:::     :::

ความฝันอันยิ่งใหญ่ของกัปตันอเมริกา

วันเสาร์ที่ 03 ธันวาคม 2565 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
527
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หลังจากหมดยุคของ เคลาดิโอ เรย์น่า กับ คลินท์ เดมซี่ย์ เป็นต้นมา คงมีเพียงแค่ คริสเตียน พูลิซิซ เท่านั้นที่เป็นแข้งชาวอเมริกัน ซึ่งสามารถสร้างชื่อในวงการฟุตบอลยุโรปจนได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางแบบเต็มตัว

คริสเตียน พูลิซิช เป็นแข้งอเมริกันซึ่งเกิดที่รัฐเพนซิลวาเนีย แต่ในตอนเด็กเคยมาเล่นที่อังกฤษกับทีม แบล็คลี่ย์ ทาวน์ อยู่ปีนึงก่อนจะต้องบินกลับอเมริกาตามพ่อกับแม่ไป หลังจากนั้นก็ไปอยู่กับ มิชิแกน รัช และ พีเอ คลาสสิคส์ ก่อนจะไปคัดตัวที่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แล้วก็เริ่มลงหลักปักฐานพร้อมกับสร้างชื่อให้ตัวเองนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา


หลังเซ็นสัญญาอาชีพกับเสือเหลือง พูลิซิซ ก็ไต่เต้าจนได้เล่นทีมชุดใหญ่ตอนวัยเพียง 17 ปี ก่อนจะค่อย ๆ เบียดจนขึ้นมาเป็นตัวจริง เล่นชุดใหญ่ให้ทีม 4 ฤดูกาล ซัลโวให้ทีมไป 19 ประตู 26 แอสซิสต์ จาก 127 นัด ก่อนจะถูก เชลซี ดึงมาร่วมทีมด้วยค่าตัวสูงถึง 58 ล้านปอนด์ในเดือนมกราคมปี 2019


พูลิซิช สร้างความประทับใจแรกให้กับเชลซี ด้วยการเลือกมาซ้อมกับทีมก่อนกำหนด เพื่อต้องการปรับตัวให้พร้อมสำหรับฤดูกาลใหม่ และสามารถซัดแฮตทริกให้กับ เชลซี ได้ในเกมที่เอาชนะ เบิร์นลี่ย์ ไป 4-2 แถมยังเป็นเพอร์เฟคท์ แฮตทริค ซึ่งทำให้เขาเป็นนักเตะอเมริกันคนแรกที่ทำแฮตทริคให้เชลซี และเป็นนักเตะอเมริกันคนที่ 2 ที่ทำแฮตทริคได้ในพรีเมียร์ลีก




ขวบปีแรกของ พูลิซิช ในอังกฤษจบลงด้วยการยิงได้ 11 ประตูจาก 34 นัดในทุกรายการ ก่อนที่ปีต่อมาเขาถูกเลืิอกให้สวมเสื้อเบอร์ 10 และปิดจ็อบด้วยการเป็นส่วนหนึ่งในการคว้าแชมป์ยุโรปร่วมกับสิงห์บลูส์อย่างยิ่งใหญ่


นับจนถึงตอนนี้ พูลิซิช ลงสนามในลีกให้สิงห์บลูส์ไปแล้ว 133 นัด ยิงได้ 26 ประตู 21 แอสซิสต์ และยังเป็นนักเตะอเมริกาที่ยิงประตูในถ้วยยุโรปได้มากที่สุดอีกด้วย


ขณะที่ในนามทีมชาติ แม้ว่าอายุจะแค่ 24 ปี แต่ พูลิซิซ นั้นติดทีมชาติมาแล้ว 55 นัด ยิงได้ 22 ประตูกับอีก 13 แอสซิสต์ อีกทั้งยังสวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีมชาติ ซึ่งนับว่าเป็นกัปตันอเมริกาที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยได้รับตำแหน่งนี้ครั้งแรกตอนปี 2018 ด้วยวัยเพียง 20 ปีกับ 63 วันเท่านั้น


พูลิซิช เล่นทีมชาติมาในชุดเยาวชนยู 17 ไปถึง 34 นัด ยิงได้ 20 ประตูกับอีก เป็นกัปตันทีมและเคยพาทัพลุงแซมไปเล่นในศึกเยาวชนโลกมาแล้ว อีกทั้งยังเคยพาทีมได้อันดับ 3 ในศึกเยาวชนคอนคาเคฟตอนปี 2015 อีกด้วย


พูลิซิซ ติดทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกตอนอายุ 17 ปี จากการให้โอกาสของ เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ ก่อนจะกลายเป็นตัวหลักของทีมเรื่อยมาจนปัจจุบัน​ โดยเคยทำแฮตทริกให้ทีมชาติได้หนึ่งครั้งในเกมชนะปานามา 5-1 ตอนฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก




เจอร์เก้น คลินส์มันน์ อดีตกุนซือของอเมริกาพูดถึง พูลิซิช ด้วยความชื่นชมว่า "ในรอบหลายปีที่ผ่านมา คุณจะเห็นว่าเขามีวุฒิภาวะมากขึ้น รับผิดชอบได้มากขึ้นเกี่ยวกับตัวเองทั้งในและนอกสนาม" 


"เขาเปี่ยมไปด้วยนิสัยที่โดดเด่นและมีบุคลิกภาพที่ดีมาก ๆ ยิ่งเมื่อดูถึงสิ่งที่เขาผ่านมาในอดีต การลงตัวจริงให้ทีมชาติชุดใหญ่ตั้งแต่อายุ 17 ปี เป็นกัปตันตั้งแต่อายุ 20 นั่นมันน่ามหัศจรรย์มากเลยนะ เขากำลังทำได้ดีขึ้นทุกเรื่อง โดยเฉพาะในเรื่องความเป็นผู้นำ"


คลินส์มันน์ ยังพูดถึงผลงานของ พูลิซิช ในสโมสรด้วยว่า "ถึงตอนนี้ เขาสั่งสมประสบการณ์มากขึ้น ได้เล่นในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก มาตั้งแต่อยู่ ดอร์ทมุนด์ ก่อนจะมาคว้าแชมป์ได้กับ เชลซี เขาลงเล่นในเกมระดับสูงสัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่าจนพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ"


"การอยู่ในทีม เชลซี ซึ่งมีนักเตะดีกรีทีมชาติแทบจะทั้งหมด ทำให้เขาต้องต่อสู้แย่งตำแหน่งทุกวัน - เดิมพันคือต้องได้ลงตัวจริงหรือไม่ก็เป็นได้แค่สำรองที่ต้องรอโอกาส ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นประโยชน์แก่เขาอย่างมาก ความกดดันเหล่านี้ช่วยผลักดันให้เขาเติบโตจากวันแรกที่ผมเจอเป็นอย่างมาก" 


นับจนถึงตอนนี้ พูลิซิซ กลายเป็นหัวใจหลักคนสำคัญของอเมริกาอย่างเต็มตัว เขาเป็นทั้งกัปตันทีม เป็นซูเปอร์สตาร์ของชาติ และยังเป็นตัวความหวังในการจบสกอร์ แม้ว่าจะไม่ใช่กองหน้าอาชีพก็ตามที 


เขาทำผลงานในนามทีมชาติได้ดีเสมอมา พาทีมคว้าแชมป์คอนคาเคฟ เนชั่นส์ ลีก ในปี 2020 พร้อมกับเคยพาทีมได้รองแชมป์คอนคาเคฟ โกลด์ คัพ ในปี 2019 มาแล้วด้วยเช่นกัน


โดยในเวลานี้ พูลิซิซ อยู่อันดับที่ 7 ในชาร์ตดาวซัลโวตลอดกาลของอเมริกา ตามหลังอันดับหนึ่งอย่าง คลินท์ เดมซี่ย์ ที่ยิงไป 57 ประตูอยู่ไกลพอสมควร แต่หากมองที่อายุและฝีเท้า พูลิซิซ เองก็มีโอกาสทำลายสถิติของ เดมซี่ย์ ได้ไม่ยากเลย 




บอลโลกที่กาตาร์ปีนี้ สหรัฐอเมริกา​ผ่านเข้ารอบได้ด้วยการมี 5 คะแนนจาก 3 นัด โดยยิงประตูคู่แข่งได้เพียงแค่ 2 ลูกเท่านั้น ซึ่งในรายของ คริสเตียน พูลิซิช เองมีส่วนร่วมต่อทั้งสองประตูของทีมทั้งหมด แบ่งเป็นแอสซิสต์ 1 กับยิงเองอีก 1 ในเกมนัดสำคัญกับอิหร่าน


พูลิซิช เป็นคนแอสซิสต์ให้ ทีโมธี เวอาห์ ในเกมนัดแรกที่เสมอกับเวลส์ ก่อนจะมารับบทฮีโร่ของชาติด้วยการซัลโวประตูชัยดับอิหร่านในนัดสุดท้าย พาทีมเฉือนชนะ 1-0 เข้ารอบไปอย่างหวุดหวิด โดยเป็นทีมจากกลุ่มเอปละกลุ่มบีที่เข้ารอบ 16 ทีมด้วยการยิงประตูน้อยที่สุดอีกด้วย


พูลิซิช ลงเล่นครบทั้งสามนัดในรอบแบ่งกลุ่ม สร้่างโอกาสให้ทีมได้ 5 ครั้ง จ่ายบอลสำเร็จ 63 ครั้ง เลี้ยงบอลชนะตัวประกบทั้งหมด 3 ครั้ง และยิงตรวกรอบ 2 ครั้ง ได้หนึ่งประตู นับว่าใช้โอกาสไม่เปลือง และเป็นคีย์แมนคนสำคัญที่ทีมฝากความหวังไว้ได้สบาย ๆ เลย


เขายอมรับว่าความฝันในวัยเด็กของเขาคือการได้พาทีมชาติไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย และพาทีมไปถึงแชมป์โลกให้ได้ในสักวัน


ตอนนี้ ความฝันนั้นเป็นจริงไปแล้ว 1 อย่าง ส่วนข้อหลังอย่างการเป็นแชมป์โลกอาจเกิดขึ้นยากไปเสียหน่อย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้จริง


ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ต้องเริ่มต้นจากความฝันเป็นก้าวแรกเสมอ ฝันครั้งนี้ของกัปตันอเมริกาจะเกิดขึ้นได้ไหม เวลาจะเป็นคนให้คำตอบกับเราเอง





ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด