กาม่า กับความท้าทายครั้งใหม่
เป็นคนคุ้นหน้าชินตากันดีอย่าง อเล็กซานเดร กาม่า
เฮดโค้ชวัย 54 ทำงานในเมืองไทยมากว่า 7-8 ปี ทั้งระดับสโมสรและทีมชาติ เรื่องประสบการณ์ความสำเร็จไม่ต้องพูดถึง
พา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าได้ถึง 8 โทรฟี่ ก่อนมาจับงานกับ เชียงราย ยูไนเต็ด ก็พาทีมหยิบถ้วยไปได้อีก 4 ใบ
ว่ากันตามตรงถ้านับในแง่ “ความสำเร็จ” ไม่มีใครทำได้เทียบเท่าเฮดโค้ชบราซิเลียนรายนี้แล้ว
เพียงแต่ที่จั่วหัวเรื่องว่า “ความท้าทายครั้งใหม่” เพราะหนนี้งานของ “กาม่า” ต่างออกไปจากที่ผ่าน ๆ มา
สถานะของ “ราชันโคขาว” ไม่ใช่บิ๊กทีมเหมือนกับ บุรีรัมย์ และ เชียงราย หรือสมัยที่เจ้าตัวทำงานกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด
อดีตสโมสรเก่าของเขา เพียบพร้อมไปด้วยพ่อค้าแข้งฝีตีนดี จับคนโน้นคนนี้มาใช้งานก็สามารถทดแทนกันได้ หากเปรียบเป็นอาหาร “กาม่า” อาจเป็นเชฟที่อยู่ในภัตตาคาร มีวัตถุดิบชั้นเลิศให้เลือกสรรปรุงตามใจอยาก
ต่างจากทีมใหม่ของ “กาม่า” ที่แทบไม่มีวัตถุดิบเกรดเหล่านี้อยู่เลย
เวลานี้กำลังจมบ๊วยของตาราง เก็บไปได้เพียง 7 คะแนนจาก 13 เกมที่ลงสนาม ไม่มีซุป’ตาร์ระดับทีมชาติคอยช่วยประคองทีม หรือสร้างจุดเปลี่ยน ผู้เล่นต่างชาติที่ดึงเข้ามายังไม่ได้ถึงขั้นขนาด “แบกทีม” ได้
แม้ฟุตบอลสมัยใหม่ “แท็คติก” คือหมากกลยุทธที่สำคัญในการคว้าชัยชนะ แต่ศักยภาพผู้เล่นคือหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญไม่แพ้กัน
เขาต้องเข้ามาเริ่มนับหนึ่งใหม่เกือบทั้งหมด โดยมีเป้าหมายหลักคือพา ลำพูน วอริเออร์ ขยับให้พ้นจากท้ายตารางก่อนเป็นอย่างแรก
หยิบจับวัตถุดิบลูกหนังที่มี ปรุงออกมาให้กลมกล่อม ก่อนตลาดซื้อขายเลก 2 จะเปิดขึ้น จึงค่อย ๆ ทยอยเปลี่ยนแปลงทีมตามใจอยาก
อย่างไรก็ดี ชาเลนจ์แรกของเขาในเมืองเหนือ ดูเหมือนจะเป็นปลุกเกมรุกที่ทื่อให้กลับมาเฉียบคมกว่านี้เสียก่อน
ปัญหาหลักของ ลำพูน วอริเออร์ คือความเฉียบคมในพื้นที่สุดท้าย ที่ใช้ “โอกาสเปลือง” สร้างจุดเปลี่ยนในพื้นที่สุดท้ายได้ไม่ดีพอ
สถิติตอบเราแทนได้อย่างดี ลำพูน ปีนี้เพิ่งเจาะตาข่ายคู่แข่งไปได้เพียง 4 ประตูเท่านั้น เรียกว่าน้อยที่สุดในลีก
สิ่งเหล่านี้อาจเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดฝีมือของ “กาม่า” เช่นกัน ว่าจะเข้ามาเปลี่ยนทีมได้มากน้อยแค่ไหน จากการเปลี่ยนจากทีมใหญ่มาคุมทีมเล็ก ๆ แม้ตัวเขาเองจะมากเลเวล รู้จักมักจี่ฟุตบอลไทยเป็นอย่างดีก็ตาม
ที่พอชื้นใจขึ้นมาบ้างสำหรับสาวก “ราชันโคขาว” คือ กาม่า กับ โค้ชโอ่ง เป็นกุนซือที่ใช้ระบบการเล่นคล้ายกันคือ 3-5-2 เป็นหลัก ซึ่งตรงนี้ผู้เล่นอาจไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก กาม่า อาจเพียงเติมแต่งรายละเอียดแท็คติกเสริมเข้าไปก่อน
2 เกมสุดท้ายก่อนจบเลกแรก คือเวลาที่เหมาะสำหรับการบิดโมเมนตั้มทีมให้กลับมาชั้นดี เพราะคู่ต่อสู้ที่พวกเขาต้องเจอไม่ใช่บรรดาตัวตึงเขี้ยวลากดินหัวตาราง หากแต่เป็นทีมเกรดเดียวกันอย่าง ลำปาง เอฟซี และ สุโขทัย เอฟซี
ขี้หมูขี้หมาต้องมีติดมืออย่างน้อยสัก 4 คะแนนก่อน
มาดูกันว่าเขาจะคือ “คนที่ใช่” สำหรับ ลำพูน วอริเออร์ หรือไม่ ?
Photo : FB Lamphun Warriors