ในอดีต เราเคยเห็น ยอร์ดี้ ครัฟฟ์ อดีตมิดฟิลด์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่แจ้งเกิดไม่ได้ และไปไม่ถึงไหนในฐานะนักฟุตบอล ผิดกับผู้เป็นพ่อ โยฮัน ครัฟฟ์ นักเตะเทวดา ตำนานของวงการฟุตบอลฮอลแลนด์

แล้วปัจจุบันละ? มีใครกันบ้างที่ดูแล้วมีแววจะไม่มีอนาคตในวงการลูกหนัง ทั้งที่่พ่อให้ต้นทุนชีวิตมามากกว่านักฟุตบอลคนอื่นๆ

ริวัลโด้ ตำนานศูนย์หน้าทีมชาติบราซิล ชุดแชมป์เวิลด์คัพ 2002 และอีกหลายรายการ สร้างชื่อที่สุดในยุคปลายทศวรรษที่ 90 หลังย้ายจาก เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า มาสร้างความยิ่งใหญ่กับ บาร์เซโลน่า ระหว่างปี 1997-2002

แต่เจ้าลูกชาย ริวัลดินโญ่ ที่เล่นศูนย์หน้าเช่นกัน เริ่มต้นกับสโมสร โมกิ มิริม ในบ้านเกิดเหมือนพ่อ ก่อนที่ เบาวิสต้า ทีมในโปรตุเกส วัดใจดึงมาร่วมทัพเพราะบารมีพ่อ แต่สุดท้ายสอบตก จนต้องกลับไปทีมบ้านเกิด แม้ไม่ได้รับโอกาสลงเล่น แต่ ดินาโม บูคาเรสต์ ก็กล้าเสี่ยงดึงร่วมทีมบ้าง แต่ภาพรวมก็ยังสอบไม่ผ่าน ต้องขายไป เลฟสกี้ โซเฟีย ทีมในบัลแกเรีย

เปาโล มัลดินี่ คือตำนานของ เอซี มิลาน สโมสรเดียวที่ลงรับใช้ตั้งแต่ปี 1985 จนถึง 2009 ไม่เคยย้ายไปไหน นับตั้งแต่เลื่อนชั้นขึ้นมาจากรั้วเยาวชน และยังเป็นตำนานกองหลังทีมชาติอิตาลีด้วย จากการลงเล่นไปถึง 126 นัด

ลูกชาย คริสเตียน มัลดินี่ ซึ่งเล่นตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กก็เริ่มต้นในทีมเยาวชนของ มิลาน เช่นเดียวกัน (เพราะอะไรคงไม่ต้องบอก) แต่ฝีเท้าไม่ถึง ทั้งพ่อและตา (เชซาเร่ มัลดินี่) ก็ช่วยอะไรไม่ได้ สุดท้ายถูกปล่อยไป เรจจาน่า ใน เลกา โปร บี ก่อนระเห็จไป โปร เซสโต้ ใน เซเรีย ดี และดูไร้วี่แววว่าจะมีอนาคต จึงอพยพอีกครั้งไปอยู่ ราซิ่ง ฟอนดี้ ใน เซเรีย ซี

กุสตาโว่ โปเยต์ ยังไม่ถึงขั้นตำนานนักเตะอุรุกวัย แต่เป็นหนึ่งในนักเตะที่สร้างชื่อเสียงมากที่สุดในการเล่นยุโรป ทั้ง ลาลีกา สเปน กับ เรอัล ซาราโกซ่า เกินกว่า 200 นัด และ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับ เชลซี และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ รวมกันเกินกว่า 200 นัดเช่นกัน

ดีเอโก้ โปเยต์ ลูกชายที่ลืมตาดูโลกที่ ซาราโกซ่า และย้ายถิ่นฐานตามพ่อไปอยู่อังกฤษตั้งแต่ 2 ขวบ ก่อนเข้าไปเป็นเด็กฝึกของ ชาร์ลตัน ขึ้นสู่ชุดใหญ่ และถูก เวสต์แฮม ดึงตัวร่วมทีมด้วยนามสกุล โปเยต์ มันต้องมี "ซัมติง สเปเชี่ยล" แต่สุดท้ายก็หาไม่เจอ หลังจากปล่อยยืมไป 3 ทีมสุดท้ายก็ต้องปล่อยขาดไป โกดอย ครูซ แต่ก็ไม่ได้เล่น ล่าสุดต้องมาอยู่กับ ปาฟอส ในลีกไซปรัส

เบเบโต้ อดีตศูนย์หน้าทีมชาติบราซิล ชุดแชมป์โลก 1994 สร้างชื่อใน ลาลีกา สเปน ช่วงปี 1992-1996 กับ เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า ที่ยิงกระจุยกระจาย 86 ประตูจาก 131 นัด แต่ที่ถูกจดจำมากที่สุดคงต้องเป็น 'ท่าอุ้มลูก' ในตำนานจากศึกเวิลด์คัพ ที่สหรัฐอเมริกา

ซึ่งลูกชายคนนั้นก็คือ มัทเธอุส โอลิเวยร่า มิดฟิลด์ตัวรุกที่เดินตามรอยเท้าพ่อกับ ฟลาเมงโก้ ก่อนย้ายมาโปรตุเกสร่วมทีม เอสโตริล แม้ทำประตูได้แบบจุ๋มจิ๋ม แต่ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ก็เสี่ยงดึงตัวไปปลุกปั้น ด้วยความหวังที่จะเห็นผู้เป็นพ่อฝากมรดกเอาไว้ให้ แต่ฝีตีนก็ยังไม่ถึงชุดใหญ่เสียที จนสุดท้ายต้องปล่อยยืมไป วิตอเรีย กีมาไรส์

ซลัตโก้ ซาโฮวิช อดีตจอมทัพทีมชาติสโลวีเนีย ที่กลายเป็นตำนานของประเทศไปแล้ว จากการเป็นเจ้าของสถิติยิงประตูมากที่สุด 35 ประตู จากการลงเล่น 80 นัด หลังสร้างชื่อในยุคสร้างทีมใหม่หลังแตกออกจากยูโกสลาเวีย

ระหว่างค้าแข้งกับ วิตอเรีย กีมาไรส์ ในปี 1995 ก็ถือกำเนิดเจ้าลูกชาย ลูก้า ซาโฮวิช ที่เดินตามพ่อไปฝึกฟุตบอลด้วยกับสโมสร เบนฟิก้า ระหว่างที่พ่อค้าแข้งอยู่ แต่สุดท้ายกลับมาเริ่มต้นกับ มาริบอร์ ทีมยักษ์ใหญ่ของสโลวีเนีย จนมีโอกาสย้ายไป ฮีเรนวีน ในลีกฮอลแลนด์ แต่แจ้งเกิดไม่ได้เลย ต้องเก็บข้าวของกลับมาอยู่กับ มาริบอร์ อีกครั้ง และคราวนี้ผลงานตกลงไปอย่างน่าใจหาย