ทีมชาติไทย ชุดผ่าตัดทีมใหม่ ต้องดวลกับเจ้าเอเชีย และทีมอันดับ 6 ของโลก
ก่อนเกมหลายคนรู้ดีว่า ทีมชาติไทย เป็นรองคู่ต่อสู้อยู่ ทั้งกระดูกฟุตซอล ความสามารถเฉพาะตัว รวมถึงประสบการณ์
แต่ก็แอบหวังลึก ๆ ว่าเราจะสร้างความ “ปวดหัว” ให้คู่แข่งได้บ้าง คือไม่เสียง่าย เล่นแบบรัดกุมอดทน ผิดพลาดให้น้อยที่สุด อาศัยจังหวะฉาบฉวยรวดเร็ว หรือข้อผิดพลาดของคู่ต่อสู้ลุ้นทำประตู
แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นดังที่คิด แค่นาทีแรก อิหร่าน ก็มาได้ประตูออกนำไปตั้งแต่ไก่โห่
จากเกมที่รัดกุม ต้องพยายามหืออือเถียงเพื่อเอาประตูคืนบ้าง
ซึ่งหลังจากเสียประตูไป นักเตะไทย ก็ถือว่าแทบไม่ได้มีข้อผิดพลาดมากมายอะไร กล้าเล่น กล้าลุย กล้าเลี้ยง ไม่เกรงกลัวอิหร่านแต่อย่างใด ที่สำคัญมีโอกาสลุ้นทำประตูด้วย แต่น่าเสียดายที่ไม่เฉียบขาดพอ
ภาพรวมครึ่งแรก ทีมชาติไทย ทำได้ดีกว่านัดที่ผ่าน ๆ มาในทัวร์นาเมนต์นี้เลยด้วยซ้ำ แม้จะตามหลังอยู่ 0-1 แต่แค่มาตรฐานของ อิหร่าน นั้นสูงเกินกว่าทีมที่เราเคยเจอมาทั้งหมด
เราพลาดแค่จังหวะเดียวจากต้นเกม และ อิหร่าน ก็ไม่ปล่อยโอกาสนั้นให้หลุดมือ
อย่างไรก็ตาม อิหร่าน เขารู้ดีว่าการนำแค่ 1 ประตู มีโอกาสถูกสวนตูมได้ทุกเมื่อ และสถานการณ์เขาที่แม้เหนือกว่า แต่ก็ยัง “ไม่ปลอดภัย”
ครึ่งหลังสิ่งที่ อิหร่าน อัปเกรดขึ้นจากครึ่งแรกคือสปีดบอล และการจจู่โจมเกมรุกริมเส้นให้ไวขึ้น และเป็นที่มาของ 2 ประตู จากการบุกฝั่งซ้าย ที่ใช้ความสามารถเฉพาะตัวของ ซาลอร์ อักฮอปูร์ เปิดยัดเข้ามายังจุดนับพบให้เพื่อนชาร์จเข้าไป
นอกจากนี้ ยังมีบอลเร็วของผู้รักษาประตูที่เลือกฝากมาให้ ซาอิด อามาดาบบาซี่ กองหน้าตัวเป้าพิงแล้วเก็บเล่น รวมถึงจังหวะเพรสซิ่งแดนบนไม่ให้ไทยตั้งเกมได้ ซึ่งแน่นอนว่า 1-1 นักเตะไทยแทบเอาชนะไม่ได้เลย
น่าเสียดายที่ตัวริมเส้นเราอย่าง วรุฒ หวังสะมาแอล ที่เลี้ยงกินตัวได้ดีมาได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ อิหร่าน สามารถเลี้ยงกินตัวเราได้หลาย ๆ จังหวะ
เมื่อเสียไวจนตามหลัง 0-5 การ์ลอส เซซาร์ ตัดสินใจใช้ “พาวเวอร์เพลย์” อีกหนึ่งจุดแข็งของทีมชุดนี้ ที่ใช้สู้ยามทีมตกเป็นรอง รวมถึงส่งตัวเก๋าอย่าง ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ลงมาช่วยประคองน้อง ๆ
แต่ก็อย่างที่บอก อิหร่าน “ตึงจัด” แทบไม่ให้เราได้เล่นอย่างสะดวกเลย ขนาดเป็นพาวเวอร์เพลย์ก็ยังเขี้ยวแทบไม่มีช่องให้เราได้เข้าทำได้
โอกาสที่ดีสุดในครึ่งหลัง เห็นจะเป็นหลุดเดี่ยวของ เจษฎา ชูเดช ที่ได้ดวลตัว ๆ แต่ก็ไม่เฉียบขาดพอให้ทีมตีไข่แตกได้
จบเกมแพ้แบบ “กล้าพูด” ว่าเราเป็นรองเขาทุกมุมจริง ๆ
แต่อย่างที่บอกไปในคอลัมน์ก่อนว่า อิหร่าน ก้าวข้ามเอเชียไปไกลแล้ว เขาคือทีมระดับโลก เกมวันนี้เราอาจแพ้ แต่สิ่งที่ทีมชุดนี้ได้มาคือประสบการณ์ที่ดี เพื่อพัฒนาตนเองและทีมให้แกร่งขึ้นกว่าเดิม
อย่างไรเสียก็มีโอกาสได้ “ล้างตา” กันอีกในหลาย ๆ ทัวร์นาเมนต์
ล้มแล้วก็ลุก ไม่เป็นไร ยังมีรอบชิงชนะเลิศอันดับ 3 กับ อุซเบกิสถาน คอยอยู่
