:::     :::

ช้างศึก : อาเซียนคัพ เอายังไง ?

วันพฤหัสบดีที่ 01 กันยายน 2565 คอลัมน์ ฉันดูบอลที่ร้านเหล้า โดย ดากานดา
864
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ผลการจับสลากฟุตบอล อาเซียน คัพ ที่จะได้ฤกษ์เปิดฉากฟัดกันปลายปีนี้ ออกมาเรียบร้อยแล้ว

ทีมชาติไทย ทีมวางสายเอ จะอยู่ร่วมกับ อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, กัมพูชา และผู้ชนะเพลย์ออฟระหว่าง บรูไน หรือ ติมอร์ เลสเต

ส่วนโปรแกรมการแข่งขันรอบแรก 4 นัด จะสลับกันเล่นเหย้า-เยือน ทีมละ 2 นัด ไม่ได้มี “เจ้าภาพ” เหมือนตอนช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา

โดยจะหา 2 ชาติที่ดีสุดในแต่ละสาย เข้าสู่รอบตัดเชือก เพื่อไปแข่ง เหย้า-เยือน อีกครั้งหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม คำถามที่หลายคนอยากรู้ตอนนี้คือ ทีมชาติไทยชุดนี้ภายใต้การคุมทีมของ มาโน โพลกิง และผู้จัดการทีมอย่าง นวลพรรณ ล่ำซำ จะใช้ทีมชุดไหนไปแข่ง

เพราะว่ากันตามตรงหาก “จัดเต็ม” ขนซุป’ตาร์ระดับประเทศไป ศักยภาพทีมชาติไทย ยังไงก็เหนือกว่าชาติอื่น ๆ อยู่แล้ว

แต่อย่าลืมว่าทัวร์นาเมนต์ “อาเซียนคัพ” ไม่ตรงกับปฏิทินฟีฟ่าเดย์




นั่นหมายความว่าอาจมีบางสโมสร เลือกที่จะ “ไม่ปล่อย” นักเตะมารับใช้ทีมชาติ

แม้ช่วงเวลาดังกล่าวจะอยู่ระหว่างพักเลกแรกไทยลีกก็ตาม แต่ “อุบัติเหตุฟุตบอล” เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ไม่มีสโมสรไหนอยากเห็นผู้เล่นตัวเองไปรับใช้ทีมชาติ แล้วบาดเจ็บกลับมา

ที่แน่ ๆ 3 แข้งหลัก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อย่าง ศุภชัย ใจเด็ด, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา และ รัตนากร ใหม่คามิ จะไม่สามารถรับใช้ทีมชาติในรายการนี้ได้อย่างแน่นอนแล้ว แม้จะถูกเรียกติดทีม หลังจาก เนวิน ชิดชอบ พ่อใหญ่แห่งอีสานใต้ ออกมาประกาศแล้วว่า จะส่ง 3 หนุ่ม ไปฝึกซ้อมที่ เลสเตอร์ ซิตี้ ต่ออีก 45 วัน ในช่วงที่ทีมชาติมีการแข่งขัน

ถึงตรงนี้เหลือเวลาราว 3 เดือน มาโน คุณแป้ง และ สมาคมฟุตบอลฯ ต้องรีบสุมหัววางแผนพูดคุยกันแต่เนิ่น ๆ แล้วว่าจะเอาอย่างไรกับ ทีมชาติไทย ชุดนี้




หากถามความเห็นผู้เขียน ยังยืนยันคำเดิมว่า ครั้งนี้ควรให้โอกาส “ดาวรุ่ง” หรือผู้เล่นหน้าใหม่ที่ทำผลงานได้ดีในลีกไปแข่งขัน

เหมือนที่ก่อนหน้านี้ ชนาธิป สรงกระสินธ์ เคยออกมาบอกว่า อยากให้ฟุตบอลรายการนี้ เป็นเวทีของรุ่นน้อง หรือแข้งหน้าใหม่เข้ามาเก็บเลเวลมากกว่า เพื่อเป็นตัวตายตัวแทนในวันที่แข้งซีเนียร์หลายคนอยู่ในวัยใกล้ปลดละวาง

ลองมองไปที่ “ขาประจำ” ทีมชาติไทยเวลานี้

ธีราทร บุญมาทัน ปัจจุบันอายุ 32 กำลังจะเข้า 33

ธีรศิลป์ แดงดา 34 ปี

สารัช อยู่เย็น 30 ปี

ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน 38 ปี

พรรษา เหมวิบูลย์ 32 ปี

ในรายของ ชนาธิป หรือ สุภโชค สารชาติ แม้อายุอานามยังไม่ได้มากจ๋า แต่เวลาลงเล่นทั้งคู่กับต้นสังกัดยังไม่แน่นอนเลย ไหนต้องปรับตัวเข้ากับทีมอีก




วันหนึ่งแก๊งซุป’ตาร์เหล่านี้ก็ต้องโบกมือลาทีมชาติไป หากวันนี้เราไม่เริ่ม “ให้โอกาส” ผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาประดับทีมชาติบ้าง ให้มาสร้างความคุ้นเคยเก็บประสบการณ์บ้าง ระยะยาวเรามีปัญหาแน่

โอเค “บางคน” อาจโหยหาความสำเร็จ มองว่ารายการไหน หากไปแข่งขันในนามทีมชาติไทยต้องเป็นชุดที่ดีที่สุด ต้องเต็มที่ ต้องแชมป์ บลา ๆๆ

หากแต่วันนี้ เราต้องเริ่มให้ความสำคัญกับการปูพื้นฐานกับเด็กใหม่ได้แล้ว เหมือนที่ อินโดนีเซีย ภายใต้การคุมทีมของ ชิน แต-ยอง ใช้ดาวรุ่งแบกอายุขึ้นมาเก็บเลเวล สร้างทีมยุคใหม่  

ใช่ … ช่วงเริ่มมันอาจไม่สวยงาม ไม่ประสบความสำเร็จ แต่ขึ้นชื่อฟุตบอล ย่อมมีราคาที่ต้องจ่าย ซึ่งในระยะยาวมันคุ้ม

รายการ “คิงส์คัพ” ที่เชียงใหม่ปลายเดือนนี้ อาจเป็นเวทีที่ดี สำหรับการทดลองผู้เล่นหน้าใหม่ อยากลองใช้ใคร เอาทัวร์นาเมนต์นี้ไว้ “ตัดเกรด” ดูก็ได้

หรือหากยังซื้อแผน “ระยะสั้น” ว่าความสำเร็จต้องมาก่อนอันดับแรก ก็ขอให้ มาโน และทีมงาน วางแผนพูดคุยกับสโมสรหลังไมค์ตั้งแต่เนิ่น ๆ เลย เตรียมการให้พร้อมว่าอยากใช้ใครบ้าง คนไหนปล่อยมาได้ หรือไม่ปล่อย

จะได้ไม่ต้องมาตาลีตาเหลือกไล่ขอนักเตะช่วงใกล้แข่ง


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด