เคยมีคนถามว่า เวลาเราเจอพิษการตัดสินที่ไม่แฟร์ จากกรรมการผู้ซึ่งทำตัวเป็น "นักเตะคนที่ 12" ของคู่แข่ง ทำให้รูปเกมและการเล่นของทีมเสียเปรียบจากปัจจัยเรื่องการตัดสินในสนามที่ไร้มาตรฐาน และเอนเอียงอย่างเห็นได้ชัด จนทำให้เรามีปัญหาในการจะเอาชนะทีมคู่แข่งได้
เรื่อง "กรรมการ" เราจะแก้ปัญหากันยังไง ในเมื่อมันเป็นปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้?
จริงๆแล้วเราสามารถ "ป้องกันความเสี่ยง" ที่จะโดนพิษตรงนี้เล่นงานได้ครับ
ประเด็นนี้เชื่อว่าแฟนผีคงจะรู้ดีและเข้าใจอยู่ จากความเจ็บช้ำในเกมนัดแรกของยูโรปาลีก ที่แมนยูไนเต็ดแพ้ 0-1 คาบ้านต่อเรอัล โซเซียดาด ทีมที่แทบจะไม่มีอะไรน่ากลัวเลยด้วยซ้ำในวันนั้น แต่กลับเอาชนะเราได้จากลูกโทษที่จุดโทษของ Brais Méndez
เป็นผลการแข่งอันสุดช็อค จากการตัดสินของกรรมการอีกคนที่เราไม่ลืมหน้ามันเลย นั่นก็คือ Marco Di Bello ผู้ตัดสินคนในรูปนี้ที่เป่ามาร์ติเนซแฮนด์บอล จากลูกที่เขาโถมตัวเข้าไปบล็อคลูกยิงของดาวิด ซิลบา แล้วบอลที่ติดบล็อคขาแฉลบขึ้นไปโดนมือ
เขาชี้ไปที่จุดโทษพร้อมแจกใบเหลืองทันทีแบบสุดมั่นใจ
เมื่อ Brais Méndez ยิงเข้าไป และเราทำประตูคืนไม่ได้ สรุปแล้ววันนั้นก็พลาดท่าแพ้ไป 0-1 คาโอลด์แทรฟฟอร์ด จากการโดนจุดโทษ พร้อมใบเหลืองของลิซ่าแบบไม่ลังเลใดๆทั้งสิ้น
ใช่ครับ จะบอกว่าแมนยูยิงกันไม่ได้เองมันก็ถูก แต่แค่ส่วนเดียว แต่ปัจจัยการตัดสินมันส่งผลจริงๆ เพราะ "ถ้า" ไม่โดนก่อนจากจุดโทษปริศนานี้ ยูไนเต็ดอาจจะไม่เสียกระบวน และก็ยังคงบุกต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่เสียเปรียบ ซึ่งมันก็อาจจะทำให้เราไม่กดดัน และอาจทำประตูใส่โซเซียดาดได้เช่นกัน
คำอธิบายชัดเจนว่าถ้าบอลโดนส่วนอื่นของร่างกาย เช่นหัว ร่างกาย รวมถึงเท้าและขาโดยตรงก่อน แล้วค่อยไปโดนแขนหรือมือเค้าไม่เป่ากันแล้ว
คนดูบอลก็รู้ๆอยู่ว่า โมเมนตัม และสถานการณ์ในเกม มันสำคัญมากแค่ไหนต่อผลการแข่งขัน
พลาดโดนนำไปลูกนึง จากนั้นโดนดึงเกม โดนถ่วงเวลา บางทีมันก็แทบจะทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน
วิธีป้องกันการโดนเล่นงานจากคำตัดสิน ในจังหวะสำคัญๆที่ส่งผลให้ทีมพลาดท่านั้น สามารถทำได้ด้วยวิธีการที่simple(แต่ทำยาก)ที่สุด นั่นก็คือการ "เล่นให้เหนือกว่าคู่ต่อสู้หมดทุกกระบวนท่าจนกรรมการเป่าเอื้อประโยชน์ให้คู่แข่งลำบาก" นั่นเอง
เราต้องพยายามดีกว่าคู่แข่งให้ได้อย่างขาดลอยและเด่นชัด ทั้งภาคการครองบอลที่เป็นฝ่ายคุม คอนโทรล และมีบอลในครอบครอง ซึ่งโอกาสจะฟาล์วจากการเป็นฝ่ายครองบอลในภาคการเล่น Phase I มันน้อย
การทำเกมรุกที่ดุดัน เข้มข้น และเจาะเข้าเนื้อ(อันตราย)ที่จะกดดันใส่ปากประตูคู่แข่ง
และการยิงจบสกอร์ทำประตูให้ได้เน้นๆอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย นั่นคือวิธีแก้ปัญหาที่จะทำให้ทีมเรา "โดนอิทธิฤทธิ์การเป่าของ'จารย์เฮงซวยทั้งหลาย" ไปได้เยอะ
ยังจำไม่เคยลืมเลือน คอยเตือนตัวเองเอาไว้ หมอนี่คือกรรมการอิตาเลียนคนนั้นไง "Marco Di Bello"
จริงอยู่ว่า แม้พยายามกี่ครั้งก็ตามแต่ เล่นให้ดีแค่ไหนก็อาจจะทำให้การถูกเป่าอย่างไม่เป็นธรรม มันหายไปทั้งหมดไม่ได้ สุดท้ายก็ยังมีโอกาสเจอเกม เจอกรรมการเป่าแย่ๆแบบนั้นอยู่ดี
เราหนีสิ่งนี้ไม่ได้ 100% หรอกครับ และจะบอกว่า จริงๆแล้วทีมไหนก็มีสิทธิ์เจอได้หมด ไม่ใช่แค่แมนยู เราพูดถึงกรณีโดยทั่วๆไป ทุกทีมเจอเหมือนกันหมด
แต่.. ลองคิดดูเล่นๆด้วยตรรกะง่ายๆว่า ถ้าเราเล่นให้มันดีกว่า แข็งแกร่งกว่า และเหนือกว่าคู่ต่อสู้อย่างเห็นได้ชัด โอกาสที่กรรมการเหล่านี้จะหาเรื่องเล่นงานเราได้ก็จะมีน้อยลงทันที
จุดสำคัญที่ช่วยได้คือปรัชญาที่เน้นเรื่องการครองบอลนั่นแหละ ที่มีบทบาทสำคัญตรงนี้และช่วยได้เยอะ
เพราะถ้าทีมเราเป็นฝ่ายมีบอลกับเท้า โอกาสโดนเป่าแบบจ้องเล่นงานจะน้อยลงไป ยิ่งถ้ามีเกมคอนโทรลและคุมบอลกันดีๆ จ่ายบอลกันเนียนๆแม่นๆ
แต่ในหลายครั้งๆที่ผ่านมา หากเราคุมบอลกันไม่ดี ไม่ว่าคนจ่ายหรือเฟิร์สทัชของคนรับ หรือถูกเพรสซิ่งจนต้องพุ่งเข้าหาบอลในจังหวะ 50/50 สถานการณ์แบบนั้นแหละครับที่จะเปิดโอกาส หรือ "เอื้อ" ให้กรรมการมีงาน(!?) เหล่านั้นเป่าได้ทันทีแม้เป็นฝ่ายครองบอลอยู่
หลักๆเลยเพื่อจะแก้ไขความเฮงซวยของเรื่องเหล่านี้ คุณก็แค่ต้องพัฒนา "Quality" และ "Details" การเล่นของทีมให้เนี้ยบและสร้างความแตกต่างให้เห็นชัดเจน คือสิ่งสำคัญที่สุด
ไม่จำเป็นต้องเน้นเรื่องครองบอลก็ได้ ที่จะลดโอกาสโดนเป่าเอียง แต่ถ้าทีมมีจุดแข็งด้านอื่น เช่นการทำสกอร์ ก็ช่วยได้เหมือนกัน คือขอแค่มีโอกาสบุกไปแล้วสามารถ "ยิงประตู" ได้อย่างแน่นอน ยิงได้แบบใสสะอาดคลีนๆ และยิงได้หลายประตูเพื่อเป็นบัฟเฟอร์กันไว้เผื่อว่าโดนตีตื้น
ถ้ายิงคู่แข่งได้โดยไม่มีอะไรกังขาที่เขาจะหาเรื่องลากย้อนVARไปริบประตูเราได้ หากจบคมๆ และยิงใส่คู่แข่งให้มัน "ขาด" ได้ ความเสี่ยงที่จะเสียผลการแข่งขัน จากเรื่องพิษกรรมการก็จะลดลงไป
ถ้ายิงให้ขาดแบบเกมนี้ได้ ต่อให้เจอแจกจุดโทษมั่วๆขึ้นมาก็ยังปลอดภัยอยู่ดี เพราะมีที่ว่างเผื่ออีก1ลูกที่ทำให้เราเก็บผลชนะได้ แม้เจอเป่าแบบน่าเกลียด
เพราะฉะนั้น สรุปแล้ววิธีการที่จะรับมือกับการเป่าที่โคตรไม่เป็นธรรม มีวิธีแก้ได้ก็คือเราต้องเล่นดีจนพวกเขาเหล่านั้นไม่มีโอกาสจะตัดสินแบบเอนเอียงได้ ทำให้พวกเขามีโอกาสเป่าได้น้อยๆ ถ้าเรายังครองบอลอยู่ และก็ยิงทิ้งห่างไว้ เผื่อเกิด Accident จากการโดนเป่าให้คู่แข่งในจุดอันตรายของเรา เช่นรอบๆกรอบเขตโทษ หรือแม้แต่เป็นจุดโทษก็ตาม
หลักคิดแบบเป็นขั้นเป็นตอน มีง่ายๆตามรูปนี้
จริงๆมันก็ไม่ได้เป็นทฤษฎีอะไรหรอกครับ แค่ลองคิดแก้ปัญหาไปทีละข้อๆแล้วเรียบเรียงดูเท่านั้นเอง จะเห็นว่า วิธีการรับมือกับเรื่องกรรมการ หากว่ามั่นใจในตัวเอง และ "เล่นดีกว่าคู่แข่ง" ให้ได้ไว้ก่อน ก็ลดทอนปัญหาเรื่องพวกนี้ได้เยอะแล้ว ต่อให้จะยังโดนเป่าไม่เป็นธรรม มันก็จะไม่เกิดขึ้นบ่อยนั่นเอง เหมือนกับที่ระยะหลังแมนยูไนเต็ดโชว์ฟอร์มได้ดี จนเก็บชัยชนะอย่างต่อเนื่อง
แต่บางเกมก็ยังยิงไม่ขาดคู่แข่ง และเจียนอยู่เจียนไปเหมือนกันจากการนำแค่ลูกเดียว โชคดีว่าเรามีกองหลังและเกมรับที่เหนียวแน่น ลงตัว และ Passion ฮึกเหิมกันสุดๆในตอนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดาวิด เดเคอา, ลิซานโดร มาร์ติเนซ และ ดิโอโก้ ดาโลต์ ที่ระเบิด Passion ใส่กันอย่างสุดลิ่มทิ่มประตูทุกนัด
แผงแนวรับทั้งแผงที่ถวายชีวิตเพื่อป้องกันประตูแมนยูไนเต็ดให้ปลอดภัย คือหนึ่งในสิ่งที่ดีงามสุดๆของปีนี้
แต่ถ้าพวกเขาเหล่านี้พยายามแล้ว ก็ยังโดนเล่นงานได้อยู่ดีแม้ไม่ผิด เหมือนเคสมาร์โค ดิเบลโล่ ในเกมเจอโซเซียดาดนัดนั้น
เราจะทำยังไง ถ้าเกมยังเสมอ หรือ นำคู่แข่งแค่ 1 ลูก
แล้วบังเอิญว่าวันนั้นเป็นวันที่แผงหลัง Passion 4 Project เหล่านี้ของเราเกิดป้องกันได้ไม่ไหวไปตลอดรอดฝั่ง จะทำยังไง ถ้าเจอการตัดสินห่วยๆที่ส่งผลต่อการแข่งขัน ที่เรา "ไม่สมควรจะได้รับ" อีก
หนึ่งในช็อตสุดน่าเกลียดที่เดเคอาโดนฟาล์วเต็มๆจากด้านหลัง จนทำให้ออกมาตัดพลาด พ่ายแพ้ไปในซีซั่น2020/21 และทีมเป๋จนเสียโมเมนตัมในลีก
นั่นแหละครับ คือคำตอบของบทความนี้ที่ว่า เราต้องเล่นให้ดีและเหนือกว่าคู่แข่งให้ได้ทุกมิติอย่างขาดลอย เพื่อที่จะลดโอกาสเสี่ยงจากการโดนเป่าให้มากที่สุด และลดโอกาสเสี่ยงจากการโดนเล่นงานเป่าจังหวะสำคัญๆให้มากที่สุด
ครองบอลดีๆเน้นๆ เป็นฝ่ายได้ทำเกมบุกเยอะๆ คุมสถานการณ์เกมให้อยู่หมัดไม่ว่าจะมีบอลหรือไม่มีบอล และ ยิงให้ได้เยอะที่สุดเพื่อ "เผื่อ" ความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ
ทั้งหมดที่เขียนมานี้ช่วยแก้ปัญหาเรื่องการปวดตับกับกรรมการได้
"หนึ่งในกรรมการที่เลวร้ายที่สุด" Slavko Vincic กับวีรกรรมเฮงซวยเป่าเอื้อแอตมาดริดที่ไม่ได้มีอะไรเลย จนได้เปรียบชนะผ่านแมนยูไป ในUCLปีที่แล้ว
ในหลายปีให้หลังที่เราเจอมานี้ มันจะเบาลงไปเยอะเลย หากว่าแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ปรับปรุงคุณภาพให้ดียิ่งๆขึ้นไปจนเหนือกว่าคู่แข่งในทุกๆมิติ เหมือนอย่างที่แมนเชสเตอร์ซิตี้ทำได้ และคว้าแชมป์ลีกต่อเนื่องหลายปีหลังนี้
ถ้าพัฒนาคุณภาพได้ โอกาสที่เราจะเจอลูกอิหยังวะจากกรรมการบ่อยๆ ทั้งในบอลลีกและบอลยุโรป จะน้อยลงไปทันที
เกมเยือนเรอัล โซเซียดาดนัดนี้ คือการแก้ตัวของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่เราหวังและเชื่อว่าทีมจะต้องทำได้ และสามารถ "เอาคืน" การโดนพิษกรรมการจากเกมแรก แล้วเอาชนะเข้าไปอย่างคลีนๆ
"ขาวสะอาด และ ขาดลอย"
มันคือมาตรฐานที่แมนยูและทุกทีมต้องทำให้ได้ ถ้าไม่อยากเจอมารผจญที่ชื่อว่า"ผู้เล่นคนที่12"ของคู่แข่งครับ
-ศาลาผี-
'Cüneyt Çakır'
