ฟ้าหลังฝนของ "ฉลามชล"
ส่วนที่เซอร์ไพรส์คงหนีไม่พ้นตำแหน่งรองแชมป์เลกแรก ที่กลายเป็น “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ที่แซงเข้าป้ายแบบเซอร์ไพรส์ เหนือทีมเงินหนาอย่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด,การท่าเรือ เอฟซี และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงเวลาอันเลวร้ายของ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี อย่างแท้จริง เพราะทีมเจอสารพันปัญหาพุ่งชนดุจพายุ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวนอกสนามที่นักเตะในสังกัดอย่าง “วรวุฒิ สุขุนา” มือกาวดาวโรจน์เมาแล้วขับ จนก่อเหตุขับรถชนคนเสียชีวิต
รวมถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของ “เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว” กองหลังจอมเก๋า ซึ่งต่อมาโดนสโมสรสั่งลงโทษสถานหนักทั้งปรับเงินและแบนห้ามลงสนามไปแล้ว
ทำให้สโมสรโดนกระแสสังคมโจมตีอย่างหนัก ซึ่งแน่นอนว่ามันส่งผลกระทบโดยตรงกับภาพลักษณ์สโมสรฟุตบอลอาชีพและถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในศูนย์บ่มเพาะแข้งเยาวชนที่ดีที่สุดของเมืองไทยเป็นอย่างมาก
ขณะที่ฟอร์มการเล่นของทีมก็สะดุดไปดื้อๆ ไม่ชนะใคร 5 เกมติดต่อกันจากการลงเล่นทุกรายการ
แถมเป้าหมายในการลุ้นคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วย ทางลัดสู่การเดินทางไปเล่นฟุตบอลถ้วยสโมสรเอเชีย อย่าง เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก มีอันต้องเก็บฉากอย่างรวดเร็ว
ทั้งฟุตบอลรีโว่ ลีกคัพ ที่จอดป้ายแค่รอบ 32 ทีม และช้าง เอฟเอคัพ ที่โดนสอยร่วงตั้งแต่รอบ 64 ทีม หลังโดนทีเด็ดของ “นครปฐม ยูไนเต็ด” จากลีกรอง เอ็ม-150 แชมเปี้ยนส์ชิพ ภายใต้การคุมทีมของ “โค้ชธง” ธงชัย สุขโกกี เขี่ยตกรอบทั้ง 2 รายการแบบเจ็บช้ำ
นั่นคือช่วงเวลาอันลำบาก และเป็นการวัดใจสโมสร ทั้งบอร์ดบริหาร นักเตะ และทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ชทุกคน ว่าจะสามารถร่วมแรงร่วมใจกันปัดเป่าหมอกร้ายที่ปกคลุมสโมสรทิ้งไปได้เร็วแต่ไหน
ซึ่งแน่นอนว่าการพูดย่อมง่ายการการทำกระทำ แต่ทุกคนที่มีตราสัญลักษณ์ของ “ฉลามชล” ปักที่อกข้างซ้ายทำได้สำเร็จ เมื่อทีมค่อยๆ กลับมาทำผลงานได้ดีอีกครั้ง
โดยเฉพาะในเกมล่าสุดที่เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี ได้สำเร็จ ด้วยสกอร์ 1-0 จากประตูชัยของ “ฟาอิก โบลเกียห์”
ซึ่งคาแรกเตอร์ที่ทุกคนแสดงออกในสนามบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า พวกเขาต้องการดึงโมเมนตั้มที่ดีกลับมาก่อนจบเลกแรก
ทั้งความกระหาย การวิ่งสู้ฟัด และการเล่นเป็นทีมถูกแสดงออกตลอดเกม 90 นาที
นอกจาก 3 แต้มที่ได้ จนทำให้พวกเขาจบเลกแรกด้วยการเป็นรองแชมป์ประจำเลกแรกของศึกรีโว่ไทยลีก ฤดูกาล 2022-23 นี่เป็นการพิสูจน์หัวจิตหัวใจอันแข็งแกร่งของ “ฉลามชล” จริงๆ
ชีวิตนี้เชื่อว่าไม่มีเคยไม่เคยเดินล้ม แต่ล้มแล้วจะลุกเร็วแค่ไหนต่างหากคือบททดสอบของชีวิต
หวังว่าในเลก 2 หมอกร้ายที่ปกคลุมสโมสรจะหายไป กลายเป็นฟ้าใหม่ที่สว่างจ้า และสร้างความสุขให้แฟนบอลได้อีกครั้ง