ก่อนเริ่มต้น เราขอให้ข้อมูลก่อนว่า อินญากี้ กับ นิโก้ มีโอกาสโคจรมาเจอกันในรอบควอเตอร์ไฟนั่ลเสียด้วยสิ !! 

(อินญากี้ หันมามองน้องชายด้วยสายตาแห่งความภาคภูมิใจพร้อมพูดออกมาว่า “เฮ้ ไอ้น้อง เรากำลังสร้างประวัติศาสตร์”)

………………………………….

ถาม : ในฐานะพี่ชาย คุณรู้สึกอย่างไรบ้างที่น้องชายกำลังจะได้ไปฟุตบอลโลก ?

อินญากี้ : มันเกิดขึ้นระหว่างที่เรากำลังซ้อมอยู่ในสนามซ้อม ผมเห็นผู้จัดการทีมเดินมาที่เราแล้วยิ้มมาให้ ผมพูดกับเขาว่า “เรามีข่าวดีเหรอ ?” เขาบอกผมว่า “ใช่” อีเมล์เพิ่งส่งมาถึงบอกว่า นิโก้ อยู่ในลิสต์ เพื่อนร่วมทีมเรา (แอธ.บิลเบา) ทุกคนต่างเข้ามาสวมกอด ส่วนผมเบิ๊ดกะโหลกเขาไปหลายที พวกเราบรรลุความฝันที่เราทั้งคู่ไม่เคยจินตนาการไปถึง พวกเรากำลังจะไปเล่นฟุตบอลโลกพร้อมกัน ! 

นิโก้ : ผมเดินออกจากสนามซ้อม ผมอึ้งแบบสุดๆ เพราะผมไม่เคยคาดหวังอะไรทั้งนั้น ผมมีความสุขมากและมีความกระหายที่จะทุ่มเททุกอย่างเพื่อทีมชาติ 

ถาม : แล้วเหตุการณ์เป็นยังไงตอนที่คุณอยู่กับแค่สองคนพี่น้อง ? 

นิโก้ : เขาบอกกับผมว่าเขาโคตรภูมิใจในตัวผมเลย ให้ผมใจเย็นๆเข้าไว้ ให้ผมเป็นตัวของตัวเองแล้วก็สนุกไปกับมัน 

ถาม : จินตนาการไว้หรือเปล่าว่าคุณแม่คุณจะรู้สึกอย่างไร ?

อินญากี้ : ผมไม่กล้าคิดแล้วก็ไม่เคยคิดด้วย แต่ผมแน่ใจว่าแม่คงรู้สึกดีใจมากๆกับลูกๆ ผมพูดเสมอว่าเราทั้งสองคนทำทุกอย่างเพื่อพ่อแม่ของเรา เพื่อทุกอย่างที่พวกเขาได้ทำเพื่อเรา มันเหมือนกับการตอบแทนที่พวกเขาเสียสละ ให้พวกเขาได้เห็นลูกๆได้มีฝันที่เป็นจริง 

นิโก้ : ผมโทรหาแม่ทันทีที่ออกจากเลซาม่า (สนามซ้อมของ แอธ.บิลเบา) ตอนนั้นแม่อยู่ที่ กาน่ากับครอบครัวแม่ดีใจแบบสุดๆ แล้วก็ภูมิใจในตัวพวกเรา ไม่มีใครสามารถจินตนาการได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา 

ถาม :  อินญากี้ คุณรู้มั๊ยว่า นิโก้ นอนไม่หลับในคืนก่อนประกาศลิสต์รายชื่อ ?

อินญากี้ : ผมพอจะเดาออก จนตอนนี้เขาก็ยังเหมือนลอยอยู่บนก้อนเมฆเลย 

นิโก้ : มันเป็นคืนที่ยากจริงๆ ผมรู้สึกประหม่าอย่างเหลือเชื่อในการที่จะรู้ว่าผมได้ไปหรือไม่ได้ไป ตอนแรกผมคิดว่าคงไม่ แต่ว่ามีคนบอกว่าผมจะได้ไป ยืนยันว่าผมได้ไปแน่ๆ จนกระทั่งตี 4 ผมก็ยังคิดถึงลิสต์รายชื่อ แล้วพอตอน 9 โมงเข้าผมก็ตื่นมาเพื่อออกไปซ้อม 

ถาม : แล้วพ่อแม่คุณจะเชียร์ใครล่ะเนี่ย ?

อินญากี้ : เขา(นิโก้) รู้แล้ว, แน่นอนว่าจะต้องเป็นพี่ชายคนโต (นิโก้ หัวเราะ) 

ถาม : นิโก้ บอกว่าพี่ชายเข้มงวดมาก ?

อินญากี้ : แน่นอน พวกเราผ่านอะไรๆด้วยกันมามากมายในตอนที่เป็นเด็ก หลายๆครั้ง ผมต้องตระโกนใส่เขา พ่อแม่ต้องไปทำงาน ไม่มีเวลาอยู่บ้านมากนัก และผมจะต้องเป็นคนดูแลนิโก้ เรื่องนี้เป็นสิ่งจำเป็น เป็นความจริงที่ว่าแต่ละครั้งเขาทำในสิ่งที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ใช้หัวคิดมากขึ้น นอกจากนี้การทำผิดก็ยังทำให้เขารู้จักเรียนรู้จากความผิดพลาด 

นิโก้ : ไม่ง่ายเลยสำหรับการเป็นน้อง 

ถาม : อินญากี้ จำได้มั๊ย อะไรคือเรื่องที่แย่ที่สุดที่ นิโก้ เคยทำ ?

อินญากี้ : มีเรื่องนี้แต่ผมไม่สามารถพูดได้ ในบางครั้งผมต้องต่อว่าเขา และเขาต้องตั้งใจฟัง 

นิโก้ : เขาเป็นคนตรงมาก ถ้าเขาต้องการพูดบางอย่าง เขาจะทำให้มันชัดเจนเพื่อให้คุณเข้าใจ เขาสอนผมในหลายๆสิ่งซึ่งผมนำไปใช้ ยกตัวอย่างเช่นตอนที่ผมออกไปปาร์ตี้ในวันที่ไม่ได้เล่น ผมเรียนรู้มากมายจากพี่ชาย เช่นเรื่องระเบียบวินัย 

ถาม : ประสบการณ์การเล่นของ อินญากี้ ? 

อินญากี้ : มันล้ำค่า ผมมีนักเตะที่ยึดเป็นแบบอย่างเช่น กูร์ปีกี,อาดูริตซ์,เด มาร์กอส พวกเขาเป็นผู้ใหญ่ ,กัปตันทีมและเป็นโมเดล เขาเคยมีข้อผิดพลาด ผมทำพลาด สิ่งต่างๆที่ผมเคยทำแย่ๆ ผมไม่อยากให้เกิดขึ้นกับน้องชายของผม เส้นทางของเราคล้ายคลึงกัน และผมพยายามที่จะช่วยเหลือเขา 

ถาม : ในสนาม,คุณเคี่ยวเข็ญเขา(นิโก้)เหมือนกันด้วยใช่มั๊ย ?

อินญากี้ : ใช่, เราเข้าใจกันและกัน ,วิธีการเล่นของเราคล้ายคลึงกัน ความคาดหวังก็เช่นกัน ในสนามผมเค้นสิ่งที่ดีที่สุดจากเขา และผมคิดว่าผลงานของเราทั้งคู่ออกมาน่าพอใจ เรายิงประตูได้ มีแอสซิสต์ 

ถาม : คุณมีความทรงจำเกี่ยวกับห้องนอนที่เคยแชร์กันสมัยวัยเด็กบ้างหรือเปล่า ? 

นิโก้ : มันเป็นห้องที่มีเตียงสองชั้น เขานอนอยู่ข้างบน ส่วนผมนอนข้างล่าง เรามีทีวีและเกมเพลย์ที่ อินญากี้ ซื้อมาให้ผม ที่ห้องนั้น เราต่างก็มีข้อดีข้อเสียของเราก็เหมือนคู่พี่น้องทั่วไป 

(อ่านต่อพรุ่งนี้) 

เจมส์ ลา ลีกา 

        แปล&เรียบเรียง