:::     :::

หละหลวมจนพ่ายแพ้ที่ ลา โรมาเรด้า

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ทีมชาติสเปนกลับมาลงสนามครั้งแรกในรอบ 3 เดือนหลังบุกชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 1-0 ที่ เจนีว่า ใน เนชั่นส์ลีก ลีก เอ กลุ่ม 2 จากประตูชัยของ ปาโบล ซาราเบีย มาครั้งนี้ ทัพ ‘ลา โรฆา’ มีคิวดวลกับ สวิตเซอร์แลนด์ อีกครั้งในรายการเดียวกัน ซึ่ง หลุยส์ เอ็นรีเก้ สร้างเซอร์ไพรส์เล็กๆ ด้วยการพัก อัลบาโร่ โมราต้า แล้วส่ง มาร์โก อาเซนซิโอ ออกสตาร์ท 11 คนแรก ร่วมกับ อูไน ซิมอน , เซซาร์ อัซปิลิก้วยต้า,เอริก การ์เซีย,เปา ตอร์เรส,ยอร์ดี้ อัลบา, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์,ปาโบล กาบี,เปดรี กอนซาเลซ,เฟร์ราน ตอร์เรส และ ปาโบล ซาราเบีย

อาถรรพ์ที่ ลา โรมาเลด้า 

กับ สวิตเซอร์แลนด์ นั้น สเปน ถือสถิติเหนือกว่ามาก ตลอดการพบกัน 24 ครั้ง สามารถเอาชนะได้ถึง 18 ครั้ง เสมอ 5 ครั้ง และแพ้แค่เกมเดียวซึ่งก็คือนัดเปิดสนามฟุตบอลโลกที่ แอฟริกาใต้ ซึ่งหนนั้น สเปน ประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ด้วยการคว้าแชมป์โลกมาครองเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์


ด้วยสถิติที่ข่มกันมิด ด้วยคุณภาพนักเตะที่ดูเหนือกว่า แต่ สวิตเซอร์แลนด์ ของ มูรัต ยาคิน สามารถทำในสิ่งที่ กรีซ เคยทำเอาไว้เมื่อ 19 ปีก่อนที่สนาม ลา โรมาเรด้า


สเปน ไม่มีสนามกีฬาแห่งชาติ ในทุกครั้งที่มีเกมทีมชาติ สหพันธ์ฯ (RFEF) ใช้วิธีตระเวนไปเล่นตามเมืองต่างๆทั่วประเทศ 

คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา สเปน กลับมาที่ ลา โรมาเลด้า รังเหย้าของ เรอัล ซาราโกซ่า อีกครั้ง ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 19 ปี นับแต่เกมสุดท้ายที่พ่าย กรีซ คาบ้าน 0-1 ในยูโร 2004 รอบคัดเลือก ส่งผลให้ทีมต้องไปเตะเพลย์ ออฟ กับ นอร์เวย์ (สุดท้ายก็ผ่านเข้ารอบสุดท้าย แต่ก็ไปตกรอบแรก)


มาครั้งนี้ สเปน พบความพ่ายแพ้แบบเหนือคาดอีกครั้งที่สนามแห่งนี้ ต่อ สวิตเซอร์แลนด์ ทีมที่ไม่เคยเอาชนะพวกเขาในเกมเหย้าได้เลย แต่มันได้เกิดขึ้นแล้ว 

ที่สเปน หลายคนบอกว่านี่คือความมืดดำของ ลา โรมาเรด้า แห่งเมืองซาราโกซ่า ที่ทีมชาติไม่มีทางไขปริศนาออก 



…………………………….

เกมรับอันหละหลวม

หลายคนอาจจะบอกว่าความพ่ายแพ้นี้มาจากอาถรรพ์แห่ง ลา โรมาเรด้า ทว่าสิ่งที่ชัดเจนกว่านั้นก็คือเกมรับอันหละหลวม 

เกมรับของ สเปน เปิดโอกาสให้ สวิตเซอร์แลนด์ หลายครั้ง และการป้องกันลูกตั้งเตะในกรอบเขตโทษที่ย่ำแย่ ก็นำพาซึ่ง ‘ความหายนะ’ 

อัซปิลิก้วยต้า ถูกกระแทกจนตัวปลิว ก่อนที่ มานูเอล อากานจี จะลอยตัวขึ้นโขกเน้นๆ เป็นประตูขึ้นนำ 1-0 โดยที่ก่อนหน้านั้น ทีมเกือบเสียประตูจากจังหวะเช็กล้ำหน้าพลาด 

การเสียประตู 1-2 ซึ่งเป็นประตูแห่งความพ่ายแพ้ มาจากการสกัดในกรอบเขตโทษไม่เด็ดขาดอีกครั้ง คราวนี้ อากานจี โฉบมาเล่นที่เสาแรกแล้วปาดเข้ากลางให้ บรีล เอ็มโบโล่ แประยะเผาขนเข้าไป 


อย่างไรก็ตาม เกมรับไม่ใช่งานของแผงหลังหรือ อูไน ซิมอน เท่านั้น แผงกลางและแผงหน้าก็ทำหน้าที่ในเกมรับได้แย่เช่นกัน 

บอลจากด้านข้าง และตรงกลางของ สวิตเซอร์แลนด์ ไหลทะลักมาถึงแดนหลังค่อนข้างเร็ว โดยปราศจากการดีเลย์เกมจากผู้เล่นในแดนบน 

ปัญหาที่เห็นได้ชัดคือแผงหลัง,กลางและหน้าเล่นเกมรับไม่สัมพันธ์กัน ขาดการเชื่อมต่อที่ดี หรือพูดให้ชัดเจนก็คือ “ทีมเวิร์คในเกมรับแย่”

…………………………….

ครองบอล 74% 

ตลอดทั้ง 90 นาที สเปน เป็นฝ่ายครองบอลถึง 74% นี่คือเปอร์เซนต์ที่สูงเอามากๆ จนใครที่ไม่ได้ชมเกม จินตนาการได้ว่ามันคือการบุกพับสนามอยู่ข้างเดียว แต่ผลกลับมาว่าพวกเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และแม้แต่โอกาสยิงเข้ากรอบก็เท่ากันที่ 4 ครั้ง 

ปรัชญาฟุตบอลสปนเชื่อว่าการครองบอลคือการควบคุมเกม และเมื่อคุณเป็นฝ่ายควบคุมเกม เมื่อนั้นคุณก็มีโอกาสเป็นผู้ชนะ หากทว่าเกมกับ สวิตเซอร์แลนด์ เป็นอีกครั้งที่ทำลายความเชื่อในปรัชญานี้ 


เด็กๆของ ยาคิน ไม่สนใจเรื่องการครองบอล พวกเขาเล่นตามแท็คติก รับแล้วโต้ เน้นเกมรับให้แข็งแกร่งเข้าไว้ และเมื่อได้ที่โอกาสเปิด ไม่ว่าจะจากความผิดพลาดของ สเปน หรือจากลูกเซตพีซเมื่อนั้นพวกเขาจะเล่นเกมรุก 


พ่ายแพ้เกมนี้ สิ่งที่ต้องทบทวนไม่ใช่เรื่องของปรัญชาหรือแนวทางการเล่นเพราะถ้าใครรู้จัก สเปน ดี จะรู้ว่าพวกเขาไม่มีทางเปลี่ยน หากแต่สิ่งที่ต้องทบทวนก็คือแนวทางในการแก้ปัญหาเมื่อต้องเจอกับทีมที่เล่นในแท็คติกนี้ 


สเปน จะมีวิธีเอาชนะอย่างไร ? เพราะการเล่นในรูปแบบหลัก หลายๆครั้งก็ไม่ตอบโจทย์ หาก เอ็นรีเก้ หาทางแก้ได้ นี่จะเป็นเหมือนกุญแจทองคำไขสู่ความสำเร็จในฟุตบอลโลกที่ กาตาร์ นอกเหนือไปจากการยกระดับเกมรับให้เหนียวแน่นขึ้น

เหลือเวลาอีก 60 วันเท่านั้น ฟุตบอลโลกที่ กาตาร์ ก็จะเปิดฉากขึ้น เวลาที่มีอยู่ น่าคิดว่ามันมากพอหรือไม่สำหรับ เอ็นรีเก้ ในการแก้ไขปรับปรุง ทัพกระทิงดุ ให้พร้อมในการสู้ศึก 



        …………………………….

เอ็นรีเก้ : เราเล่นครึ่งแรกได้แย่ที่สุดตั้งแต่ผมคุมทีม

เกมนี้เราเริ่มต้นด้วยความมุ่งมั่นเหมือนอย่างที่เคยเป็นมาเสมอ แต่ว่าคู่ต่อสู้กดดันเราได้ดีมาก พวกเขามีสภาพร่างกายที่แข็งแกร่ง บีบให้เราไม่สามารถเล่นฟุตบอลในแบบฉบับของตัวเองได้ถนัด 

ในครึ่งเวลาแรก เราขาดความชัดเจน นับเป็นครึ่งที่แย่ที่สุด ตั้งแต่ผมเป็นเทรนเนอร์ทีมชาติมา ส่วนในครึ่งหลัง  เราทำได้ดีขึ้น เราตามตีเสมอสำเร็จ แต่ก็มาเสียประตูจากลูกเตะมุมอีกครั้ง 

ความพ่ายแพ้เจ็บปวดเสมอ มันเป็นเรื่องน่าเสียดาย ตั้งแต่ต้นเราสร้างความอันตรายได้มาก 2 ประตูจาก 2 ลูกเตะมุม ลูกแรกเราป้องกันได้ดีแล้ว แต่ลูกที่ 2 เราต้องปรับปรุบให้ดีขึ้น 

เราไม่ใช่เครื่องจักร ย่อมมีบางวันที่เราขาดความแม่นยำไปแม้ว่าจะควบคุมเกมทั้งสนามเอาไว้ได้ก็ตาม ผมมองไม่เห็นเหตุผลที่เราจะต้องตื่นตระหนก ผมชอบความเชื่อที่ทีมมี นัดชิงชนะเลิศจะเป็นเกมที่ โปรตุเกส เราจะไปคว้าชัยชนะที่นั่น เราจะทำมัน ความพ่ายแพ้นี้ ไม่ได้สร้างความสงสัยให้กับผมก่อนที่จะลุยฟุตบอลโลกด้วยเช่นกัน 

        เจมส์ ลา ลีกา 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด