กองหน้าทีมชาติสวีเดนทำได้เพียง 6 ประตู จาก 32 นัดในลา ลีกา และอีก 3 ประตูในยูโรปา ลีก
เขากลายเป็นมีมถูกล้อเลียนในโลกโซเชียลอยู่พักใหญ่จากการยิงจุดโทษท่ายากแบบหยุดหลอกหน้าเท้า แต่สุดท้ายผู้ตัดสินก็ไม่ให้ประตู แถมแจกใบเหลืองให้เจ้าตัวอีกด้วยซ้ำ
อีซัค ดูเหมือนจะกลับมาเป็นคนเก่าในสุดสัปดาห์ก่อนย้ายมา นิวคาสเซิ่ล โดยวิ่งทะลุแซง เอริก การ์เซีย กองหลัง บาร์เซโลน่า เข้าไปชิพบอลข้ามตัว มาร์ค-อันเดร แทร์ ชเตเก้น ตุงตาข่าย
บางทีเวทมนต์ของเขาที่กลับมาแล้วอาจเป็นเพราะเขารู้ว่ากำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงชีวิตด้วยการย้ายไปเล่นในพรีเมียร์ลีก ข้อเสนอนั้นของ นิวคาสเซิ่ล ทำให้ทุกคนในห้องแต่งตัวของ เรอัล โซเซียดาด ต้องประหลาดใจ
ทันทีที่มีรายงานข่าวนี้จาก ดิอาริโอ วาสโก้ สื่อในซาน เซบาสเตียน มีข้อความหนึ่งที่เขียนว่า "ตอนนี้ผมกำลังกระโดดด้วยความยินดี มันเป็นการขายที่สุดยอด เราจะได้ไม่ต้องเห็นการสะดุดอย่างต่อเนื่องจากเขาเสียที ไม่ต้องเห็นการจ่ายบอลพลาด และสถิติการทำประตูที่น่าเศร้า" ส่วนอีกคนก็บอกว่า "ข่าวโครตดี ชายคนนี้ชื่อเสียงดีเกินจริง"
แต่ความคิดเห็นทั้งสองนั้นก็อาจเกิดขึ้นพร้อมความตื่นเต้นในทันทีที่สโมสรกำลังจะทำลายสถิติในการซื้อขายจนมีโอกาสเกิดความเข้าใจผิด
ในการพูดคุยกับผู้ที่เฝ้าติดตาม เรอัล โซเซียดาด อย่างเป็นประจำ คำตัดสินที่วัดได้มากกว่าก็คือสโมสรกำลังสูญเสียใครบางคนที่มีศักยภาพมหาศาล ศักยภาพที่อาจมีสะดุดบ้าง แต่ทั้งหมดทั้งสิ้นมันก็ยังเป็นศักยภาพที่เหมือนเดิมนั่นแหละ
อีซัค ใช้เวลา 3 ฤดูกาลที่ เรอัล โซเซียดาด และ 2 ซีซั่นแรกต้องบอกว่าน่าทึ่งมากพอที่จะทำให้เขามีข่าวกับ อาร์เซน่อล รวมถึงความสนใจจากสโมสรอื่นๆ ในพรีเมียร์ลีก
นอกจากนี้ เขายังถูกมองว่าเป็นผู้สืบทอดโดยธรรมชาติของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องของสัญชาติเท่านั้น แต่เขายังมีสิ่งที่คล้ายกันในการผสมผสานระหว่างความปราดเปรียวที่สง่างาม และพลังดิบ
เขาทำได้ถึง 16 ประตู ในฤดูกาลแรก ตอนที่อายุเพียง 19 ปีเท่านั้น และก็ทำได้อีก 17 ลูกในฤดูกาลถัดมา เขาสามารถเล่นทางกราบขวา หรือตรงกลางได้หมด และมีผู้เล่นอายุน้อยเพียงไม่กี่คนในลา ลีกา หรอกที่จะน่าจับตามองมากขนาดนี้
ผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาก็คือเกมโกปา เดล เรย์ ที่ซานติอาโก เบร์นาเบว เมื่อปี 2020 เขาทำได้ 2 ประตู โดยที่ถูกวีเออาร์ปฏิเสธสกอร์ถึง 3 ครั้งจากการล้ำหน้า และก็เป็นคนแอสซิสต์ลูกที่สามบนชัยชนะ 4-3
เมื่อมองจากคืนนั้นจนถึงช่วงซัมเมอร์นี้ คุณไม่ต้องไปคุยกับแฟนบอล เรอัล มาดริด อะไรมากมายหรอกเพื่อหาคนที่ไม่เข้าใจว่าทำไมหลายสโมสรจะไม่อยากได้ตัวเขา
พวกเขาอาจไม่สามารถทำแบบนั้นได้หากไม่ทุ่มถึงขนาดค่าฉีกสัญญา แต่ นิวคาสเซิ่ล มีศักยภาพทางการเงินที่มากขึ้น และพวกเขาก็สามารถจ่ายในราคานั้นได้
สาลิกาดง ต้องการผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีกว่าสถิติ 0.3 ประตูต่อเกมที่เขามีค่าเฉลี่ยในสเปน แต่เขาก็มีพรสวรรค์มากมายในการทำงาน และพรีเมียร์ลีกก็ดูจะเหมาะกับเขา
เขามักจะแสดงความฉลาดที่มากพอในการสร้างเกมรุกที่ เรอัล โซเซียดาด จะได้ประโยชน์
ถ้าเขาพบสิ่งนั้นในถิ่นเซนต์ เจมส์ พาร์ค นิวคาสเซิ่ล ก็จะจบลงด้วยการลงทุนที่คุ้มค่า
