ประเด็นหลังเกมที่แมนเชสเตอร์ซิตี้เอาชนะยูไนเต็ดไปได้ 6 ประตูต่อ 3 นั้นมีหลายจุดที่น่าหยิบมาพูดคุยในเรื่องเหตุผลเชิงฟุตบอลเยอะมาก หนึ่งในนั้นคือเรื่องของเกมรับแมนยูไนเต็ดที่มีปัญหาจริงๆ จากการที่โดนเจาะริมเส้น เล่นงานด้วยความสามารถเฉพาะตัว และภาคการเล่นเกมรับของทีมที่ทิ้งระยะกับซิตี้ ไม่เล่น Marking แบบ "Closing Down" ประชิดติดตัวแบบดุดัน เหมือนเกมที่ใช้ความหนักหน่วงจัดการกับอาร์เซนอล และ ลิเวอร์พูลมาแล้ว 3-1 และ 2-1 ตามลำดับ
นั่นคือแทคติกที่เอริค เทน ฮาก สั่งลงมา หรือเป็นความที่แนวรับขาดความเข้มข้นลงไปจากเกมพีคก่อนหน้านี้ เราก็ยังไม่ทราบได้ เพราะดูเหมือนว่านักเตะเราจะ "ไม่เข้าบอล" ไม่บีบติดตัวเลยในช่วงครึ่งแรก
เป็นไปได้ทั้งเรื่องที่เอริค ให้นักเตะเน้นตั้งโซน ไม่เข้าบีบติดตัวเหมือนนัดเจออาร์เซนอล ลิเวอร์พูล เพราะเหตุผลที่ว่า ซิตี้มีความคล่องตัวสูง ทักษะเฉพาะตัวดีเยี่ยมในทุกตำแหน่ง และ ปรัชญาการครองบอลที่แม่นยำแน่นอน
ถ้าเข้าแทคเกิล หรือติดตัวแบบเกมเจออาร์เซนอล/ลิเวอร์พูล อาจจะหลุดตำแหน่ง และโดนโจมตีหนักกว่าเดิม
ด้วยเหตุผลนี้หรือเปล่า เราก็ไม่ทราบได้ว่าเอริค สั่งมา หรือเพราะนักเตะเราทิ้งระยะ และทำการ Marking ตัวผู้เล่นซิตี้ไม่ดีพอ ทำให้พวกเขาต่อเกมกันอย่างตามใจชอบ จ่ายบอล ยืนหาตำแหน่งเล่นกันได้อย่างสบายทุกตัวในแดนบน ยูไนเต็ดจึงจมกองเลือดอย่างที่เห็น
ส่วนตัวผู้เขียนแอบรู้สึกว่า อาจเป็นเพราะเรื่องของ "แทคติก" จากการสั่งของเอริค มากกว่า เพราะรู้สึกว่าทั้งทีมจะทำคล้ายๆกัน คือไม่เล่นเกมเพรสซิ่งแบบเข้มข้นเลย ดังนั้นก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นการกำชับแทคติกมา
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็อยู่ที่การเล่นของนักเตะเองด้วยที่ "ไม่ระมัดระวัง" ในการตามประกบตัวทำเกม ตัวรับบอลที่รอยิง รอจบสกอร์ในกรอบได้ดีพอ ทั้งโฟเด้น ทั้งฮาลันด์ โดยมีการโจมตีได้ทั้งด้านกว้าง (Wide Area) จากกรีลิช รวมถึงจากแนวvertical ในแผงมิดฟิลด์ ด้วยบอลเทพๆของ เควิน เดอ บรอยน์ ที่สุดท้ายแล้วก็กดอัลติ Killer Pass ได้ในลูกที่สามอย่างโคตรสวยงาม ทั้งคนยิงคนจ่าย
แต่หากสังเกตให้ดี หลังจากโดน 1-0 ไปแล้ว ก็ใช้เวลาอีกพอสมควร กว่าที่ลูก 2 จะมา
และมันเกิดขึ้น นับตั้งแต่ ราฟาเอล วาราน ล้มลงไปกองในสนาม และซิตี้ยังคงกระหน่ำบุกต่อ จนกระทั่งเขาต้องออกไปปฐมพยาบาล และหลังจากนั้นยูไนเต็ดเสียอีก 5 ลูกตามมาตั้งแต่วารานล้มลงไป และร่างกายไม่เหมือนเดิม ในลูกที่ 2-3-4 ของครึ่งแรก และ 5-6 ในครึ่งหลัง
วารานไม่อยู่ รู้เรื่องทันที
ข้อมูลอาการบาดเจ็บของราฟาเอล วาราน ในเกมเมื่อวาน ที่โดนเปลี่ยนออกตั้งแต่ครึ่งแรก หลังมีอาการบาดเจ็บมาตั้งแต่ช็อตที่โดนบอลอัดและเสียหลักข้อเท้าพลิก และออกไปปฐมพยาบาลจนไม่ได้อยู่ในสนาม ณ จังหวะที่โดนประตูที่สองจากเออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ที่โถมมาโหม่งลูกเตะมุมเข้าไป
ประเด็นที่แฟนบอลอยากรู้คือ วารานเจ็บหนักขนาดไหนถึงต้องรีบเปลี่ยนออกทันที และเรื่องที่หลังจากโดนเปลี่ยนตัวออก วารานก็ยังไม่ได้เข้าไปในอุโมงค์เลยทันทีเพื่อรับการดูแล เหมือนนักเตะที่เจ็บทั่วไป
เอริค เทน ฮาก ให้คำตอบไว้ชัดเจนว่า อาการเจ็บของวารานนั้นเหมาะสมแล้วที่จะต้องรีบเปลี่ยนตัวเขาออกมาทันทีอย่างเร่งด่วนตั้งแต่ท้ายครึ่งแรก
"ผมคิดว่ามันคงไม่เป็นแบบนั้นนะที่จะให้เขาจะอยู่ในสนามต่อ ถึงทีมจะยังไม่โดนยิงขาดขนาดนี้ก็ตาม ยังไงก็ต้องเปลี่ยน เพราะในสถานการณ์ตามหลังถึง 4-0 เราไม่ต้องการที่จะเสี่ยงให้เขาบาดเจ็บเยอะไปกว่านี้อีกแล้ว"
"ผมคิดว่าอาการเจ็บนี้มันหนักอยู่ และเขาไม่น่าจะเล่นต่อไหว"
ซึ่งล่าสุดมีอัพเดทจาก Samuel Luckhurst ที่แม้ว่า ระดับ tier จะต่ำหน่อย แต่ข่าวเขาก็พอจะรับฟังได้ และรายงานมาว่า ปัญหาอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าของราฟานั้น ไม่น่าเป็นห่วงว่าจะเจ็บยาว โดยแหล่งข่าวนั้นได้อธิบายอาการของวารานว่า "ไม่หนักมาก" แต่แมนยูไนเต็ดก็ระมัดระวังเป็นพิเศษ จากปัญหาอาการบาดเจ็บของเขาในซีซั่นแรกเมื่อปีที่แล้ว
[@samuelluckhurst]
ก็ถือว่าเป็นข่าวดีให้แฟนผีสบายใจได้บ้างนะครับ
เท่ากับว่า ใน Squad ของ Manchester United นักเตะเซ็นเตอร์แบ็คที่ตอนแรกดูว่าเยอะๆ และต้องแย่งกันลงสนามของเรา ตอนนี้เอริค เสีย CB ไปสองคนติดๆกัน จากแฮรี่ แมกไกวร์ ที่เจ็บมาจากทีมชาติ และล่าสุดก็ราฟาเอล วาราน จากเกมดาร์บี้แมตช์เมืองแมนเมื่อวาน
ทำให้นักเตะหลักในมือเขาตอนนี้ เหลืออยู่สองคนเท่านั้นคือ ลิซานโดร มาร์ติเนซ และ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่หายเจ็บกลับมาพอดี และสองคนนี้ก็โชว์ฟอร์มได้ตามหน้าที่ของตนเองแล้ว
มาร์ติเนซเคลียร์บอลออกจากตำแหน่งอันตราย ในการยืนคุมพื้นที่ได้ดีเท่าที่จะทำได้แล้ว ส่วนลินเดอเลิฟ เราชอบมิติการคอนโทรลและออกบอลจากเขาในช่วงครึ่งหลัง ซึ่งเป็นเหตุผลที่แมนยูไนเต็ดหนีเพรสของซิตี้ และครองบอลบุกได้มากกว่าเดิม
เกมกับโอโมเนีย นิโคเซีย ก็คงจะต้องเป็นมาร์ติเนซ กับ ลินเดอเลิฟ ที่จะผนึกแผงกลางให้แน่นก่อนในฐานะตัวหลัก และคงจะต้องเซฟตัวเองพอสมควรเพื่อรอให้แมกไกวร์ กับ วาราน หายเจ็บกลับมา
สถานการณ์ที่เรากังวล และพูดถึงเรื่อง Squad Depth และนักเตะในทีมเราคนอื่นๆ แม้ว่าเขาอาจจะไม่ได้เก่งเท่าตัวหลัก เขาอาจจะไม่ได้เป็นนักเตะที่เราชอบ แต่ทุกคนในทีมสำคัญมากๆที่จะต้อง "ช่วยๆกันลงเล่น" สลับกันไปให้กับทีม เพราะนักเตะคนเดิมๆไม่สามารถลงเล่นทุกนัดตลอดทั้งฤดูกาลได้
สถานการณ์ที่นักเตะบาดเจ็บ มาถึงเร็วกว่าที่คิด และค่อนข้างน่าเป็นห่วงมากๆ
เพราะว่านี่คือ "เดือนหฤโหด" ที่ต้องลงเตะแบบเอาเป็นเอาตาย 3 วันนัด 4 วันนัด และสถานการณ์ของ CB เราก็เจ็บไปสองคนที่เป็นตัวหลักๆด้วย ภาวนาขอให้วาราน และรวมถึง แฮรี่ แมกไกวร์เอง หายเจ็บกลับมาเร็วๆ เพราะการเหลือ CB แท้แค่สองคนไม่ดีแน่ๆ ก็อย่างที่เขียนบ่อยๆว่า เอริคเอง และทีมงาน ก็พยายามจะเรียกฟอร์มให้แมกไกวร์กลับมาให้ได้อยู่ ทีมเรายังไงก็ต้องมีการ rotation แน่ๆถึงจะเอาตัวรอดไปได้
ถ้ายังเป็นเช่นนี้อยู่ และสองตัวที่เหลืออย่างลินเดอเลิฟ กับ มาร์ติเนซ ดันเจ็บอีก มีแววว่าอาจจะได้เห็นไปจนถึง "บียอร์น ฮาร์ดลีย์" (Björn Bryan Hardley) นักเตะตัวสำรองที่เป็นเยาวชนของเรา ต้องขึ้นมาเป็นกำลังเสริมแบบฉุกเฉินเลยก็เป็นได้ ทั้งมีตัวเจ็บเพิ่มขึ้นมา
ภาระหนักจะอยู่ที่ลิซ่ากับเลิฟแน่นอนในเดือนนี้ ภาวนาว่าอย่าเจ็บซ้ำ และขอ "Reinforcement" กำลังเสริมที่จะคัมแบ็คมาได้ในช่วงนี้ด่วนๆ ซึ่งเรากล่าวถึงนักเตะอย่าง แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ / แอ็กเซล ตวนเซเบ้ / อารอน วานส่งกู บขส ดู๊ / รวมถึงในกรณีที่จำเป็นจริงๆ อาจจะได้เห็น "ลุค ชอว์" ในร่าง LCB กองหลังฝั่งซ้ายในระบบแบ็คโฟร์ก็ได้ถ้ามันไม่เหลือใครแล้ว
ในระยะเวลาเดือนครึ่ง จนถึงกลางพฤศจิกายนจึงจะเบรคไปที่ฟุตบอลโลก 2022 นั้น ยูไนเต็ดเหลือเกมให้ต้องลงเล่นอีก 12 นัด ภายในระยะเวลาราวๆ 38 วัน เฉลี่ยคร่าวๆแล้วก็จะตกประมาณ "3 วัน ต่อ 1 นัด" จริงๆ -*—
ย้อนกลับมาที่ประเด็นของ "ราฟาเอล วาราน" กันอีกครั้ง มีสถิติที่น่าสนใจ ซึ่งหลายๆคนอาจจะพอเคยเห็นผ่านตามาบ้าง นั่นก็คือ เมื่อใดก็ตามที่ราฟาได้ลงสนามเป็นตัวจริง ผลงานของทีมจะดีเสมอ แต่ถ้าเขาไม่อยู่ในสนาม ไม่ได้ลงเล่นเป็นตัวหลัก ผลงานทีมเราจะดรอปลงไปทันที
ภาพอินโฟกราฟฟิคนี้ของUtdPlug นำเสนอมา ผ่านข้อมูลจากทาง whoscored.com มันเป็นข้อมูลที่ชัดเจนมากๆว่า แมนยูไนเต็ดนั้นมีเกมรับที่แน่นอนมากเพียงใด เวลาที่ราฟาเอล วาราน ฟิตสมบูรณ์พร้อมลงสนาม อย่างที่เราพยายามสวดชินบัญชรให้เขารอดกลับมาจากเกมทีมชาติจนสำเร็จ
แต่สุดท้ายก็มาเจ็บที่เกมพรีเมียร์ลีกด้วยความโชคร้ายจนได้
ในข้อมูลข้างล่างนี้ คือสถิติของแมนยู ตอนที่มีเขาในสนาม เปรียบเทียบกับ ตอนไม่มีเขาในสนาม ฤดุกาล 2022/23 ในทุกๆรายการที่ลงแข่ง สถิติมีดังนี้
5 เกมที่วารานเป็นตัวจริง ชนะ 5 เกม (สีเขียว)
3 เกมที่วารานไม่ได้เป็นตัวจริง แพ้ทั้ง 3 เกม (สีส้ม)
ยามมีวารานลงตัวจริง ประตูเฉลี่ยของทีมทำได้ที่เกือบๆ 2 ลูกต่อนัด (1.80 per game) ส่วนยามที่ไม่มีราฟาอยู่ ทีมยิงได้แค่ 0.33 per game เท่านั้น น้อยลงแบบน่าตกใจมาก
ส่วนเรื่องเสียประตู นี่หนักกว่าเดิมอีก เวลาที่วารานอยู่ ทีมเสียประตูต่อเกม เฉลี่ย 0.40 ลูก ส่วนตอนที่ "ไม่มี" เขาลงเป็นตัวจริง ทีมเสียประตูหนักถึง "2.33 ประตูต่อเกม" เลยทีเดียว
เพราะฉะนั้น หลังจากที่วารานเจ็บไป อัตราของการโดนทะลวงไส้จากคู่แข่ง ก็แปรผันกับอย่างชัดเจนทันทีที่วารานเริ่มเจ็บ และต้องออกจากสนามไป ทีมเราก็โดน 5 ลูกเต็มๆ
ต้องอธิบายกันก่อนว่า เราไม่ได้คิดแค่เรื่องที่วารานอยู่หรือไม่อยู่อย่างเดียว มันก็จริงที่เป็นเพราะว่า "เจอแมนซิตี้" ต่อให้เรายังมี ราฟาเอ วารานอยู่ก็ตาม ดูทรงแล้วยังไงก็ไม่รอด ซิตี้ก็น่าจะเจาะสำเร็จอยู่ดี
อันนั้นก็ใช่
แต่การที่หลังเสียลูกแรก และวารานยังฟิตสมบูรณ์อยู่ ซิตี้ไม่สามารถขย่มเราต่อในเม็ดที่สองได้ง่ายๆ และต้องรอถึึง "25 นาที" ช่วงพาร์ทหลังของครึ่งแรกแล้ว กว่าที่ลูกทีมของคุณเป๊ปจะยิงประตูสองได้ในนาที 34 จากเออร์ลิ่ง ฮาลันด์ นั่นถือว่านานพอสมควรที่เกมรุกพวกเขาไม่ได้เบิกสกอร์ได้อย่างต่อเนื่อง
ตอนที่ทำได้นั่นคือยามที่วารานออกไปปฐมพยาบาลอยู่นอกสนาม และลูกสาม ก็มีอาการบาดเจ็บคงค้างในตัวเขาแล้ว ที่ราฟาก็เล่นต่อด้วยสภาพที่มีอาการบาดเจ็บอย่างที่เราเห็นกันในสนาม เอริค เทน ฮาก ถือว่าทำถูกที่รีบถอดออกมาเพื่อเซฟไม่ให้เสียหายมากไปกว่านี้ แล้วพอมาเจอกับปัจจัยที่คู่แข่งเล่นเกมรุกได้ยอดเยี่ยมสุดๆ ที่แฟนผีสมควรยอมรับ และให้เครดิตพวกเขานั้น มันก็เลย "คูณสอง" ไปเลย
วารานเจ็บ x เกมรุกซิตี้คม
โดนเพิ่มอีก 5 ลูก ก็ถือว่าตามเหตุและผลของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในสนามแล้ว
หลังจากนี้สิ่งที่เราจะต้องภาวนาและเอาใจช่วยคือ การหวังว่าราฟาจะหายกลับมาโดยเร็ว และไม่บาดเจ็บหนักมากนัก ซึ่งก็ต้องชมว่า การถอดวารานออกทันทีที่เห็นว่าไม่ไหว ของเอริค เทน ฮาก เป็นคำตอบให้เห็นว่าเขาแก้สถานการณ์และรับมือหน้างานได้ดี ตัดสินใจเฉียบขาดไม่ต้องรอหมดครึ่งแรกแล้วค่อยเปลี่ยน
แบบนี้ยังพอจะมีหวังให้วารานลุ้นกลับมาได้ แต่อยู่ที่ว่า ตอนไหน และเมื่อไหร่เท่านั้นเอง
ขอให้หายกลับมาเร็วๆ พร้อมกับ "แฮรี่ แมกไกวร์" อีกคน
พวกเราทั้งหมด ทำงานด้วยกันเป็นทีม เวลามีเพื่อนบาดเจ็บ คนที่เหลือจะต้องช่วยประคองทีมให้รอดพ้นไปให้ได้ ขณะที่คนเจ็บเหล่านี้ แฟนบอลก็ต้องให้กำลังใจเขาทุกคนที่อยู่ในทีม เพื่อให้เรามีตัวเลือกในการส่งผู้เล่นลงไปในสนาม เพื่อฟาดฟันกับฤดูกาลที่เจอฟุตบอลโลกมาคั่นแบบแปลกๆอย่างไม่เคยเจอมาก่อน และมีภาระต้องลงสนามติดกันเยอะกว่าเดิมจากที่บอลเลื่อนไปสองเกมด้วยในช่วงที่ผ่านมา
เอาใจช่วยทีมกันต่อไป และขอให้นักเตะสำคัญที่เจ็บเหล่านี้ กลับมาเร็วๆ
ราฟาเอล วาราน ตอนนี้ เป็นเหมือนดั่งโล่ที่สำคัญมากๆของปีศาจแดง ประสบการณ์ ทางบอลของเขา จะทำให้ทีมมีผลงานที่ดีเหมือนช่วงก่อนหน้านี้แน่ๆ ถ้าหายเจ็บกลับมา
แม้ว่าเขาดูเหมือนจะเป็นโล่ที่เปราะบางจากเรื่องบาดเจ็บที่เห็นอยู่บ่อยๆ นัดนี้กลับมาเล่นพรีเมียร์ลีกแมตช์สำคัญก็เจ็บเลยทันที แต่การมีวารานอยู่ มันทำให้แผงหลังเราแน่นและแข็งแกร่งแบบที่เกินกว่าหลายๆคนจะรับรู้ ในการยืนเป็นกองหลังที่เป็นหลักประกันความแน่นอนให้กับทีม ซึ่งนั่นเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับคนเล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค
"เปราะบาง แต่ก็สร้างความแข็งแกร่งอันมหาศาล" ศัพท์การ์ตูนมาแบบนี้ มันทำให้เรานึกถึงโล่ชิริวในการ์ตูนเรื่องเซนต์เซย่าขึ้นมาทันที ที่ว่าเป็นโล่เปราะๆขี้โม้อันหนึ่ง(ฮา) ที่คล็อธดราก้อน ว่ากันว่าแข็งแกร่งนักหนา ซึ่งสุดท้ายแล้วก็เห็นแตกทุกภาค(ฮา)
แต่ในบริบทของแมนยูไนเต็ด โล่ที่ชื่อว่าราฟาเอล วาราน แม้ดูจะเปราะบางก็ตาม เขาก็ยังเป็นคนหนึ่งที่แฟนแมนยูต้องการให้ฟิตและพร้อมสนามมากที่สุดคนหนึ่งจริงๆ
โชคดีที่เกมหลังจากนี้ไม่หนักมาก เจอโอโมเนีย นิโคเซีย 2 เกม + เอฟเวอร์ตัน + นิวคาสเซิล มีเวลาถึง 4 เกม เพื่อรอให้วาราน กับ แมกไกวร์ ฟิตหายเจ็บกลับมาเป็นกำลังสำคัญของเราอีกครั้ง เพื่อผนึกกำลังกับดาโลต์ มาลาเซีย และมาร์ติเนซ ให้แข็งแกร่งดังเดิม
ภาวนาขออย่าให้พี่แกเจ็บนานเกินไป และขอให้เรียกความฟิตกลับมาให้ได้ไวที่สุด ทีมเราขาดนายไม่ได้แล้วจริงๆ
บทสวดชินบัญชรต้องมาอีกรอบแล้วงานนี้ หลังจากสำเร็จไปแล้วรอบนึงที่ปลอดภัยกลับมาจากทีมชาติฝรั่งเศส
คราวนี้มาช่วยกันสวดให้เขา "หายเร็วๆ" แล้วกันครับ
-ศาลาผี-
References
https://www.whoscored.com/Players/93206/Show/Rapha%C3%ABl-Varane
