บีจี-เมืองทอง 1 แลก 2 ใครคุ้ม ?

หลังเตรียมทำการ “แลกเปลี่ยน” นักเตะกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด
แต่เป็นดีลที่แลก 1 ต่อ 2 ด้วยการนำ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ย้ายฟากกับ วัฒนากรณ์ สวัสดิ์ละคร และ กรวิชญ์ ทะสา แบบที่ไม่มีการบวกเงินเพิ่มแต่อย่างใด
มองในแง่แฟนบอล แน่นอนอาจมองว่า บีจี ปทุมฯ ขาดทุนเต็ม ๆ เพราะเพิ่งสอย เจริญศักดิ์ มาช่วงต้นฤดูกาลด้วยเม็ดเงินสุดแพง ขณะที่ เมืองทองฯ มีความต้องการอยากได้ “เท่ห์” เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
อีกทั้งการเสีย กรชวิญ์ ไป แทบไม่ได้ส่งผลอะไรกับแนวรุก กิเลนผยอง เลยด้วยซ้ำ เพราะในฤดูกาลนี้ “ซัน” เป็นตัวเลือกลำดับท้าย ๆ ของทีม สถิติที่บอกได้ดีคือ เจ้าตัวได้ลงเล่นในไทยลีกไปเพียง 5 นัด รวมเวลา 61 นาที และยิงหรือจ่ายไม่ได้สักประตู
ขณะที่ วัฒนากรณ์ แม้จะเป็นกำลังสำคัญในตำแหน่งแบ็กซ้าย แต่ทีมยังมี สุพร ปินะกาตาโพธิ์ ที่โยกมาเล่นตำแหน่งนี้ได้ รวมถึง โรนัน เปลยจ์เมน ดาวรุ่งที่รอเวลาพิสูจน์ฝีตีน ซึ่ง เมืองทอง เองอาจชั่งน้ำหนักแล้วว่า น่าจะหานักเตะเข้ามา “ทดแทน” ตำแหน่งนี้ได้
![]()
อย่างไรก็ตามทีมอย่างบีจี ขึ้นชื่อว่า “เขี้ยว” ในการทำธุรกิจอยู่แล้ว
หากมองลึกเข้าไปในดีลนี้ นั่นหมายความว่า “เดอะ แรบบิท” อาจมีการผ่าตัดทีมครั้งใหญ่ในช่วงก่อนเข้าเลกสอง
เพราะ เจริญศักดิ์ เองก็ไม่ใช่เป็นตัวเลือกแรกในตำแหน่งริมเส้นที่ ลีโอ สเตเดียม ยิ่งหลังการเปลี่ยนผ่านกุนซือมาเป็น แมตต์ สมิธ ที่เปลี่ยนมาใช้กองหลัง 3 คน ทำให้โอกาสลงสนามของ “เท่ห์” ยิ่งน้อยไปอีก
ส่วน กรวิชญ์ นั้นเล่นได้ทั้งตัวริมเส้น และ กองหน้า ด้าน วัฒนากรณ์ เองก็น่าจะตอบโจทย์ฝั่งซ้ายของ บีจี จากสไตล์การเปิดบอลที่เป็นจุดเด่น อีกทั้ง สหรัฐ ปองสุวรรณ ช่วงหลังถูกขยับมาเล่นเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟในระบบหลัง 3
ทำให้เหลือเพียง อภิสิทธิ์ โสรฎา ที่เป็นตัวหลักในวิงแบ็ก ขณะที่ เอร์เนสโต ภูมิภา ในวัย 32 ปี ก็เจอกับอาการบาดเจ็บบ่อย และได้ลงเล่นไปเพียง 4 เกมรวม 163 นาทีเท่านั้น อนาคตในถิ่น ลีโอ สเตเดียม ของเขาเองถือว่าไม่แน่นอน
เรียกว่าสิ่งที่เสียไป กับสิ่งที่ได้มาในมุม บีจี อาจมองว่าคือจุดที่พวกเขาต้องการ
![]()
เช่นเดียวกับฝั่ง เมืองทองฯ ปีกริมเส้นฤดูกาลนี้ แม้จะเสริม เอริค โจฮานา กับ เอกนิษฐ์ ปัญญา เข้ามา ทว่าฟอร์มโดยรวมแล้วก็ยังไม่ได้ถูกใจมากนัก เพราะมีบางนัดที่ ปรเมศย์ อาจวิไล, ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ รวมถึง อดิศักดิ์ ไกรษร ต้องถูกโยกมาเล่นแทน
การได้ เจริญศักดิ์ เข้ามา น่าจะมาเพิ่มมิติเกมรุกฝั่งขวาทีมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะจุดเด่นของเจ้าตัวที่มีความเร็วในการกระชากบอล และลูกครอสที่แม่นยำ ซึ่งน่าจะเหมาะกับสไตล์ เมืองทอง เวลาเจอคู่ต่อสู้ที่บดใส่ แล้วอาศัยช็อตสวนกลับเร็ว จากพื้นที่ว่างในแนวรับคู่ต่อสู้ ต่างจากตอนอยู่ บีจี ที่คู่ต่อสู้ที่เขาเจอส่วนใหญ่จะตั้งรับไลน์ลึก จนแทบไม่มีพื้นที่ให้ใช้สกิลได้ถนัด
เมืองทองฯ ก็ได้อาวุธที่เขาอยากได้มานาน ขณะที่ บีจี ปทุมฯ เองก็ต้องการเปลี่ยนผ่าน หาผู้เล่นใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์กับระบบการเล่นกุนซือ
หากจะถามว่าดีลนี้ใครคุ้ม มองให้ละเอียดแล้ว มีวิธีเดียวที่จะตอบได้
นั่นคือผลงานทั้ง 3 คนในสนามนั่นแหละ
** Photo : FB Muangthong United / BG Pathum United