะวูบวาบเกิดขึ้น แต่นานๆกว่าจะทำให้แฟนบอลเจ้าถิ่นนั่งไม่ติด นั่นคือปัญหาที่เห็นได้ชัดเจน ถึงการประสานงานในยามที่ทีมต้องเป็นฝ่ายกดดัน

แม้จะเปลี่ยนเอา มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อ็องโตนี่ มารืกซิยาล ลงมาเพื่อเพิ่มความเร็วในแนวรุก แต่สุดท้ายก็ยังหาจังหวะที่ลงตัวหรือสอดประสานที่เข้าตาไม่เจอ

ถือเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เพราะหากเจาะลึกไปที่จำนวนการยิงตรงกรอบจาก 5 นัดหลังสุดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ลงสนาม พบว่ามีเพียง 11 ครั้งเท่านั้น (เฉลี่ยเกมละ 2 ครั้ง)

นั่นคือจำนวนที่น่าเป็นห่วง 

อย่างที่เคยเรียนไป หากดูที่รายชื่อแนวรุกของ ปิศาจแดง ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาและสามารถข่มขวัญคู่แข่งได้เป็นอย่างดี

แต่ปัญหาคือการประสานร่วมกันที่ยังคงแก้ไม่ตก จะทำอย่างไรให้การเข้าทำดูมีประสิทธิภาพ และสามารถกดดันคู่แข่งได้มากกว่านี้

นี่คือปัญหาที่ มูรินโญ่ ต้องคิดให้ออกกับช่วงเวลาที่เหลืออยู่



ปอล ป็อกบา


คนนี้ไม่พูดถึงคงไม่ได้เพราะถือเป็นประเด็นหลักที่สื่อต่างจับจ้องมาตั้งแต่เกมที่แพ้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 

เรื่องราวดังกล่าวถูกลากต่อมาถึงเกม เอฟเอ คัพ รอบ 5 ที่บุกชนะ ฮัดเดอร์สฟิลด์ หลังจากก่อนเกม มูรินโญ่ ระบุว่า ป็อกบา ลงสนามแน่นอน แต่ให้หลังมาไม่ถึง 24 ชั่วโมง กลับมาการยืนยันว่านักเตะ 'ป่วย'

อันนี้ไม่แน่ใจว่าป่วยจริงหรือป่วยการเมือง แต่จากการที่สโมสรยืนยันออกมาเองแบบนี้ก็คงจะมีมูลความจริง เพราะสโสรอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะไม่ยอมลงข่าวด้านลบ หรือบทสัมภาษณ์ที่ทำให้ทีมดูไม่ดี

ด้วยการที่สโมสรออกมายืนยันเองแบบนี้ก็ต้องเชื่อเขาไปก่อนล่ะว่า ป่วยจริง

แต่บรรดาสื่อแดนผู้ดี ก็ยังไม่หยุดคุ้ยและพยายามเล่นประเด็นเกาเหลาระหว่าง มูรินโญ่ และ ป็อกบา

ยิ่งเกมล่าสุดที่ ป็อกบา เป็นเพียงตัวสำรองยิ่งทำให้สื่อหลายเจ้าโยงกันไปมามากมาย บรรดาทฤษฏีสมคบคิดออกมาไม่ขาดสาย อันนี้ก็อยู่ในวิจารณญาณของแฟนบอลแล้วล่ะว่าจะเลือกเชื่อหรือไม่เชื่ออย่างไรกันบ้าง

แต่จากผลงานล่าสุด ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่ ป็อกบา ทำได้ดีพอตัวเลย ดูจากสถิติระบุว่า ป็อกบา มีส่วนร่วมกับเกมมากโดยเฉพาะในแนวรับที่เขาพยายามดึงตนเองลงมาตัดและเชื่อมเกม มากกว่าที่ผ่านๆมา

"ปอล พยายามอย่างหนักในการมอบสิ่งต่างๆให้กับทีม แม้ว่าเขาจะเสียบอลมากไปหน่อย แต่เขาให้สิ่งที่เรียกว่าความยืดหยุ่นให้กับทีม"

"ผมคิดว่า ปอล มีความรับผิดชอบที่ดี ผมมีความสุขกับสิ่งที่เขาแสดงออกมา"

ในช่วงเวลาที่ถูกลือว่าทั้งสองกินเกาเหลา สิ่งที่มูรินโญ่ พูดออกมาอาจจะถูกมองว่ากล้ำกลืนฝืนทนที่จะพูด แต่หากดูจากเกมล่าก็ต้องบอกว่า ป็อกบา ยังคงเต็มที่และพยายามอย่างมากที่จะเป็นพี่ใหญ่และบัญชาการในแดนกลางให้กับทีม



อนาคตของ แรชฟอร์ด และ มาร์กซิยาล


เป็นอีกครั้งที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ต้องตกเป็นตัวสำรองในทีม

แต่นัดที่เจอกับ เซบีย่า ยังพอเข้าใจเพราะนักเตะเพิ่งกลับมาจากอาการบาดเจ็บทำให้สภาพร่างกายอาจจะไม่พร้อมเล่นเต็มเวลา

ทว่า คำถามและข้อสงสัยก็ยังคงอยู่ถึงอนาคตในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ของดาวเตะรายนี้ที่ดูเหมือนว่าจะไม่มีความแน่นอน

ทั้งที่เคยเป็นแกนหลักของฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ฤดูกาลนี้มีแต่สาวะวันเตี้ยลง ส่วนหนึ่งมากจาทัศนคติและผลงานที่ตกลงไปนั่นเอง

มองในแง่ดีด้วยวัยเพียงเท่านี้ ยังเหลือเวลาปรับจูนอีกมากมาย แต่ปัญหาก็อยู่ที่ว่านักเตะยังพร้อมที่จะสู้ต่อกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือไม่

ในยุคที่ข่าวสารไปไวมาไว สิ่งเร้าต่างๆเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะปัจจัยภายนอกจากทั้งนักข่าว, แฟนบอล และ นักวิเคราะห์ มันจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าสิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นตัวกระตุ้นการตัดสินใจของ แรชฟอร์ด

ในราย มาร์กซิยาล ที่ตกมาเป็นตัวเลือกลำดับรองหลังจากการมาของ อเล็กซิส ซานเชซ และยิ่งทีมปรับมาเล่นระบบ 4-3-3 เขายังเป็นตัวเลือกรองของ ฆวน มาต้า

แต่หากวัดกันที่จำนวนการทำประตูและการผ่านบอล ที่เฉลี่ยจากการลงสนามเป็นจำนวนนาทีในฤดูกาลนี้ มาร์กซิยาล ถือว่ายอดเยี่ยม 9 ประตู 4 แอสซิสต์จาก 1,282 นาที ในพรีเมียร์ลีก

นั่นคือสิ่งที่เขามอบให้กับทีม

นอกจากนี้ความเร็วของนักเตะยังคงมีผลอย่างมากและสามารถกดดันคู่แข่งได้เป็นอย่างดี

แต่อยู่ที่ว่าทั้งสองจะมองอนาคตของตนเองกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไว้อย่างไร


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด