:::     :::

น้ำร้อน น้ำเย็น และ "โครงกระดูกในตู้" ของ Erik ten Hag

วันพุธที่ 26 ตุลาคม 2565 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
3,015
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
การดูแลแมนยูไนเต็ดของเอริค เทน ฮาก ถือเป็นงานที่ท้าทายเขามาตั้งแต่ต้น ช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่วุ่นสุดๆตั้งแต่เขาเข้าทีมมาเลย ทั้งโปรแกรมแข่งขัน และการจัดการนักเตะในทีมที่เกิดปัญหาขึ้น แต่เอริคก็รับมือได้ดี และเชื่อว่าแฟนผีคงจะไว้ใจ อุ่นใจมากขึ้นเมื่อมีเขาอยู่ดูแลทีมเรา ที่มีการใช้ทั้งน้ำเย็นและน้ำร้อนเข้าลูบ และสุดท้าย กับโครงกระดูกในตู้ของเขาที่สนามแคริงตัน มันคือสิ่งที่แฟนผีจะต้องชอบเขามากกว่าเดิมชัวร์ๆ!

อัพเดทและบทสัมภาษณ์ล่าสุดของเทน ฮาก ต่อเกมเปิดบ้านเจอเชริฟในวันพรุ่งนี้ ณ สังเวียนยูฟ่ายูโรปาลีก เอริคกล่าวถึงนักเตะหลายๆคนและสถานการณ์ในทีมไว้ดังนี้


#CR7
"ใช่แล้ว คริสเตียโน่จะอยู่ในทีมวันพรุ่งนี้ ส่วนราฟาก็จะไม่อยู่ ยาวไปจนถึงช่วงฟุตบอลโลกเลย"

"มันไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลย เราก็ตอบคำถามต่างๆเหล่านี้ไปหมดแล้ว เขาก็แค่หลุดออกจากทีมหนึ่งนัด และตอนนี้ก็กลับเข้าสู่ทีมเหมือนเดิมแล้ว"

"ช่วงเวลานี้เรามีสมาธิอยู่กับเกมการแข่งขัน หลังฉากเราทำงานหนักกันอย่างต่อเนื่องในทีม เราจะต้องทดลองและปรับปรุงอยู่เสมอว่าจะพัฒนาทีมยังไงได้บ้าง นั่นคือสิ่งที่เราจะทำกัน"

#DonnyAaronMaguire

"แฮรี่ ดอนนี่ อารอน สามคนนี้กลับมาฝึกซ้อมเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเกมวันพรุ่งนี้แล้ว เดี๋ยวหลังซ้อมเสร็จผมจะตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง"

"แฮรี่ยังมีบทบาทในการลงแข่งขันอยู่ ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการคัมแบ็คกลับมาอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้เขาต้องกลับมาลงเล่นในเกมเหล่านี้ให้ได้ก่อน"


"ผมเข้าใจดีว่าทีมชาติอังกฤษให้ความสนใจทางแมนยูไนเต็ดอยู่ว่าเราจะยังไงบ้าง ซึ่งเราจะดูแลเคสนี้และทำออกมาให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแน่นอน"

#Facundo

"เขาเจ็บยาวมานานมากนะ เป็นอาการบาดเจ็บที่ย่ำแย่ แต่ตอนนี้เขากลับมาแล้ว เพราะงั้นเรามีนักเตะหนุ่มๆหลายคนในตำแหน่งผู้เล่นเกมรุก พวกเขาจะต้องแย่งตำแหน่งกันและพยายามทำให้ผมเห็นว่าดีพอจะอยู่ในทีมของเรา"

#Martial

และสุดท้าย นักเตะอีกคนที่ยังไม่พร้อมลงสนามแน่ๆในตอนนี้คือ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล เหมือนเดิม


"เราคือแมนยูไนเต็ด เราอยากจะมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันที่ดี สู้กับศัตรูไปด้วยกัน ลิช่าทำเช่นนั้นเสมออยู่แล้ว ทุกความท้าทาย ทุกๆการดวลเขาทุ่มเทสุดชีวิต แล้วแฟนบอลก็รักสิ่งนั้นมากๆ คุณจำเป็นต้องมีนักเตะบางคนในทีมที่แสดงออกมาในลักษณะแบบนี้จริงๆ"

"ผมคิดว่าการพักนักเตะก่อนที่จะไปเข้าสู่ช่วงเกมฟุตบอลโลกนั้น ผมคิดว่ามันเป็นไอเดียที่ไม่ถูกสักเท่าไหร่ พวกเขามีเวลาแค่สัปดาห์เดียว แล้วจากนั้นฟุตบอลโลกก็เริ่มเตะเลย จริงๆคุณควรจะต้องรักษาความฟิต และทรงของตนเองให้เหมาะสมและพร้อมที่สุด นักเตะที่ติดทีมชาติไปอาจจะไม่ได้เต็มถังแบบสุดๆได้ขนาดนั้น แต่มันเป็นงานของผู้จัดการทีมชาติที่จะต้องเป็นคนจัดการเรื่องเหล่านี้ด้วยตัวเอง"


การให้สัมภาษณ์ของเอริค เทน ฮาก ยังเป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจให้กับคนอ่าน และคนฟังเสมอ กับการตอบด้วยความจริงใจ ตรงๆไม่อ้อมค้อม ยึดมั่นกับหลักการ และมี "วิธีคิด" กับ "ชุดความคิด" ที่ดีมากๆ

ไม่ตีโพยตีพาย มีปรัชญาการทำทีม และการบริหารที่ดีเยี่ยม แต่ก็ไม่ได้ยึดถือแต่หลักการล่องลอยด้วยทฤษฎีทางความคิดบนหน้ากระดาษแบบสุดโต่งเหมือนผู้จัดการบางส่วน

แต่เขาอยู่กับความเป็นจริงอย่างถึงที่สุด โดยไม่อ้างเรื่องใดๆ และยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดในฐานะผู้จัดการทีมว่าจะต้องรองรับ และมีหน้าที่ดูแลเรื่องราวเหล่านี้

ความคิดสะท้อนวิธีการทำงาน
วิธีการทำงานที่ดี จะได้ผลลัพธ์อันเยี่ยมยอดออกมาแน่นอน


อาจจะมีคนมาอ่านและหาว่า "ศาลาผีมันเขียนเว่อร์ กะอีแค่ผู้จัดการทีมสัมภาษณ์ จะอวยอะไรนักหนา" แต่ผมแค่จะบอกความรู้สึกยินดีปรีดาตรงนี้ว่า การเซ็นสัญญากับเอริค เทน ฮาก เข้ามาสำเร็จ มันคือ "ดีลที่ยอดเยี่ยมที่สุดหลังจากเซอร์อเล็กซ์วางมือ" อย่างแท้จริง

คนนี้แหละ คือ "ของขวัญของแฟนผี" ในการที่ได้กลับมาดูบอลและเชียร์แมนยูแบบสุดมันส์อีกครั้ง นับตั้งแต่ SAF วางมือไป และเราลองผิดลองถูกมาจากยุคมอยส์ กัล มู โอเล่ มากันเยอะ

คิดว่าตอนนี้คือความสุขที่เราน่าจะได้อยู่กับมันนานพักใหญ่ๆเลยล่ะ จนกว่าจะถึงวันที่เอริคไม่อยู่กับทีม ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่แฟนผีจะต้องกังวลในเรื่องที่ยังมาไม่ถึงในเร็วๆนี้แน่

เราเชื่อว่าสโมสรที่สเกลใหญ่จัดๆอย่าง Manchester United ถ้ามีบอสที่เป็นคนคุมทิศทางของสโมสรอย่างถูกต้องด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท บนปรัชญาและวิถีที่ชัดเจน ผ่านการบริหารจัดการอย่างเยี่ยมยอดจากผู้จัดการรุ่นใหม่ไฟแรง มันจะต้องเกิดสิ่งดีๆขึ้นมาในอนาคตแน่นอนเมื่อถึงเวลา

วิธีการบริหารจัดการทีมของเอริค เทน ฮาก มันทำให้เรานึกถึง เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในแง่ดีๆของการบริหารที่คล้ายคลึงกันหลายอย่าง แม้จะไม่เป๊ะก็ตาม แต่มันมีสิ่งดีๆที่เหมือนกันอยู่จริงๆ และเราไม่ได้พยายามโยงด้วย

เรื่องแรก การใช้ "น้ำร้อน-น้ำเย็น" เข้าลูบ ในด้านการบริหาร คือสิ่งที่ดีสุดๆของเอริค ที่สะท้อนเรื่องของ Man Management Skills ของเขาจริงๆ

น้ำร้อน

เอริคมีความเด็ดขาดในการ take action ต่างๆเพื่อจัดการปัญหาและดูแลควบคุมลูกทีม ความประพฤติเช่นใดไม่ดีและเขาไม่ยอมรับ ก็จะออกมาบอกกล่าวให้สาธารณะและแฟนบอลได้รับรู้กันชัดเจน เช่นเรื่องที่เขาไม่ยินดีกับการกลับก่อนของนักฟุตบอลหลายๆคน ที่เคยเกิดขึ้นในช่วงเกมสุดท้ายของปรีซีซั่น ซึ่งในนั้นก็มีนักเตะหลายๆคนที่ทำผิด รวมถึงคริสเตียโน่ โรนัลโด้ด้วยที่โดนเจาะหนักหน่อยอยู่คนเดียว

เทน ฮาก แสดงความต้องการตรงนี้ชัดเจนอย่างตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม และเมื่อเกิดเหตุการณ์ความผิดเกิดขึ้นซ้ำอีกครั้ง ทั้งๆที่ "พูดไปแล้ว" จากการกระทำที่เกิดจากการไม่ควบคุมตัวเองต่ออารมณ์หงุดหงิดของคนที่อดทนเป็นตัวสำรองให้ทีมได้ยากอย่างโรนัลโด้

การลงโทษอย่างเป็นทางการ จึงเกิดขึ้นโดยไม่สนว่า CR7 เป็นใครทั้งสิ้น

แถมมี statement แบบเนื้อๆเน้นๆจาก "สโมสร" ให้เห็นกันจะจะไปเลยว่า บอร์ด และ แฟนบอล จะต้องอยู่ข้างเดียวกันกับความถูกต้องของการสร้างทีมสปิริต และจะไม่มีใครใหญ่กว่าสโมสร โดยไม่ต้องกลัวใครจะครหา หากเข้าใจเหตุผลและความถูกต้อง

จริงๆแล้วมันอาจจะไม่ใช้การใช้น้ำร้อน เพราะนี่คือ "น้ำอุณหภูมิห้อง" ซะด้วยซ้ำ เป็นการลงโทษที่ควรจะเกิดขึ้นตามปกติ บนบรรทัดฐานในภาคคุมทีมของเอริค เทน ฮาก

หลังบ้านเป็นยังไงบ้างเราก็ไม่ได้เห็นเต็มๆ แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่เรียกว่า "Hairdryer" เอริคมีแน่นอน จากคลิปหลายๆคลิป เอริค "ว้าก" ใส่ลูกทีมเวลาที่เล่นไม่ได้อย่างที่เขาต้องการจะให้นักเตะเป็น ในปรัชญาที่เจ้าตัวจะสร้างขึ้นที่นี่ หลายคนคงเห็นคลิปที่เขาว้ากใส่ซีดาน อิคบาล กันบ้างแล้ว หรือสมัยก่อน โนอาห์ แลง ก็เคยโดนจัดกลางการแข่งขันเลยเช่นกัน

ข้างล่างนี้น้ำร้อนแน่นอน F Word มาขนาดนั้น


ระหว่างพักครึ่ง เราไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องแต่งตัว แต่ถ้าให้ถามว่ามี Hairdryer บ้างหรือไม่ คิดว่ามันต้องมีแน่นอน เพราะบางครั้งการกระตุ้นอย่างเด็ดขาด สำคัญมากในเชิงจิตวิทยาที่จะกระตุ้นนักเตะให้ฮึดสู้หรือรู้สึก "ถูกบีบคั้น" ในด้านความรู้สึก แล้วจะทำให้ปลดปล่อยพลังบางอย่างออกมาได้

นักเตะบางคนต้องโดนด่าหนักๆถึงจะตอบสนองออกมาได้ ขณะที่นักเตะบางคนทำแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด มิฉะนั้นเขาจะขาดความมั่นใจ และเล่นไม่ได้เลยทันทีในสนาม จากเคสเปรียบเทียบตีวัวกระทบคราดของ "Rooney-Nani" ที่ป๋าเคยด่ารูนยาวๆจนเจ้าตัวงง เพื่อที่จะให้นานี่ รู้สึกได้ว่าต้องทำตัวยังไง

แล้วคิดดูว่าคนที่อ่อนไหวง่ายอย่างนานี่ ฟอร์มขึ้นๆลงๆตามอารมณ์และความมั่นใจ หากโดนกระทบหนักๆ และใช้ "น้ำร้อน" สาดเข้าไป คนอย่างเขาจะไปต่อไม่ไหวในเกมนัดนั้นแน่ๆ ป๋ารู้เรื่องนี้ดี และบริหารคนด้วยการเลือกปฏิบัติอย่างถูกต้องในด้านการใช้จิตวิทยานักเตะ

คนอย่างนานี่จึงต้องดูแลดีๆ และลูบด้วยน้ำเย็นเสมอ แต่ไม่ได้แปลว่าให้โอ๋นานี่แต่อย่างใด ป๋ามีวิธีดูแลและกระตุ้นอย่างถูกต้องเหมาะสมกับคนเสมอ

ป๋า : น้ำมั้ยหลุยส์ / บัง : ร้อนหรือเย็นครับ? / ป๋า : เย็น ไม่ต้องห่วงหรอก หึหึ / บัง : อ..อ...โอเคครับ (รู้สึกไม่สบายใจยังไงไม่รู้)

ความเฉียบขาด ชัดเจน คือน้ำร้อนที่ถูกสาดลงไปเพื่อให้ทุกคนตื่นตัว รับรู้ว่าควรปฏิบัติตัวยังไงเพื่อทีม เพราะบางครั้งการดูแลที่ขาดความเข้มงวด สุดท้ายแล้วทีมก็จะพังเหมือนอย่างที่เราเคยเป็นมาก่อนหน้านี้ หากขาดน้ำร้อน หรือไม้แข็งตรงนี้ไป

น้ำเย็น

การดูแลด้วยการใช้น้ำเย็นเข้าลูบ เพื่อให้สถานการณ์มันผ่อนคลาย มีหนักแล้วก็ต้องมีเบาด้วย มันคือสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างไม่ตึงจนเกินไป ก็เข้าสู่หลักของมัชฌิมาปฏิปทา หรือทางสายกลางในศาสนาพุทธ หมายถึง การไม่ยึดถือสุดโต่งของทางทั้ง 2

โหดหนัก เข้มงวดหนัก ด่ากราดและตำหนิไม่ไว้หน้า นั่นก็เป็นน้ำร้อนที่ร้อนเกินไปซึ่งมันจะลวกจนเนื้อพองได้

ปล่อยปละ ชิลๆสบายๆ เอาใจทุกฝ่าย โอ๋ทุกคน ไม่ด่าไม่ว่า นั่นคือน้ำเย็นที่เย็นเกินจนทุกให้ทุกอย่างเสียสภาพ แถมยังอาจถูกน้ำแข็งกัดให้เจ็บปวดได้ไม่ต่างกับน้ำร้อน

กัดเจ็บซะด้วยสิน้ำแข็งก้อนนี้

การที่เขาออกมาลงโทษคริสเตียโน่ด้วยน้ำร้อนแล้ว แต่ขณะเดียวกัน เอริคไม่เคยให้สัมภาษณ์เสียๆหายๆกับคริสเตียโน่เลย เขาให้เกียรติโรนัลโด้เวลาถูกนักข่าวถามถึงเสมอๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดี หรือเกิดเรื่องราวไม่สมควรขึ้นใน Squad ซึ่งปีนี้โด้ก็ทำผิดอยู่หลายๆครั้งมากแล้วจนแฟนบอลผิดหวังไปตามกันรวมถึงคนเขียนด้วย

แต่ลองดูคำให้สัมภาษณ์ของเอริค เทน ฮาก สิครับ ยังคงให้เกียรติ และบอกเสมอว่าโรนัลโด้มีส่วนสำคัญ และจำเป็นมากๆสำหรับทีมเรา

นี่คือน้ำเย็นที่ทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้นมากๆหลังจากผ่านน้ำร้อนมาแล้ว และน้ำเย็นก็ไม่จำเป็นจะต้อง "เย็นจริง" อย่างที่ใครเข้าใจ

การออกมาให้สัมภาษณ์ในทางที่ดีมากๆต่อโรนัลโด้ตลอดเวลา ไม่ได้แปลว่าเอริค จะโอ๋ จะกลัวบารมี หรือจะต้องรักษาจิตใจโด้เพื่อให้ "Squad Harmony" (ความกลมเกลียวกันในทีม) มันดีแต่อย่างใด

จริงๆแล้ว เอริค กับ โด้ ก็อาจจะตัดสินใจซึ่งกันและกันแล้วว่า มกราคมนี้อาจจะต้องแยกทางกันจริงๆ เพราะโด้เองเขาก็อดทนกับการที่ไม่ได้ถูกส่งลงสนามอย่างที่เป็นมาได้ ซึ่งในมุมของนักเตะระดับเขา เราเข้าใจ และหากโด้ยอมรับสภาพการเป็นสำรองที่ลดบทบาทไปมากๆเช่นนี้ไม่ได้ ก็ต้องแยกย้ายกัน เป็นเรื่องธรรมดา

แต่การให้สัมภาษณ์ที่ยังให้เกียรติ และพูดถึงแต่ในแง่ที่ดีกับโรนัลโด้จนถึงตอนนี้ มันชัดเจนว่าเอริคใช้น้ำเย็นเข้าลูบ และจะจัดการกันเองอย่างเหมาะสม

ไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้า นี่คือการดูแลทีมที่ดีมากๆของเอริค จะไม่เอานักเตะคนไหนมาด่าให้คนอื่นเห็น พร้อมจะชื่นชม ให้กำลังใจ และไปจัดการกันอีกทีภายในอย่างเรียบร้อยและเด็ดขาด

ภาษาอังกฤษมีสุภาษิตที่มีความหมายแบบเดียวกันนี้ว่า "Every family has a skeleton in the cupboard" หรือ ทุกๆบ้านต่างก็มี "โครงกระดูกในตู้" ของตนเองเสมอ

โครงกระดูกในตู้ของเอริค เทน ฮาก อยู่ที่แคริงตันนี่แหละครับ

เราไม่ปกป้องเรื่องที่โด้ปฏิเสธการลงสนาม และเดินกลับออกไปจากโอลด์แทรฟฟอร์ดเลยนะครับ (อ่านดีๆนะฮะ) เพียงแต่ว่าเรา "เข้าใจ" ปฏิกิริยาของเขาเท่านั้นเองว่า ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น แม้มันจะไม่ถูกต้องเลยก็ตาม

ยืนยันคำเดิม โรนัลโด้ไม่มีสิทธิ์และไม่ควรทำเรื่องดังกล่าวที่หนีกลับบ้านก่อนเพราะไม่พอใจจากการถูกทรีทเป็นตัวสำรองได้ลงเล่นสองสามนาทีสุดท้ายก่อนหมดเวลา

เรื่องนี้ผู้จัดการทีมเป็นคนตัดสินใจ และCR7ต้องยอมรับและแสดงความเป็นมือโปรขั้นสุดยอด จะลงไปแค่ถ่วงเวลาเปลี่ยนตัวสัก ครึ่งนาที คุณก็ต้องลง และต้องอยู่ร่วมกับทีมจนสุดทาง แม้ในใจคุณจะรู้สึกแย่ก็ตาม

วิถีของ "มืออาชีพ" มันคือการยอมรับอะไรก็ได้ทุกอย่าง ที่จะเข้ามาให้เขาทำในอาชีพนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นใคร หมอ นักร้อง วิศวะ นักเขียน นักแต่งเพลง ฯลฯ

คำว่ามืออาชีพ คือการที่ยอมรับทุกอย่างและทำมันออกมาได้ เหมือนที่พี่แบงค์วงแคลชเคยกล่าวไว้ในอัลบั้มแรก


เอริค เทน ฮาก อาจจะไม่ได้แสดงท่าทีหวือหวาอะไรบนข้างสนาม ไม่ได้โชว์ Passion เยอะผ่านท่าทีโหวกเหวก แต่ถ้าสังเกตดีๆ สีหน้าของเขาที่ "โฟกัส" อยู่กับการเล่นของทีมในทุกๆรายละเอียด ทุกๆจังหวะของเกมการเล่น

ข้างในสมองของชายคนนี้ทำงานและคิดไม่หยุดว่า ทีมเล่นเป็นยังไงกันอยู่ ทำได้ตาม Game plan ที่วางมาไว้ไหม และจะต้องทำยังไงเพื่อคอนโทรลสถานการณ์หน้างานตรงนั้นให้ทีม "ชนะ" ในเกมดังกล่าวได้

ไม่ว่าจะเล่นด้วยฟอร์มเทพสุดๆ หรือเล่นกันขาดๆเกินๆ เอริคจะ active และเป็นผู้บัญชาการที่สั่งการในสนามรบด้วยตัวเองอยู่ข้างสนามเสมอ


ถึงจะไม่ได้ออกแอ็คชั่นโวยวายเยอะๆเหมือนกับเป๊ป หรือ คอนเต้ ที่แสดง Passion อันพลุ่งพล่าน

แต่อีกด้านหนึ่งความนิ่งของเอริค เทน ฮาก มันทำให้พวกเราอุ่นใจจริงๆนะ ดังนั้นปีนี้และปีต่อๆไป เราจะเชียร์กันมันส์ๆยาวๆนี่แหละ ถือเป็นช่วงเวลาการเชียร์บอล การเชียร์ทีมที่ดีมากของพลพรรคปีศาจแดงจริงๆ

ขอบคุณอาแจ็กซ์ที่ส่งเอริคมาให้เรา นี่คือของขวัญที่ดีที่สุดของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

กว่าจะหากันเจอ ถึงจะผ่านเรื่องราวมามากมาย ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะผิดซะมากกว่า แต่สิ่งเหล่านั้นจะเป็น "รสชาติแฝง" อันสำคัญที่สุด ยามที่กลิ่นของความสำเร็จมันโปรยหอมหวลไปทั่ว เมื่อเรามองย้อนกลับไป ทุกบทเรียนความล้มเหลวที่ผ่านมาจะมีคุณค่าในวันข้างหน้าแน่นอน

ที่พวกเราร้องไห้เป็นหมื่นครั้ง ก็เพื่อมาเจอคุณ เอริค

คิดไม่ผิดที่เชียร์ให้เอริคได้มาคุมทีมตั้งแต่แรก เหนือกว่าแคนดิเดทคนไหนๆ สิ่งที่เอริค เทน ฮาก มีอยู่ในตัว มันตรงกันกับสิ่งที่ขาด และมันเข้ากันได้ดีกับตัวตนของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดจริงๆ

ปีศาจแดงร่างนี้จะไม่ใช่การกอบกู้ยุคของเซอร์อเล็กซ์กลับมาอีกแล้วเหมือนที่เราเคยเป็นมา แต่เรากำลังจะสร้างปีศาจแดงในยุคสมัยใหม่ ที่จะประสบความสำเร็จจากน้ำมือของผู้ชายคนนี้

ความสุขจะมาอีกในไม่ช้า ใช้เวลากันอีกนิดหน่อย แต่พูดได้เลยว่า New Era มันจะต่อยอดจากความสดใหม่ ไปสู่ความสำเร็จครั้งใหม่ที่ไม่เหมือนกับยุคป๋า

ถึงฟีลเชียร์จะมีความแตกต่างทางรสชาติ แต่บอสทั้งสองคนนี้เทสต์ดีเหมือนกันทั้งคู่

The Real SAF's Successor .. Erik ten Hag

#BELIEVE

-ศาลาผี-


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด