:::     :::

เบน ไวท์ ชี้ความต่างต้นซีซั่นนี้ดีกว่าซีซั่นก่อน

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
อาร์เซน่อล ปราชัยนัดแรกในลีกไปแล้ว แต่ภาพรวมของการเริ่มต้นฤดูกาลนี้ถือว่าดีกว่าฤดู กาลที่แล้วอย่างมาก

ฤดูกาล 2021/22 ทีมปืนใหญ่เริ่มต้นแพ้รวด 3 นัดแรก เสียรวม 9 ประตู และยิงไม่ได้แม้แต่ประตูเดียว ทีมจมบ๊วยของตารางอย่างน่าสิ้นหวัง

แต่ฤดูกาลนี้ มิเกล อาร์เตต้า พาทีมออกตัวยอดเยี่ยมด้วยการชนะรวด 5 นัด เก็บ 15 คะแนนเต็ม และยังคงรั้งจ่าฝูงเหมือนเดิมแม้เสียสถิติในวันพ่ายต่อ แมนฯ ยูไนเต็ด 

นอกจากการเสริมทัพผู้เล่นใหม่ที่เข้ามายกระดับทีมได้จริงโดยเฉพาะ กาเบรียล เชซุส และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ แล้ว มีเหตุผลอะไรอีกที่ทำให้การเริ่มต้นของ อาร์เซน่อล ในสองฤดูกาลนี้แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

หนึ่งในคนที่น่าจะให้คำตอบได้ดีที่สุดคือ เบน ไวท์ กองหลังของทีมผู้ผ่านช่วงเวลาทั้ง "ดี" และ "แย่" ในรอบหนึ่งปีหลังสุดมาด้วยตัวเอง 

ไวท์ ลงเล่นให้ อาร์เซน่อล นัดแรกในเกมเปิดสนามไปเยือน เบรนท์ฟอร์ด ในฤดูกาลที่แล้ว วันนั้นปืนใหญ่ในสภาพไม่สมบูรณ์พลาดท่าแพ้ 0-2 และ ไวท์ ก็เป็นอีกคนที่โดนวิจารณ์อย่างหนัก

กองหลังทีมชาติอังกฤษเพิ่งย้ายมาด้วยค่าตัวมหาศาล 50 ล้านปอนด์ แต่นัดเปิดสนามจบลงเลวร้ายพ่ายต่อทีมน้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา

จากวันเปิดตัวที่ไม่น่าจดจำ เบน ไวท์ พิสูจน์ตัวเองได้ดีขึ้นเรื่อยๆ เขากลายเป็นหัวใจสำคัญในเกมรับของทีมและลงเล่นพรีเมียร์ลีกตลอดฤดูกาลที่แล้ว 32 นัด 


ไวท์ โดนวิจารณ์หนักหลังแพ้ตั้งแต่นัดแรกที่ลงเล่น

เช่นเดียวกับฤดูกาลนี้ที่แม้ถูกโยกมาเล่น "แบ็กขวา" ในช่วงที่ ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ ยังไม่สมบูรณ์ อดีตกองหลัง ไบรท์ตัน ก็ยังทำผลงานได้ดี และเป็นเหตุผลสำคัญที่ช่วยทีมขึ้นนำบนหัวตาราง 

หนึ่งปีผ่านไปจากช่วงเริ่มต้นฤดูกาลก่อนที่ไม่น่าจดจำ เบน ไวท์ ได้โอกาสมองย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นอีกครั้ง พร้อมชี้ให้เหตุถึงการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ "ปืนใหญ่" ถูกพูดถึงไม่น้อยในฤดูกาลนี้ 

เมื่อถูกถามว่าเติบโตขึ้นมากเพียงใดในช่วง 12-13 เดือนที่ผ่านมา ไวท์ ตอบว่า "มากเลยในฐานะบุคคล ผมคิดไตร่ตรองมากขึ้นเมื่อเทียบกับในฐานะนักฟุตบอล เมื่อคุณมาอยู่กับสโมสรใหญ่เช่นนี้ มันก็มีหลายสิ่งหลายอย่างมากกว่าที่คุณคิด"

"ส่วนในฐานะนักเตะ ผมมีความมั่นใจมากขึ้นและได้แสดงความมั่นใจนั้นออกมา และการพยายามทำผลงานให้ได้ในระดับที่ผู้จัดการทีมต้องการในทุกๆ สัปดาห์ก็คือสิ่งที่ผมตั้งความหวังเอาไว้"

"ฤดูกาลนี้ต่างออกไปมากๆ เรามีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้น และแนวทางที่เราฝึกซ้อมก็ต่างออกไปจากเดิม สิ่งที่เราทำนอกสนาม ทัศนคติ และสปิริตที่เราทุกคนมีร่วมกันต่างออกไปโดยสิ้นเชิง"

ไวท์ ได้เล่นพรีเมียร์ลีกกับ ไบรท์ตัน เพียงฤดูกาลเดียวในชีวิตก่อนย้ายสู่ อาร์เซน่อล ด้วยค่าตัวมหาศาล เสียงวิจารณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ยังไม่ลงสนาม และหนักหน่วงยิ่งกว่าเดิมหลังความปราชัยต่อ เบรนท์ฟอร์ด 


มิเกล อาร์เตต้า ยืนเคียงข้างตลอด

"โดยส่วนตัวผมแล้ว มันเป็นการเริ่มต้นที่ยากลำบากในตอนแรกที่ย้ายมา ผมลงเล่นในเกมพบ เบรนท์ฟอร์ด และไม่ได้มีเกมที่ดีนัก ผมโดนโจมตีจากทุกคนในสื่อ และมันก็ช่างไร้สาระที่ได้ยินแบบนั้น" ไวท์ เล่าต่อ 

"ผมไม่มีสื่อโซเชียลหรืออะไรทั้งนั้น ผมจึงไม่เห็นอะไรเลยนอกจากมีคนมาเล่าให้ฟังหรือส่งให้อ่าน มันเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ ทุกคนต่างมีความคิดเห็นของตัวเอง ผมคิดว่าคุณรับฟังบางคนได้ แต่อีกหลายคนก็ไม่ต้องไปสนใจ"

ในช่วงแรกที่ยากลำบาก มิเกล อาร์เตต้า คือคนที่ช่วยช่วยเหลือและมอบความเชื่อมั่นให้เสมอซึ่งเป็นสิ่ง ไวท์ ซาบซึ้งใจอย่างมาก 

ไวท์ เผยว่า "เขาดึงผมมาเล่นที่นี่และแสดงความมั่นในตัวผม จริงๆ แล้วผมไม่ใช่คนที่ต้องมีใครมาบอกในเวลาทำผิดพลาด หรือตอนที่ทำได้ดี ผมเป็นคนที่รู้ตัวเอง"

"แต่มันก็เป็นเรื่องดีที่ผู้จัดการทีมและสตาฟฟ์อยู่เคียงข้างผมเสมอในฤดูกาลก่อนตอนที่หลายสิ่งหลายอย่างไม่ได้ออกมาดี" 


เป็นหัวใจสำคัญในเกมรับจนถึงฤดูกาลนี้

"มันน่าตื่นเต้น (กับการทำงานร่วมกับ อาร์เตต้า) คุณไปถึงสนามซ้อมโดยที่ไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นซึ่งเป็นเรื่องดีนะ สัปดาห์ของคุณหลากหลายเลย คุณไม่รู้ว่าคุณกำลังจะมีการประชุมทีมหรือไม่ในแต่ละวันที่มาถึง หรืออะไรที่เขากำลังจะทำในการประชุมทีม พอคุณอยู่ข้างนอก คุณก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น"

ไวท์ เล่าต่อถึงการสนับสนุนจากครอบครัวว่า "พ่อของผมไม่ดูฟุตบอลเลย แต่เขาสนับสนุนตลอดนะ พาผมไปทุกที่ แต่ก็ไม่ได้ตามดูเกมหรอก ส่วนแม่ผมก็เหมือนกันเปี๊ยบ"

"พวกท่านคอยอยู่ผลักดันอยู่ข้างหลังตลอด แต่ไม่ใช่พ่อและแม่ในแบบจะมาบอกว่าสิ่งที่ผมทำนั้นผิดหรืออะไรทำนองนั้น พวกท่านไม่รู้ชัดเจนในรายละเอียด ผมจำได้ในตอนซ้อมเสร็จและถามแม่ว่าผมซ้อมเป็นอย่างไร ท่านก็ตอบทุกครั้งว่าผมทำได้ดี!"

ปัจจุบัน เบน ไวท์ อายุ 24 ปี แต่มีประสบการณ์หลากหลายในลีกอังกฤษ เขาผ่านการเล่นครบ 4 ระดับของฟุตบอลลีกไล่ตั้งแต่พรีเมียร์ลีก, แชมเปี้ยนชิพ, ลีก วัน และ ลีก ทู และเกิดขึ้นใน 4 ฤดูกาลก่อนย้ายร่วมทีม อาร์เซน่อล 

"ผมคิดว่าเหตุผลบางส่วนที่ทำให้ผมได้มาอยู่ที่นี่คือมาจากประสบการณ์และสไตล์การเล่นอันแตกต่างของแต่ละทีมที่ต้องคอยปรับตัวมาตลอดอาชีพ"


ช่วยทีมยึดตำแหน่งจ่าฝูงของตาราง

"มันช่วยผมได้มากๆ กับการเล่นในสถานการณ์ที่ต่างกันออกไป และคิดว่าช่วยได้จริงๆ กับสิ่งที่กำลังทำในตอนนี้"

"แม้กระทั่งทีมในลีก ทู (นิวพอร์ต เคาน์ตี้) ที่ผมเคยเล่นให้ และในลีก วัน (ปีเตอร์โบโร่) ผมล้วนได้เสริมกระดูก ลีกเหล่านั้นมีสภาพแวดล้อมต่างออกไปโดยสิ้นเชิง และคุณต้องอยู่ในสภาพที่ไม่ใช่ระดับมาตรฐานของพรีเมียร์ลีก และโค้ชแต่ละคนก็มีไอเดียแตกต่างกันไป"  ไวท์ กล่าว

นี่คือคำบอกเล่าจาก เบน ไวท์ ที่ทำให้เราเห็นภาพการเริ่มต้นที่แตกต่างกันของ อาร์เซน่อล ในสองฤดูกาล เช่นเดียวกับผลงานส่วนตัวที่อาจเป็นอีกปัจจุบันช่วยให้ทีมกลายเป็น "ม้ามืด" ในฤดูกาลนี้ก็เป็นไปได้


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด