ถาม : คุณยิงไป 55 ประตูในแชมเปี้ยนส์ลีก แอละ ยูโรป้า ลีก เป็นนักเตะละตินอเมริกาที่ยิงในฟุตบอลยุโรปสูงสุดเป็นอันดับ 4 ของยูฟ่า , การพาทีมไปเล่นยูโรป้าในฤดูกาลหน้าถือเป็นเป้าหมายและความฝันหรือเปล่า มันเป็นเรื่องยากเกินไปสำหรับสโมสรหรือไม่ ?
กาวานี่ : ผมคิดว่ามันควรเป็นเป้าหมายของสโมสรอย่าง บาเลนเซีย นะ ผมแน่ใจว่ามันจะเป็นเรื่องที่ยากลำบากอย่างแน่นอน รวมถึงการทำงานเพื่อไปสู่จุดนั้น แต่เราควรตั้งเป้าหมายไปเล่นในยุโรป จะเป็น ยูโรป้า ลีก หรือ แชมเปี้ยนส์ลีก หรือรายการใดก็ตาม มันควรจะเป็นเป้าหมายหลักของสโมสร เพื่อการนี้เราต้องทำงานหนักไม่เพียงแค่ในสนามเท่านั้นแต่ยังหมายรวมถึงตัวสโมสร,ตัวสถานบัน จะต้องทำงานเพื่อพา บาเลนเซีย ทีมนี้ไปสู่จุดที่คู่ควร อย่างที่ประวัติศาสตร์สโมสรเคยเป็นมา
ค่อยๆก้าวไปทีละขั้น แต่ต้องก้าวด้วยแนวคิดที่เปี่ยมด้วยความกระหายที่จะประสบความสำเร็จให้เร็วที่สุด ผมหวังว่าผมจะสามารถบรรลุสิ่งนี้ร่วมกับสโมสร
ถาม : 3 ปีแล้วที่ บาเลนเซีย ไม่ได้ไปเล่นฟุตบอลรายการยุโรป แต่ว่ามีแฟนบอลจำนวนมากเชื่อว่ามันเป็นไปได้กับ กาวานี่ ?
กาวานี่ : ผมไม่มองเรื่องนี้เป็นความกดดัน แต่มองเป็นความรับผิดชอบที่สวยงามในการทำงานและพาทีมเดินไปข้างหน้าร่วมกับเพื่อนร่วมทีมทุกคนในการต่อสู้กับทีมยักษ์ และไปสู่จุดที่สูงขึ้น ที่ที่ผมคิดว่าสโมสรแห่งนี้คู่ควร มันเป็นความรับผิดชอบที่ควรมี แต่ว่าไม่ใช่เฉพาะผมคนเดียว เพื่อนร่วมทีมทุกคน,เทรนเนอร์,ทีมสต๊าฟ,สถาบัน และ สโมสรทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกัน ช่วยกันคนละไม้ละมือ
ผมยอมรับความรับผิดชอบเพราะรู้ว่าเบื้องหลังผมมีเส้นทางอาชีพ,มีวิถี,มีประสบการณ์ ซึ่งบางขณะมันสามารถช่วยทีมได้ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ความกดดัน ทำไมผมถึงไม่ยอมรับความกดดันน่ะเหรอ ? เพราะว่าผมเป็นคนที่มีแพสชั่นด้านฟุตบอล ฟุตบอลสำหรับผมไม่มีความลับใดๆ
ถาม : สโมสรแห่งนี้เคยมี มาทาดอร์ แล้วคนนึง (มาริโอ เกมเปส) คุณจะเสริมการฉลองประตูด้วยท่ายิงธนูให้แตกต่างไปจากไอดอลคนก่อนของ บาเลนเซีย บ้างมั๊ย ?
กาวานี่ : ไม่, แต่ละคนก็เป็นอย่างที่ตัวเองเป็น มันเป็นช่วงเวลาที่แตกต่าง ฟุตบอลที่แตกต่าง ผมมาที่นี่ในตอนที่อายุมากแล้ว ผมอยากจะบอกว่าผมไม่รู้เหมือนกันว่าผมจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหน ผมภาวนาว่ามันจะอีกหลายปี
ทุกคนย่อมอยากที่จะฝากรอยเท้าของตัวเองเอาไว้โดยที่ไม่ต้องเหมือนใคร อยากให้ผู้คนจดจำเขาที่เป็นตัวเขาไม่ใช่เพราะเขาเหมือนใคร บางครั้งภายในสนามเราสามารถเป็นนักฟุตบอลที่ดีได้ กระทำตัวอย่างเหมาะสมที่ไม่ทิ้งอะไรไว้เบื้องหลังนอกไปจากการยิงประตู ผมพยายามใช้ชีวิตบนเส้นทางฟุตบอลให้แตกต่างออกไป
ถาม : แตกต่างไปในแบบไหนล่ะ ?
กาวานี่ : ในแบบที่ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ ผมจะทุ่มเททุกอย่างเท่าที่มี แต่ถ้าผมสามารถมอบบางสิ่งบางอย่างให้ได้มากกว่านี้ผมก็ยินดี ผมหวังว่าผมจะทิ้งภาพความทรงจำเอาไว้ที่นี่เหมือนกับสโมสรต่างๆที่ผ่านมาของผม ผมปราถนาที่จะอยู่และใช้ชีวิตที่งดงาม ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงผมในทุกๆครั้งที่พวกเขาเห็นผมออกวิ่ง และต่อสู้เพื่อเสื้อตัวนี้ เสื้อตัวที่พวกเขาก็ใส่อยู่เช่นกัน ผมย่อมต้องการให้แฟนบอลและเพื่อนร่วมทีมรู้สึกว่าผมเองก็ต่อสู้เพื่อปกป้องเสื้อตัวนี้เหมือนกับแฟนบอลคนนึง
ถาม : เป็นครั้งแรกที่มีเทรนเนอร์บอกว่า อุรุกวัย มีโอกาสที่จะเป็นแชมป์โลก คุณคิดเหมือนที่ ดีเอโก้ อลอนโซ่ (เทรนเนอร์ทีมชาติอุรุกวัย) คิดหรือเปล่า ?
กาวานี่ : ใช่ผมคิดอย่างนั้น พวกเราเคยอยู่ใกล้มากๆในฟุตบอลโลกปี 2010 จากนั้นเวลาก็เริ่มผ่านไปและคุณเริ่มตระหนักว่าคุณต้องต่อสู้เพื่อการแข่งขันที่สำคัญที่สุดในโลกนี้มากแค่ไหน และคุณก็พูดว่า เราเป็นทีมที่สุดยอดหรือเปล่า ? ไม่ เราไม่ใช่สุดยอดทีมมหัศจรรย์ แต่เราคือทีมที่มีน้ำหนึ่งในเดียว
ดูฝรั่งเศสที่คว้าแชมป์โลกปี 2018 สิ สำหรับผม พวกเขาไม่ใช่ทีมมหัศจรรย์อะไร แต่พวกเขาสร้างขึ้นจากพื้นฐานความเป็นทีม ซึ่งนั่นตัวตนของพวกเขา แม้ว่าแต่ละคนจะเป็นนักเตะคนสำคัญที่ต้องพยายามสร้างความแตกต่างให้กับสโมสรของพวกเขาก็ตาม
ดังนั้นมันไม่ใช่สำคัญว่าใครทำมา ใครทำน้อย แต่พวกเขาคิดเพียงแค่ว่าเป้าหมายคือการคว้าแชมป์โลกให้ได้เท่านั้น ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงได้เป็นแชมป์โลก และแน่นอนว่าถ้าคุณถามพวกกูรูทั้งหลาย คนที่ศึกษาเรื่องฟุตบอล พวกเขาจะบอกว่าผมคิดว่าฝรั่งเศสไม่ใช่ตัวเต็ง
พวกเขาทำในสิ่งที่ต้องทำ ทุกคนเข้าใจอย่างชัดเจน ทุกคนเล่น ทุกคนวิ่ง ทุกคนยิงประตู และนั่นคือรูปแบบ ทุกคนย่อมต้องการต่อสู้ ต้องการคว้าแชมป์โลก ไม่มีใครไม่ต้องการ อันดับแรก คุณจะต้องผ่านรอบคัดเลือกไปให้ได้เสียก่อน ซึ่งตอนนี้เราทำสำเร็จแล้ว เราเห็นเพื่อนร่วมทีมลงเล่นในการแข่งขันฟุตบอลลึกกับสโมสรของพวกเขาด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม แล้วทำไมเราถึงไม่สามารถที่จะต่อสู้เพื่อถ้วยใบนี้ได้
เรารู้ว่าฟุตบอลนั้นไม่ได้มีความลับอะไร แค่คุณต้องมีทีมที่ดี ทำงานหนัก,เป็นนักสู้ , วิ่ง และแต่ละคนในตำแหน่งของตัวเองจต้องทำในสิ่งที่ต้องทำให้ดีที่สุด จากนั้นเราค่อยมาดูกันว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ถาม : หนึ่งในนั้นที่คุณว่าก็คือ เฟเด บัลเบร์เด้ ที่กำลังร้อนแรงในรอบสัปดาห์นี้กับสุดยอดประตูทั้งใน แชมเปี้ยนส์ลีก และ ลา ลีกา ?
กาวานี่ : ผมคิดว่าผมรู้สึกในแบบที่เขารู้สึก ทุกอย่างเกิดขึ้นปกติภายในสนามจนถึงจังหวะที่เขาเลี้ยงตัดเข้ากลาง แล้วสังเกตเห็นว่ามันมีโอกาสที่จะง้างเท้ายิงประตู ถ้าเขาตัดสินใจลากออกไปด้านนอก มันก็จะเป็นอีกเกมนึง แต่เขาพบว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่เขาตัดสินใจจะจบการเล่นเพลย์นี้ด้วยตัวเอง และเลือกยิงไปที่มุมนั้น ไม่มีใครคิดว่าเขาจะยิง แม้กระทั่งตัวเขาเอง สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือฟุตบอลมีสิ่งนี้ มันเป็นแบบนี้ มันมีไดนามิก
หลายสิ่งหลายอย่างกำลังเกิดขึ้น มันเหลือเชื่อมาก แต่ผมไม่คิดว่าเขาจะลากบอลจากกลางสนามขึ้นมาพร้อมกับคิดที่ว่าฉันจะเลี้ยงหลบ 2 แล้วลากตัดเข้ากลางไปยิงประตู นอกจากนี้มันยังไม่ใช่เท้าข้าถนัดของเขาด้วย ผมรู้สึกในแบบที่เขารู้สึกนั่นแหละ
ถาม : เฟเด เติบโตขึ้นมากเลย ?
กาวานี่ : ถึงไม่พูดถึงจังหวะยิงประตูนั้น เฟเด ในช่วง 2-3 ปีหลังเติบโตขึ้นอย่างน่าประทับใจ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่สร้างแรงกระตุ้นใหก้กับเราในทีมชาติเช่นกัน เขาช่วยให้เราสามารถฝันได้ มีแรงปรารถนาที่จะฝันมากขึ้นกว่าเดิม มีความปรารถนาที่จะก้าวไปให้ถึงนัดท้ายๆของฟุตบอลโลก ทำไมมันจะเป็นไปไม่ได้ล่ะ หากเรามีผู้เล่นที่เหลือเชื่อซึ่งกำลังสร้างความแตกต่างจากทั่วทุกมุมโลกเช่นนี้
เจมส์ ลา ลีกา
แปล & เรียบเรียง
