โรนัลโด้ R9 จากคำบอกเล่าของนักกายภาพ
นี่คือสุดยอดดาวยิงบราซิเลี่ยน ที่หลายคนยกย่องว่าเป็นกองหน้าที่เก่งสุดในโลกในยุคของเขาเอง ไม่ว่าจะเป็นการยิงประตูที่เฉียบคม และสปีดต้นที่จัดจ้าน รวมถึงสกิลสับขาหลอกอันโด่งดัง ทำให้เขากลายเป็นกองหน้าขวัญใจของแฟนบอลทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม โรนัลโด้ เหมือนกับมีคำสาปบางอย่าง ทำให้เขาไม่สามารถยืนระยะได้เหมือนที่ควรจะเป็น นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า “อาการบาดเจ็บ” นั่นเอง แน่นอนว่า เขาผ่านอาการบาดเจ็บหนักที่หัวเข่ามา ก่อนจะพลิกชะตากลับมาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกเป็นผลสำเร็จ เราลองไปฟังเรื่องนี้จากปากของนักกายภาพบำบัด ที่เคยทำงานร่วมกับเขากัน
“ผมมักเปรียบเทียบเขาเหมือนกับนกฟีนิกซ์”
นิลตัน เปโตรเน่ นักกายภาพบำบัด กล่าวถึงโรนัลโด้ “R9” ที่เคยอยู่ในความดูแล
“เราทำการทดสอบความเร็วของเขาหลายครั้งที่อินเตอร์ มิลาน เราได้ข้อสรุปว่า โรนัลโด้ ไม่ได้มีเพียงแค่ความเร็วเท่านั้น” เปโตรเน่ กล่าวต่อ “เขายังมีการประสานงานของกล้ามเนื้อที่ยอดเยี่ยม เขาสามารถเปลี่ยนทิศทางการวิ่ง จากซ้ายไปขวาได้อย่างไร้ที่ติ จากการทดสอบพบว่า เขาวิ่งระยะ 100 เมตร ด้วยเวลาประมาณ 10.2 - 10.3 วินาทีเท่านั้น”
“เขามีพละกำลังที่สุดยอด ถือเป็นของขวัญทางพันธุกรรมเลย เมื่อคุณรวมสิ่งนั้นเข้ากับการฝึกฟุตบอลมานานหลายปี เขาพัฒนาส่วนผสม ระหว่างความเร็ว, ความแข็งแกร่ง, พลัง และการประสานงานของกล้ามเนื้อ”
“อย่างไรก็ตาม นักกีฬาที่สามารถระเบิดพลังแบบนี้ออกมา ย่อมมีความเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บ ทั้งในส่วนของกล้ามเนื้อ และเส้นเอ็น ตามปกติแล้ว คนที่วิ่งช้า มักไม่ค่อยประสบปัญหาแบบนี้”
“อาการบาดเจ็บของเขา ไม่ได้เกิดจากร่างกายที่อ่อนแอ แต่เกิดจากความสามารถในการระเบิดพลัง เขาไม่เพียงวิ่งเป็นเส้นตรง แต่ยังเปลี่ยนทิศทางการวิ่งด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ หลายครั้งที่เขาล้มลง, ลุกขึ้นมา, เคลื่อนที่จากซ้ายไปขวา ด้วยความรวดเร็ว วิธีการเล่นแบบนี้ นำมาซึ่งอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นได้เสมอ”
เปโตรเน่ กล่าวต่อไปว่า “อาการบาดเจ็บของโรนัลโด้ แย่ที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอในวงการฟุตบอลเลย คุณคงไม่อยากจะเชื่อ หลังจากผ่าตัด หัวเข่าของเขาบวมเท่าขนาดของลูกฟุตบอล !!! มีการต่อท่อดูดเลือดราว 3-4 สาย เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อเลย บางช่วงเวลาที่โรงพยาบาล เขาร้องไห้ออกมา และต้องการมอร์ฟีน เพื่อระงับความเจ็บปวด”
“ครั้งหนึ่ง ตอนกลางดึก เขาโทรมาหาผม พร้อมกับบอกว่า -บอกผมที่ว่า ผมจะสามารถกลับมาเล่นฟุตบอลได้อีกครั้ง ได้โปรด อย่าโกหกผมเลย- ผมอยู่ในช่วงเวลาเหล่านั้น ตั้งแต่แรกของการฟื้นฟู ในขณะที่คนทั้งโลกบอกว่า เขาไม่มีวันกลับมาได้ วิทยาศาสตร์ก็กังขา และเหล่าทีมแพทย์ยังมีข้อสงสัย”
“ขอบคุณพระเจ้า ที่ผมมีโอกาสฝ่าฟันช่วงเวลาเหล่านั้น ร่วมกันกับเขา ..... ผมมักเปรียบเทียบเขาเหมือนกับนกฟีนิกซ์ เขามีความสามารถในการกลับมาเกิดใหม่ แม้ว่าทุกคนคิดว่าเขาไม่สามารถทำได้ ตั้งแต่เป็นเด็ก เขามีจิตใจที่เข้มแข็งอยู่เสมอ เรามีการสนทนาที่จริงจังมากมาย เกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของเขา กระนั้น เขาจัดการกับปัญหาเหล่านั้นได้ดีมาก”
เปโตรเน่ ทิ้งท้ายว่า “การกลับมาทันเล่นฟุตบอลโลก 2002 ? สำหรับเขา มันเป็นเรื่องยากอย่างไม่น่าเชื่อ เขาต้องทำงานหนักราว 9-10 ชั่วโมงในทุกวัน แทบไม่มีการหยุดพักเลย เกิดเครื่องหมายคำถามมากมาย เกี่ยวกับการกลับมาของเขา ดังนั้น เขาจึงต้องต่อสู้กับตัวเอง รวมถึงการต่อสู้กับสื่อต่างๆ ที่ปรามาสว่าเส้นทางลูกหนังของเขามันจบลงแล้ว”
“เขาทำลายกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ในแง่ของนักฟุตบอลคนหนึ่งที่กลับมาลงสนาม หลังจากเจออาการบาดเจ็บครั้งใหญ่ การถูกทำลายเอ็นหัวเข่าอย่างสมบูรณ์ จนก้าวมาอยู่ระดับสูงสุดอีกครั้ง ผู้คนไม่รู้ถึงความเจ็บปวด และความทุกข์ทรมาน การต่อสู้ทั้งหมดนี้ ช่วยให้เขากลายเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น”
เปโตรเน่ กล่าวถึงนักเตะที่บาดเจ็บหนัก จนต้องผ่านการผ่าตัด และทรมานกับความเจ็บปวดทางร่างกาย จนสุดท้าย เขากลับมานำทีมชาติบราซิล คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2002 พร้อมกับคว้ารางวัลดาวซัลโวสูงสุดที่จำนวน 8 ประตู
โรนัลโด้ “R9”